นิวไฮดับ41ราย! คลัสเตอร์คุกพุ่ง


เพิ่มเพื่อน    

 ติดเชื้อใหม่ 2,455 ราย เสียชีวิตนิวไฮ 41 ราย สถานการณ์โลกโดยรวมลด แต่ไทยยังคงตัว พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนต่อเนื่องจากกลุ่มเดิม มีโอกาสพุ่งสูงขึ้นหากค้นหาเชิงรุกมากขึ้น และยังพบผู้ติดเชื้อผ่านชายแดนอย่างต่อเนื่อง จับตาคลัสเตอร์ใหม่ดอนสัก-สะพานเหล็ก อัตราดับ กทม.แซงหน้าค่าเฉลี่ยประเทศ จ่อเปิดโรงพยาบาลสนามเพื่อผู้พิการ 1 มิ.ย.โมเดลระดับภูมิภาค นายกฯ หนุนการใช้ “ฟ้าทะลายโจร” รักษาอาการผู้ติดเชื้อโควิดควบคู่กับยาฟาวิพิราเวียร์

    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 26 พฤษภาคม นพ.ทวีศิลป์  วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,455 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,960 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,210 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 750 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 479 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 16 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม  137,894 ราย หายป่วยสะสม 91,765 ราย เฉพาะวันนี้หายป่วย 2,571 ราย อยู่ระหว่างรักษา 45,256 ราย อาการหนัก 1,210 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 402 ราย มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 41 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขนิวไฮ เป็นชาย 25 ราย หญิง 16 ราย อยู่ใน กทม. 16 ราย, สมุทรปราการ 7 ราย, นนทบุรี 3 ราย, ชลบุรี ปทุมธานี จังหวัดละ 2 ราย, สิงห์บุรี สุโขทัย อุดรธานี นราธิวาส เลย สกลนคร นครสวรรค์ ปราจีนบุรี ตรัง นครศรีธรรมราช สมุทรสาคร จังหวัดละ 1 ราย
    “ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เบาหวาน  ไขมันในเลือดสูง ไตเรื้อรัง โรคหัวใจ ปัจจัยเสี่ยงติดเชื้อจากคนในครอบครัว เดินทางไปในพื้นที่ระบาด รวมถึงไปในที่คนหนาแน่น โต๊ะสนุกเกอร์ สนามวัวชน จึงขอเน้นย้ำในบางจังหวัดที่อนุญาตให้สถานที่เหล่านี้เปิดได้แล้วว่ามีความเสี่ยง เพราะมีผู้เสียชีวิตจากตรงนี้แล้ว และจากข้อมูลพบว่าระยะเวลาทราบผลถึงวันเสียชีวิตยาวนานสูงสุด 69 วัน ทำให้เห็นว่าระยะเวลาการรักษานานขึ้น อาจเพราะความสามารถในการยื้อชีวิตหรือเป็นเพราะเชื้อโรค แต่ถึงอย่างไรเราจะดูแลทุกคนให้ดีที่สุด อย่างไรก็ตามทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 873 ราย
    นพ.วิษณุกล่าวว่า สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 168,514,195 ราย เสียชีวิตสะสม 3,499,434 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 16 ราย ในจำนวนนี้มี 1 รายข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติทาง เป็นชาวเมียนมา ตนขอตำหนิ โดยขณะนี้บุคคลดังกล่าวถูกกักตัวอยู่ที่  จ.ประจวบคีรีขันธ์ นอกจากนี้ขอแก้ไขข้อมูลรายงานผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากอินเดียเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ระบุว่ามี 1  รายเป็นนักการทูตจากอินเดียนั้น ขอแก้ไขข้อมูลว่าผู้ที่เดินทางจากอินเดียทั้ง 3 รายของวันที่ 25 พ.ค.เป็นคนไทยทั้งหมด ไม่เกี่ยวข้องกับนักการทูตใดๆ จึงต้องขออภัย สำหรับ 5 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดในวันที่ 26 พ.ค. ได้แก่ กทม. 975 ราย, เพชรบุรี 259 ราย, นนทบุรี 122 ราย, สมุทรปราการ 100 ราย และปทุมธานี 61 ราย ขณะที่จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่มี 16 จังหวัด ซึ่งหลายวันที่ผ่านมามีจำนวนมากกว่านี้ แสดงให้เห็นว่าแม้พื้นที่ที่ไม่มีการระบาดก็ยังระบาดเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นขอให้ทุกคนดูแลสุขอนามัยส่วนตัว
    “ในที่ประชุม ศปก.ศบค.ได้สรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลกภาพรวมลดลง ขณะที่ประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง แนวโน้มคงตัว ทั้ง กทม. ปริมณฑล และต่างจังหวัด โดยยังพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนต่อเนื่องจากกลุ่มเดิม และมีโอกาสจะพุ่งสูงขึ้นหากเราค้นหาเชิงรุกมากขึ้น รวมถึงยังพบผู้ติดเชื้อผ่านชายแดนของประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณชายแดนที่ติดกับ 3  ประเทศ คือ กัมพูชา มาเลเซีย เมียนมา ที่ต้องให้ความสำคัญสูงมาก”
คลัสเตอร์ใหม่หลายจุด
    โฆษก ศบค.กล่าวอีกว่า ในที่ประชุม ศปก.ศบค.ได้มีการสรุปการระบาดที่พบในจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยเพิ่มขึ้นที่เป็นคลัสเตอร์ใหม่ คือพื้นที่ อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี  ซึ่งเป็นโรงงานอาหารแช่แข็ง พบผู้ติดเชื้อ 11 ราย และคลัสเตอร์สะพานเหล็ก กทม. มีผู้ติดเชื้อ 12 ราย ขณะที่คลัสเตอร์อื่นๆ ที่ต้องจับตาคือ ชุมชนในตากใบ จ.นราธิวาส ที่มีบางรายเป็นเชื้อสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ส่วนสถานการณ์ใน กทม.กราฟตัวเลขผู้ติดเชื้อยังทแยงสูงขึ้น  ที่สำคัญคือผู้เสียชีวิตวันที่ 26 พ.ค.มีถึง 16 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย.-26 พ.ค. 365 ราย หรือคิดเป็น 1% ของผู้ติดเชื้อสะสมในพื้นที่ กทม.ที่มี 36,542 ราย สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลางของผู้เสียชีวิตของประเทศที่มีเพียง 0.71% อย่างไรก็ตาม ลักษณะคลัสเตอร์ของ กทม. มีแนวโน้มยังพุ่งขึ้น และขณะนี้ กทม.พบการระบาด 38  คลัสเตอร์ และมี 5 คลัสเตอร์ใหม่ คือ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งบนถนนลาดพร้าว โรงงานเย็บผ้าเขตยานนาวา ตลาดแห่งหนึ่งเขตหนองจอก เคหะแห่งหนึ่งแขวงคลองจั่น และแคมป์ก่อสร้างแห่งหนึ่งเขตสวนหลวง ส่วนคลัสเตอร์ที่ควบคุมได้แล้วก็ยังต้องระมัดระวัง  
    เมื่อถามถึงข้อสงสัยถึงผู้เสียชีวิตรายหนึ่งที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ และมีการนำศพมาเผาทันทีที่วัดแห่งหนึ่งในเทศบาลเมืองศรีสะเกษ โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสวมชุด PPE ป้องกันการติดเชื้ออย่างรัดกุม ขณะที่มีการรายงานว่าชายผู้เสียชีวิตดังกล่าวเสียชีวิตด้วยอาการโรคปอดติดเชื้อจากแบคทีเรีย เป็นการจงใจปกปิดข้อมูลเพื่อให้ตัวเลขของผู้เสียชีวิตจากโควิดต่ำกว่าข้อเท็จจริงหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข สั่งการให้มีการตรวจสอบโดยด่วน เบื้องต้นพบว่าไม่มีการปกปิดข้อมูลการเสียชีวิตแต่อย่างใด ตนได้รับรายงานจาก นพ.ชลวิทย์ หลาวทอง ผอ.รพ.ศรีสะเกษ แจ้งว่าผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นผู้ป่วยรายที่ 70 ของ จ.ศรีสะเกษ  เป็นผู้ป่วยโควิดชายไทยอายุ 61 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.เมืองศรีสะเกษ โดยได้มีการชี้แจงก่อนหน้านี้ว่าเป็นผู้ที่ติดเชื้อ โควิด เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีสะเกษตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. ผลการรักษาได้หายแล้วมีผลตรวจเป็นลบไม่มีเชื้อ และย้ายออกมารักษาต่อในโรงพยาบาล เนื่องจากพบว่ามีอาการปอดติดเชื้อแทรกซ้อนซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรีย และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พ.ค.
    “ดังนั้นเพื่อเป็นการไม่ประมาท ทางโรงพยาบาลจึงได้ป้องกันโดยให้ดำเนินการกับผู้ที่เสียชีวิตรายดังกล่าวเหมือนกับผู้ที่เสียชีวิตกับหลายคนที่เป็นโควิด ทั้งเรื่องการสวมชุด PPE และประกอบพิธีทางศาสนาในการฌาปนกิจศพ จึงเกิดภาพดังกล่าวขึ้นมา อย่างไรก็ตาม มีการตรวจสอบและรายงานมาแล้วว่า เป็นการเสียชีวิตจากปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียร่วมกับการติดเชื้อของโควิด-19 เรื่องนี้จะเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการวิชาการของกรมควบคุมโรค เพื่อตัดสินว่าจะมีการใช้รายงานว่าเป็นการเสียชีวิตจากการติดเชื้อของโควิด-19 หรือไม่ ซึ่งระบบรายงานจะมีการทำให้ถูกต้องต่อไป ยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีการปกปิดข้อมูลต่างๆ ศบค.บริหารสถานการณ์มาปีกว่า หากมีความจริงอย่างไรจะนำเรียนต่อประชาชนโดยเร็ว” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
    นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม สนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจรควบคู่กับยาฟาวิพิราเวียร์ในการรักษาอาการเจ็บป่วยของผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อที่มีภาวะอักเสบ ซึ่งกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก  กระทรวงสาธารณสุข ได้ยืนยันว่าฟ้าทะลายโจรไม่มีฤทธิ์ป้องกันโควิด-19 แต่อาจใช้เพื่อปรับระบบภูมิคุ้มกันได้ ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกยืนยันว่า ฟ้าทะลายโจรมีแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ซึ่งเป็นสารสำคัญมีฤทธิ์ต้านไวรัส และในการวิจัยพบว่าสามารถฆ่าไวรัสในหลอดทดลอง และยังฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางตัวในหลอดทดลองได้ด้วย  
หนุนใช้ยาฟ้าทะลายโจร
    นายอนุชากล่าวว่า ฟ้าทะลายโจรยังเป็นยาลดไข้ บรรเทาอาการหวัดที่ดีและลดการอักเสบ โดยใช้เป็นยาในบัญชียาหลักในการรักษาโรคหวัดตั้งแต่ปี 2559 และสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีภาวะอักเสบ ฟ้าทะลายโจรสามารถช่วยลดการอักเสบและส่งเสริมภูมิคุ้มกันได้ ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยกำลังศึกษาวิจัยเพิ่มเติมการใช้ฟ้าทะลายโจรเพื่อป้องกันโควิด-19 อีกด้วย ปัจจุบันความต้องการสมุนไพรในตลาดโลกมีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากกระแสความใส่ใจในการดูแลสุขภาพ การป้องกันโรคด้วยวิถีธรรมชาติด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการและอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย ดังนั้น รัฐบาลจึงเร่งผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกวัตถุดิบสมุนไพรคุณภาพและผลิตภัณฑ์สมุนไพรชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสมุนไพรไทยในตลาดต่างประเทศ ซึ่งสมุนไพรและเครื่องเทศในตลาดโลกมีมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งมั่นใจว่าสมุนไพรไทยจะช่วยสร้างมูลค่าให้อุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น เครื่องสำอางและอาหารเสริม ตามนโยบาย BCG ของท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลด้วย
    โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยด้วยว่า  นายกรัฐมนตรีได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทั้งทหาร ตำรวจ และกองกำลังต่างๆ ให้เพิ่มความเข้มงวด และเพิ่มมาตรการป้องกันชายแดนอย่างเต็มที่ เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย โดยเฉพาะที่ลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ รวมถึงการเพิ่มมาตรการในการปฏิบัติ เช่น เพิ่มจุดเฝ้าระวังในพื้นที่ที่เป็นช่องทางธรรมชาติ ทั้งนี้ มีการตั้งจุดตรวจและจุดสกัด จำนวน 76 จุด และจุดตรวจทั่วประเทศจำนวน 1,323 จุด  รวมทั้งเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดตามจุดผ่านด่านทั่วประเทศ เพื่อเฝ้าระวังชาวต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง
    วันเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ร่วมกับนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข, นางพัชรี อาระยะกุล และปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามบ้านวิทยาศาสตร์ สิรินธร เพื่อคนพิการ ณ อาคารบ้านวิทยาศาสตร์ สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย อําเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
    ระหว่างการตรวจเยี่ยมนายสาธิตกล่าวว่า การระบาดในระลอกนี้ต้องยอมรับว่าได้กระจายตัวอยู่ในสังคมและในทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นคนพิการหรือคนในครอบครัว ในส่วนนี้ต้องการการดูแลคนพิการซึ่งต้องใช้ผู้มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ กระทรวงสาธารณสุขโดยสถาบันสิรินธร มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการดูแลคนพิการ จึงเข้ามาจัดตั้งโรงพยาบาลสนามให้ดูแลผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้พิการ ร่วมกันกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินที่ต้องจัดการแบบพิเศษให้ความสำคัญ
     ด้านนายจุรินทร์กล่าวว่า วันนี้สนับสนุนให้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อคนพิการ โดยตั้งเป้าหมายว่าจะเปิดให้บริการได้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ตนและคณะกรรมการแห่งชาติทั้งหมดจะช่วยดูความพร้อมและช่วยประชาสัมพันธ์ โดยที่นี่จะเป็นต้นแบบในการดำเนินการต่อไปถ้ามีความจำเป็นในพื้นที่ต่างๆ ขอขอบคุณทั้ง 3 กระทรวง ทุกหน่วยงาน เจ้าของพื้นที่ที่ช่วยส่งเสริมให้ทุกอย่างสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ขอบคุณบุคลากรทุกท่านที่ทำให้ทุกอย่างมีความหวังสำหรับคนพิการ
    น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โรงพยาบาลสนามบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธรเพื่อคนพิการจะเปิดให้บริการแก่ผู้ป่วยพิการอายุ 15-65 ปี ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ รพ.สนามแห่งนี้ถือเป็นโมเดลระดับภูมิภาคในการดูแลผู้พิการที่ป่วยด้วยโรคไวรัสโควิด-19 ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการไม่มาก สามารถรองรับผู้ป่วยพิการได้จำนวน 224 เตียง และความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ มีการใช้นวัตกรรมและระบบเทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วยระหว่างการรักษาตัว อาทิ รถเข็นบังคับระยะไกลส่งของให้ผู้ป่วย เครื่องฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงยูวีซีเพื่อลดการแพร่เชื้อ ระบบ TTRS  (เครื่องช่วยสื่อสารสำหรับคนหูหนวก) เปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยความดันลบ
ผู้ต้องขังยังติดเชื้อเกินพัน
    นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษกศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรมราชทัณฑ์ (ศบค.รท.)  เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน ข้อมูล ณ วันที่ 26  พฤษภาคม 2564 เวลา 09.00 น. มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่จำนวน 1,243 ราย รักษาหาย 13 ราย เสียชีวิต 3 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังที่ยังติดเชื้ออยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 17,138 ราย และตรวจพบผู้ติดเชื้อในเรือนจำจังหวัดสงขลาเพิ่ม 1 แห่ง รวมเรือนจำ/ทัณฑสถานที่ยังมีผู้ติดเชื้อจำนวน 14 แห่ง   
    นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า จากการรายงานมีเยาวชนจากสถานพินิจฯ ติดเชื้อโควิด-19 ตนได้หารือและเน้นย้ำกับ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ให้ยึดตามแนวทางของ ศบค.อย่างเคร่งครัด และฝากความห่วงใยถึงเยาวชนและเจ้าหน้าที่ทุกคน ขอให้เข้มแข็งและร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ที่กระทรวงยุติธรรมและกรมกำหนด โดยเฉพาะมาตรฐาน Standard Operating  Procedure (SOP) หากปฏิบัติตามจะช่วยให้ไม่มีผู้ติดเชื้อหรือติดเชื้อน้อย และจะสามารถแก้ปัญหาต่างๆ  ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังให้ยกระดับการเฝ้าระวัง ประสานงานกับ ศบค.จังหวัด หรือหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ตรวจหาเชื้อกับเยาวชนเชิงรุก ให้ชะลอการย้ายเด็กและเยาวชนไปก่อน ให้เพิ่มวันเวลาการให้บริการเยี่ยมญาติทางไกลเพื่อลดความวิตกกังวล รวมถึงการจัดเตรียมพื้นที่ในสถานพินิจฯ เป็นโรงพยาบาลสนามชั่วคราว เพื่อรองรับการรักษาผู้ป่วยในสถานพินิจฯ ที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ไว้ด้วยแล้ว.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"