'บิ๊กตู่' ย้ำไม่มีปัญหา อปท.จัดงบซื้อวัคซีนเอง ถ้ากม.ทำได้ ห่วงแต่ละจังหวัดงบไม่เท่ากัน


เพิ่มเพื่อน    

31 พ.ค.64 - เมื่อเวลา 13.40 น. ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว. กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด - 19  กรุงเทพมหานคร - สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย - เซ็นทรัลเวิลด์ – โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ว่า เรามีงบเพียงพอในการจัดหาวัคซีนแน่นอน ปัญหาก็คือเขาจะขายวัคซีนให้เราเท่าไหร่ ปัญหาไม่ใช่ว่าเราไม่มีเงินซื้อวัคซีน มีมากให้มากเราก็ซื้อมาก มันขึ้นอยู่กับบริษัทใหญ่เขาบริหาร แต่ยืนยันว่าในเดือนมิถุนายนเราจะได้วัคซีนแอสตราเซเนกาเข้ามาแน่นอน ซึ่งเราก็ยังมีช่องทางอย่างราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งเราได้จองวัคซีนซิโนฟาร์ม ที่ได้ลงทะเบียนกับรัฐบาล บริษัทเขาก็บริหารโดยแบ่งยอดวัคซีนไปทางโน้น ซึ่งก็ต้องมาดูอีกว่าบริษัทเขาจะให้ยอดเราเท่าไหร่

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนในเรื่องของงบประมาณท้องถิ่นที่จะนำไปจัดซื้อวัคซีน ตนไม่มีปัญหาถ้าทำได้ แต่ข้อสำคัญคือท้องถิ่นมีงบเท่ากันหรือไม่ และจะทำให้เกิดปัญหาหรือเปล่า แต่รัฐบาลยืนยันว่าไม่มีปัญหาในตรงนี้ การกระจายวัคซีนเราได้แจกจ่ายให้ครบ 76 จังหวัด คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร ส่วนลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อมก็อีกเรื่องหนึ่ง รวมถึงการเปิดให้ลงทะเบียนช่องทางอื่นที่ไม่เกี่ยวกับหมอพร้อม แต่ทุกอย่างก็ต้องมารวมกับหมอพร้อม เพราะต้องมีการติดตามหลังการฉีด วันนี้ยอดรวมมีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 3-4 ล้านราย ก็คิดว่าคงดำเนินการได้ตามแผนถ้ามีปัญหาก็ต้องแก้ไข ทั่วโลกมีความต้องการวัคซีนสูงขึ้น โดยเฉพาะประเทศรอบบ้าน ประเทศไทยแม้จะมีผู้ติดเชื้อ 3-4 พันคนทุกวัน แต่เราก็ต้องเอาเข้ามาอยู่ในระบบให้ได้ เอาเข้ามาอยู่ในพื้นที่ควบคุมให้ได้ การตรวจโควิด-19เชิงรุก ข้อสำคัญอยู่ที่ว่าขีดความสามารถของเรารองรับได้หรือเปล่า ซึ่งวันนี้เรายังรองรับได้อยู่

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนที่กรมราชทัณฑ์มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ก็ไม่ต้องกังวลมากนัก เพราะอยู่ในพื้นที่ที่ควบคุมได้ คนที่เป็นโรค คนที่ต้องรักษา การนำเข้าสู่ระบบ คนที่ยังไม่ติดก็ต้องป้องกันระมัดระวัง มีมาตรการที่ชัดเจน แต่บางสถานที่มันแออัดก็เป็นห่วงเรื่องของแรงงาน โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯมีปัญหาแน่นอนเนื่องจากคับแคบแออัด ซึ่งเรื่องแคมป์คนงานก็เป็นปัญหาที่หลายประเทศก็เจอ ทั้งสิงคโปร์ ไต้หวัน ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฉะนั้นถ้าทุกคนทำตามกรอบกฎหมาย มีการตรวจสอบ ก็น่าจะควบคุมได้ เว้นเสียแต่ว่ามีการลักลอบเข้าเมือง ซึ่งตนก็ได้ย้ำไปแล้วว่าใครเข้ามายุ่งเกี่ยวในขบวนการนี้ต้องถูกลงโทษสถานหนัก มีบางคนเสนอให้วางลวดหีบเพลงรอบประเทศ ไปคิดดูสิว่ามันตั้งกี่กิโลเมตร และถ้าวางไว้ไม่มีคนเฝ้ามันจะทำได้หรือไม่ เราต้องกระจายคนไปวางทุกตารางเมตรเลยหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน ซึ่งเราก็วางแผนตรวจเข้มทุกช่องทางที่ข้ามไปข้ามมาอยู่ ส่วนพื้นที่อื่นก็ใช้การลาดตระเวนเอา

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ตนก็ได้คุยกับประธานหอการค้าว่าจะซื้อวัคซีนที่ไหนก็ตาม อยู่ที่บริษัทเขาจะขายให้ เพราะมีเงินบางครั้งก็ซื้อไม่ได้ทั้งหมด ถ้าเขาไม่ขาย ซึ่งบริษัทเขามีสาขา เขาก็ต้องไปบริหารในบริษัทใหญ่ในภาพรวม แต่โชคดีที่เราได้มีการเจรจาตรงนี้ไปแล้ว อาจจะพูดจากันได้ง่ายหน่อย ซึ่งบริษัทเป็นเรื่องของการค้าโดยการพาณิชย์ของเขา แต่ช่องทางการนำเข้าคือรัฐบาล ไม่ว่าจะซื้อจากที่ไหนก็ตามต้องเอาจำนวนของรัฐบาลไปแบ่งให้กับตรงโน้น

เมื่อถามว่า ที่นายกฯเห็นด้วยที่จะให้อปท.ซื้อวัคซีนต้องไปแก้คำสั่งของกระทรวงมหาดไทยด้วยหรือไม่และจะทำได้เมื่อไหร่ นายกฯ กล่าวว่า กฎหมายว่าอย่างไรล่ะ ถ้ามันได้มันก็ได้แหละ ไม่มีปัญหาหรอก ต้องไปดูให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อน เพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย และเรื่องของเงินท้องถิ่น มันเท่าเทียมกันทุกจังหวัดหรือเปล่า จะทำอย่างไรกับการบริหารตรงนี้ ถึงอย่างไรก็ตามรัฐบาลยืนยันว่าจะจัดหาวัคซีนให้กับทุกท้องถิ่นอยู่แล้ว ฉะนั้นเราต้องให้ตามข้อเท็จจริงและตามข้อมูลของแต่ละจังหวัด มากบ้างน้อยบ้างก็ต้องเข้าใจว่าเราบริหารให้คนหลายสิบล้านคนมันลำบากเหมือนกัน แต่รัฐบาลก็จะทำเต็มที่

นายกฯ กล่าวว่า จะปลดล็อคอะไรถ้าเขาทำได้ก็คือทำได้ ก็ศึกษาตามข้อกฎหมาย ถ้าทำได้ก็ทำเลย ปัญหาอยู่ที่ว่าทำได้จริงหรือเปล่า มีเงินเพียงพอหรือไม่ ทุกจังหวัดจะว่าอย่างไรถ้าจังหวัดโน้นได้มากกว่า และจังหวัดนี้ได้น้อยกว่า ตนไม่อยากให้เป็นปัญหาทางการเมืองต่อไป ก็ยินดีที่วันนี้ภาคประชาชนมาร่วมมือ องค์การบริหารวัคซีนตนก็พูดมาตั้งแต่ปี 62 ว่ารัฐบาลจะเดินหน้าวัคซีนแม้กระทั่ง วัคซีนที่จะมาในอีก 2-3 วันข้างหน้า ที่ให้ราชวิทยาลัยฯไปใช้ก็เป็นวัคซีนที่รัฐบาลดีลไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งวัคซีนที่เข้ามาแต่เดิมรัฐบาลได้ 2 ล้านโด๊ส ก็จะเหลือ 1 ล้านโด๊ส เป็นของราชวิทยาลัยฯ 1 ล้านโด๊ส ก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นเรื่องของการที่ให้ประชาชนอยู่แล้ว ตนจะไปมีปัญหาอะไรล่ะ ฉะนั้นการจัดซื้อมี 2 อย่างคือ ซื้อได้และซื้อไม่ได้ และมีวัคซีนให้ซื้อหรือเปล่า ต้องคิดตรงนี้ด้วย

นายกฯ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาจะได้มากน้อยแค่ไหนต้องใช้สติปัญญาและความร่วมมือของทุกคน เรื่องนี้ตนโทษใครไม่ได้ แล้วแต่จะคิด แต่ขอความกรุณาให้ฟังว่ารัฐบาลพูดอะไร โดยเฉพาะตนพูดอะไร และไม่ใช่ว่าตนพูดวันนี้แล้วไปลบคำเก่า เพียงแต่ถ้ามันจำเป็นต้องเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน ตนตัดสินใจผ่านศบค.ซึ่งมีกระทรวงต่างๆรวมทั้งรมว.สาธารณสุข ที่มีการหารือในรายละเอียดกัน แนะนำข้อสรุปที่เป็นมติมาขออนุมัติจากตน ซึ่งถ้าเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไรก็พร้อมอนุมัติ ไม่ใช่อยู่ดีๆแล้วตนจะสั่งให้ทำทันที มันไม่ได้ เราต้องทำงานเป็นคณะ

“ยืนยันว่าผมไม่ได้รวบอำนาจ มีการตั้งกลไกขึ้นมาบริหารวัคซีนเพื่อแก้ปัญหาโควิด ซึ่งรับฟังความเห็นจากทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะแพทย์ พยาบาลและบุคลากรด้านสาธารณสุข แล้วจะไม่เชื่อพวกเขาหรือ ขอร้องอย่าไปฟังคำพูดที่บิดเบือนเยอะๆ มันอันตราย วันนี้เราต้องมีภูมิต้านทาน โดยเฉพาะไม่เชื่ออะไรง่ายๆ อย่าปล่อยให้เขาชักจูงอะไรง่ายๆก็แล้วกัน ผมยืนยันรัฐบาลทำเต็มที่ให้ประชาชนและประเทศชาติ" ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายกฯพูดถึงตรงนี้ได้เอามือทุบไปที่หน้าอกข้างซ้าย 3 ครั้ง พร้อมกล่าวว่า มันคือหน้าที่ของผม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่ออีกว่า การตรวจคุณภาพวัคซีนนั้น ของมันมาเยอะก็ต้องใช้เวลาตรวจสอบ ประมาณ 7 วัน ซึ่งวันนี้ก็เร่งรัดไปแล้วให้เร็วขึ้น ยืนยันว่ามีวัคซีนแน่นอน เพียงแต่ว่าวันนี้จะมากน้อยแค่ไหน แต่น่าจะเพียงพอที่จะฉีดในเดือนมิถุนายน และมีหลายยี่ห้อ ทั้งนี้ นายกฯต้องฟังทุกเรื่อง ฟังทุกคนและต้องพยายามทำให้ไม่งง ซึ่งมีการเช็คข้อมูลโดยตรงกับกระทรวงสาธารณสุขว่าเท่าไหร่ อย่างไร ต่างคนก็หวังดีพูดนั่นพูดนี่ไป แต่ทำได้หรือไม่คืออีกเรื่อง ขอให้ฟังตน ซึ่งยืนยันว่าจะทำให้ประชาชนคนไทยได้ฉีดวัคซีนทุกคน เว้นแต่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในโลกที่วันนี้ก็ยังไม่รู้ ดูสถานการณ์รอบบ้านเรา โดยเฉพาะในภูมิภาคเกิดอะไรขึ้นบ้าง ความขัดแย้งก็สูง รวมถึงในภูมิภาคอื่นๆที่ไม่ใช่ปัญหาแค่โควิด-19 อย่างเดียว ประเทศไทยอยู่ท่ามกลางสถานการณ์โดยรอบอย่างนี้ เราจึงต้องบริหารอย่างนี้ ให้มีการถ่วงดุลอำนาจให้ได้ ให้เราเป็นหลักแกนกลางของอาเซียนให้ได้ มองอย่างนั้นด้วย ไม่ใช่มองเฉพาะประเทศเรา ตัวเรา กลุ่มเรา นายกฯไม่ใช่กลุ่มใครทั้งสิ้น นายกฯไม่มีธุรกิจแต่นายกฯจะดูแลธุรกิจ นี่คือหน้าที่นายกฯหน้าที่รัฐบาล ยืนยันว่าในวันที่ 7 มิถุนายน จะต้องมีวัคซีนแอสตราเซเนกาฉีดแน่นอน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจร ควบคู่กับยาฟาวิพิราเวียร์ ในการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่า เรื่องนี้ตนพูดไปแล้ว และกำลังผลักดันอยู่ ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการหารือทั้งกระทรวงสาธารณสุขและแพทย์แผนไทย ซึ่งในบ้านเรามีตำรับยากว่า 2,000 ชนิด ก่อนจะมีฟาวิพิราเวียร์ ตนจึงสั่งให้ไปคัดมา เอาอันที่มีประโยชน์ที่สุด วันนี้ก็เป็นฟ้าทะลายโจร มาใช้คู่กับฟาวิพิราเวียร์ ที่เดิมใช้สำหรับผู้ที่มีอาการหนัก แต่วันนี้ต่างประเทศมีการปลดล็อคว่า ฟาวิพิราเวียร์สามารถให้ก่อนอาการหนักได้ เราก็เติมไปว่าก่อนที่จะมีอาการตรงนี้ให้ใช้ฟ้าทะลายโจรประกอบด้วยได้ เพื่อให้ปอดขยายตัวได้

"เขาเรียกว่าคนละขั้นตอนตามกระบวนการ หลายคนจะกลายเป็นบอกว่าฟ้าทะลายโจรอย่างเดียววัคซีนไม่ต้องฉีด มันไม่ได้ หรือไปกินอะไรที่เขาบอกกันมาเยอะๆกินโน่นกินนี่แก้มะเร็ง มันแก้ไม่ได้หรอก แต่มันประกอบกันได้ ยาสมุนไพรนั้นจะช่วยในขั้นปฐมภูมิ ทำให้ร่างกายเราแข็งแรงก่อน เหมือนสมัยโบราณที่เขาอยู่กันมาแบบนี้ แต่ถ้าเมื่อมีโรคก็ต้องไปหาหมอ "นายกฯกล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"