หนักหนา-สาหัส!!!


เพิ่มเพื่อน    

 

           ดูจาก ตัวเลข มันก็ออกจะน่ากลัวเอาเรื่อง พอสมควรนั่นแหละทั่น!!! สำหรับการแพร่ระบาดของท่านเชื้อไวรัสโควิดในช่วงระยะนี้ คือจากช่วงที่เคย อยู่-ดี-มี-สุข เคยยืดอก ยืดไหล่ ในฐานะประเทศแนวหน้าของโลกในการรับมือกับเชื้อไวรัสชนิดนี้ เพราะจำนวนตัวเลข ผู้ติดเชื้อ ต่อวันอยู่ที่ระดับ 0 เกือบเป็นเดือนๆ แต่มา ณ ขณะนี้  หรือเมื่อช่วงศุกร์ที่ผ่านมา (28 พ.ค.) ดันพุ่งพรวดๆ พราดๆ ขึ้นไปถึง 5,290 ราย ชนิดไม่ได้คิดจะหัวตกเอาเลยแม้แต่น้อย!!!

                                                                --------------------------------------------

            อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยทำให้ใครต่อใครอด หูแหก-ตาแหก ตามไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้ แม้แต่ในแถบชนบทที่ผู้คนน่าจะ เว้นระยะห่าง กันโดยอัตโนมัติ แต่เห็นว่าแถบๆ เขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ถึงขั้นต้อง ล็อกดาวน์ ห้ามเข้า-ห้ามออกกันไปแล้วถึง 6 ตำบลเอาเลยถึงขั้นนั้น ด้วยเหตุนี้...สำหรับ กทม. เมืองที่คนตกท่อ หรือเต็มไปด้วยผู้คนแออัด ยัดเยียด กันมาโดยตลอด มันจะถึงไหนต่อถึงไหน ก็ยังมิอาจจินตนาการออกมาได้ง่ายๆ ได้แต่ชักสะพานแหงนเถ่อ รอวัคซีน กันไปเป็นรายๆ โดยจะ แอสตร้าเซนเนก้า หรือจะ ซิโนฟาร์ม สุดท้าย...มันคงถูกทำให้กลายเป็นเรื่อง เป็นราว ขึ้นมาจนได้...

                                                               -----------------------------------------------

            แถมด้วยภูมิประเทศ ภูมิรัฐศาสตร์ ของประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา...ยังออกจะเป็นอะไรที่  ลำบาก ต่อการสกัดกั้น การอินเตอร์เซ็ปต์ หรือการไอรอนโดม ต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรคชนิดนี้มิใช่น้อย  ด้วยเหตุเพราะรอบๆ บ้าน ดันติดต่อ ใกล้ชิด ติดพันกับประเทศบ้านใกล้-เรือนเคียงถึง 4 ประเทศด้วยกัน ขณะที่ด้านใต้สุดอย่าง เสือเหลือง-มาเลเซีย นั้น เห็นว่ากลายเป็น เสือลำบาก  หรือเผลอๆ กลายเป็น เสือครัว เอาเลยก็ไม่แน่!!! คือเจอกับจำนวนตัวเลข ผู้ติดเชื้อ ระดับวันละ 9,000 กว่าราย หนักกว่าบ้านเราเกือบเท่าตัว ชนิดว่ากันว่า...อาจต้องนำเอามาตรการแบบอิตาลีมาใช้กันมั่งแล้ว  คือต้องปล่อยให้ตาย...กับ...ตาย กันไปตามมี-ตามเกิด  สำหรับผู้ที่ ไม่ไหวจะอยู่ ทั้งหลาย....

                                                                 --------------------------------------------------

            ส่วนพม่า หรือเมียนมานั้น...แทบไม่ต้องเสียเวลาพูดถึง เพราะไม่ใช่แค่โควิด-ไม่โควิด แต่ดันเจอ เผด็จการกระด้างภัณฑ์ เจอกับการรัฐประหารบวกเข้าอีกดอก โดยแนวโน้มและความเป็นไป ว่ากันว่า...ถึงขั้น ระบบสาธารณสุขทั้งระบบ น่าจะ ล่มสลาย กันไปเป็นที่เรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว เอาง่ายๆ...แค่แถวๆ รัฐชิน แถบตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่มีอยู่เพียงแค่ 11 คน  แต่ไปประท้วง หรือไปทำอะไรก็แล้วแต่ จนเหลือเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการได้เพียงแค่ 3 คน เท่านั้นเอง ขณะที่ต้องรับผิดชอบ ดูแล ต่อภาวะสุขภาพของผู้คนจำนวนกว่า 10,000  คน เป็นอย่างน้อย...

                                                                --------------------------------------------------

            ด้วยเหตุนี้...ก็แทบไม่ต้องพูดถึงระบบการตรวจเชื้อ หาเชื้อ ไปจนถึงการดูแล รักษา เอาเลยก็ว่าได้ เพราะจากครั้งที่ยังไม่ได้เกิดรัฐประหาร การตรวจเชื้อหาจำนวนผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อ ยังพอครอบคลุมได้ในระดับประมาณ 17,000 ครั้งต่อวัน แต่มาถึงทุกวันนี้...เห็นว่าตรวจได้ เช็กได้ กันแค่วันละ 1,200 ครั้งต่อวันเท่านั้นเอง แถมบุคลากรทางการแพทย์ หรือบรรดาพวกหมอๆ ดันถูก เผด็จการกระด้างภัณฑ์ จับกุมคุมขังไปแล้วถึง 150 คนเป็นอย่างน้อย นี่...ว่ากันตามตัวเลขสถิติของเจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลก ที่ออกมาเปิดเผยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา...

                                                                  ------------------------------------------------

            ส่วนลาวนั้น...อาจจะเบาหน่อย เพราะผู้คนค่อนข้างน้อย และโดยสภาพแวดล้อมก็พอจะ เว้นระยะห่าง ระหว่างกันและกันได้พอสมควร แต่กระนั้น ถึงขั้นต้อง ปิดด่าน สกัดกั้นไม่ให้ผู้คนบ้านเราไปบ้านเขา หรือออกจะ กลัวเรา มากกว่า กลัวเขา แต่สำหรับเขมร หรือกัมพูชานี่สิ!!! ที่สามารถใช้ ช่องทางธรรมชาติ เข้าๆ-ออกๆ ข้ามไปเล่น ข้ามไปเปิดบ่อน กันโดยตลอด เห็นว่า...ล่าสุดเจอกับการติดเชื้อระดับ คลัสเตอร์ ในเรือนจำจังหวัดกันดาล คราวละเป็นร้อยๆ อีกเหมือนกัน อันทำให้ใครจะกลัวใครมากไปกว่าใคร ก็ยังมิอาจสรุปได้ชัดเจน...

                                                               -------------------------------------------------

            แต่เอาเป็นว่า...เจอเข้ากับแนวชายแดนล้อมรอบทั้ง 4  ด้าน อันเต็มไปด้วยผู้คนที่อมโรคไปด้วยกันทั้งนั้น บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบทั้งหลาย น่าจะเหนื่อย...กับ...เหนื่อย  ชนิดสายตัวแทบขาดอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้  นั่นยังไม่รวมไปถึงการคิดจะเปิดบ้าน เปิดด่าน เพื่อเตรียมหารายได้จากบรรดา นักท่องเที่ยว ในอีกไม่กี่เดือนที่จะถึง โอกาสที่อาจต้องเจอกับสายพันธุ์อังกฤษ บราซิล  อินเดีย ฯลฯ แอบมุดเข้ามาด้านโน้น-ด้านนี้ ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย เฮ้ออ์อ์อ์...อะไรมันจะชั่งหนักหน่วง หนักหนา สาหัสเท่านี้ ย่อมไม่มีอีกแล้ว...

                                                                  -------------------------------------------------

            ภายใต้สภาวการณ์ในลักษณะทำนองนี้นี่เอง...ที่สิ่งที่คงต้องควานหา เพรียกหา คงหนีไม่พ้นสิ่งที่เรียกว่า ศรัทธา นั่นแหละที่จะต้องมีมาก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะอยู่ในรูป ตายกันไปเลยครับพี่น้อง...ผมรับผิดชอบเอง!!! รูปกฎหมาย 40 ฉบับ 37 ฉบับ หรือรูปอะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ ที่จะต้องรีบปลูก รีบสร้าง ขึ้นมาให้จงได้  อย่างน้อย...ก็เพื่อ สะกด อาการพล่าน อาการสับสน  ระส่ำระสาย ที่มันสามารถนำไป แปรรูป ให้กลายเป็นอะไรที่ออกไปทาง ร้ายๆ ได้เสมอ ยิ่งในโลกยุคใหม่ สมัยใหม่ โลกอินเทอร์เน็ตด้วยแล้ว อะไรที่ร้ายๆ มันยิ่งมีสิทธิ์ร้ายๆ หนักขึ้นไปใหญ่ จะแค่ฮึมๆ ฮัมๆ เพียงแค่ว่า เราจะทำอย่างซื่อตรง-ขอแค่เธอจงไว้ใจและศรัทธา-แผ่นดินจะดีในไม่ช้า-ขอคืนความสุขให้เธอ...ประชาชน แบบเมื่อ 7 ปีที่แล้ว มันคงไม่น่าจะได้อีกต่อไปแล้ว ส่วนควรจะทำอะไรต่อมิอะไรบ้างนั้น ก็แล้วแต่... เธออ์อ์อ์ ก็แล้วกัน!!!

                                                                      -------------------------------------------------

            ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Anon (อีกครั้งและอีกครั้ง)...Sorrow looks back, worry looks round, faith looks up. - ความทุกข์มองไปข้างหลัง ความวิตกกังวลมองไปรอบๆ ความหวังมองสู่เบื้องบน...”

                                                                    ------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"