ปรับปรุง กม.-ขันนอตปราบ‘ข่าวปลอม’


เพิ่มเพื่อน    

   อีกหนึ่งภารกิจหนักของรัฐบาล ในยุคข่าวปลอมหรือเฟกนิวส์ระบาดทางโซเชียลมีเดีย จน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ต้องขันนอตทุกกระทรวงช่วยกันสกัด เพราะนอกจากข่าวปลอมจะสร้างความสับสน ความกังวล และความตื่นตระหนกให้กับประชาชนในเรื่องต่างๆ แล้ว ยังส่งผลต่อความเชื่อมั่น เพราะหลายๆ เคสฉวยโอกาสโจมตีและดิสเครดิตรัฐบาล

            ซึ่งนั่นจะทำให้การทำงานของภาครัฐยากลำบากมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะข่าวปลอมช่วงนี้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และส่งผลต่อสภาพจิตใจของประชาชนที่เดือดร้อนจากผลกระทบโควิดหนักอยู่แล้ว จึงเป็นช่องว่างที่ฝ่ายสร้างเฟกนิวส์ใช้

            เห็นได้ว่าช่วงหลังนี้ “บิ๊กตู่” จะเน้นย้ำเสมอให้ประชาชนระมัดระวัง เลือกรับข่าวสารจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ โดยให้ฟังจากหน่วยงานของรัฐบาลเป็นหลัก ตรวจสอบความถูกต้องก่อนส่งต่อหรือแชร์ข้อมูล เพื่อช่วยลดปัญหาข่าวปลอม ไม่เป็นการสนับสนุนกระบวนการผลิตข่าวปลอมที่สร้างความสับสนในสังคม อีกทั้ง “บิ๊กตู่” ได้กำชับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ลุยปราบข่าวปลอมอย่างเข้มข้น

            และล่าสุด คณะกรรมการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ ได้ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานด้านการปรับปรุงกฎหมายลำดับรองตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพื่อปรับปรุงประกาศกระทรวงฯ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ที่ใช้บังคับมานาน เพื่อให้ทันสมัย สอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่เป็นสากล และสามารถพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน ทั้งในโซเชียลมีเดียและดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ

            ซึ่งคณะทำงานอยู่ระหว่างการพิจารณา (ร่าง) ประกาศกระทรวงดิจิทัลฯ เรื่องหลักเกณฑ์การจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ พ.ศ. .... และแนวทางการกำกับดูแลและการลงทะเบียนผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย โดยดูจากแนวทางของต่างประเทศเป็นต้นแบบ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนนี้ ก่อนจะรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องตามขั้นตอน

            นอกจากนี้ยังได้แต่งตั้งอนุกรรมการ 3 คณะเพื่อดำเนินการ ได้แก่ 1.คณะอนุกรรมการปรับปรุงกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 2.คณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางและหลักเกณฑ์การดูแลการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) และ 3.คณะอนุกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์

            ขณะเดียวกันยังมี “ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม” ที่ “ดีอีเอส” ทำงานควบคู่กับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ที่ล่าสุดเผยผลงานสกัดข่าวปลอมในช่วง 2 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤษภาคม 2564 สามารถดำเนินการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด 683 เรื่อง ได้รับการตรวจสอบแล้ว 348 เรื่อง ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบแล้ว 160 เรื่อง แบ่งเป็น ข่าวปลอม 121 เรื่อง ข่าวจริง 15 เรื่อง บิดเบือน 24 เรื่อง

            นอกจากนี้ “ดีอีเอส” ได้ดำเนินการปิดกั้นข้อมูลที่เข้าข่ายการกระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอปิดกั้น จำนวน 16 คำร้อง 349 ยูอาร์แอล ศาลมีคำสั่งให้ระงับแล้ว 4 คำร้อง และเรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล จำนวน 12 เรื่อง 256 ยูอาร์แอล อีกทั้งได้ดำเนินการแจ้งเตือนแพลตฟอร์มให้ปิดกั้นข้อมูลตามคำสั่งศาล 35 คำสั่ง 726 ยูอาร์แอล และแจ้งความดำเนินคดีในกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ตามมาตรา 27 แบ่งเป็น เฟซบุ๊ก 321 ยูอาร์แอล ทวิตเตอร์ 155 ยูอาร์แอล

            ส่วนการดำเนินคดีตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จำนวน 4 เรื่อง 6 ราย และดำเนินการตักเตือนให้ลบโพสต์และแก้ไขข่าว โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จำนวน 4 เรื่อง 12 ราย บช.สอท.ได้ดำเนินการสืบสวนพิสูจน์ตัวตนผู้ใช้บัญชีโซเชียลมีเดียที่ใช้กระทำความผิดเกี่ยวกับข่าวปลอม เรื่อง โรงพยาบาลเมดพาร์ค เปิดให้ลงทะเบียนจองวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา จำนวน 11 กรณี ระบุตัวตนได้ 5 ราย อยู่ระหว่างสืบสวน 6 ราย และกรณีบิดเบือนวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 25 กรณี ระบุตัวตนได้ 19 ราย และอยู่ระหว่างสืบสวน 6 ราย

            ขณะเดียวกัน รัฐบาลโดยกระทรวงดีอีเอสยังได้ผลักดันให้มี “ดิจิทัลจังหวัด” เป็นกลไกช่วยเหลือสนับสนุนการทำงานในระดับจังหวัด เพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และสอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน

            ทั้งนี้ จากมาตรการรัฐที่เข้มข้นขึ้นแบบทวีคูณในตอนนี้ บวกกับแนวทางการปรับปรุงกฎหมาย ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการฟันข่าวปลอม รวมถึงข้อสั่งการของ “บิ๊กตู่” ให้ทุกกระทรวงช่วยกันชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างทันท่วงทีหากพบข้อมูลที่ไม่ใช่ความจริง ซึ่งการบูรณาการทำงานในครั้งนี้ คาดว่าจะทำให้การกวาดล้างข่าวปลอมเห็นผลมากยิ่งขึ้น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"