รถชนหัวเละ พ่อเข้าใจผิดลูกชายตายนำร่างจัดงานศพ ลูกตัวจริงโผล่ช็อกทั้งงาน


เพิ่มเพื่อน    

หนุ่มวัย 38 ชาว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ หายจากบ้าน 3 วัน บังเอิญมีอุบัติเหตุรถชนคนตายหน้าเละแขนขาขาด พ่อไปดูศพที่เกิดเหตุเห็นรอยสักที่แขนคิดว่าลูกชาย ให้กู้ภัยนำร่างกลับมาจัดงานศพที่บ้าน ญาติร้องไห้ระงม จู่ๆหนุ่มขับ จยย.กลับบ้าน เล่นเอาช็อกกันทั้งงาน เจ้าตัวงง เห็นรูปตัวเองหน้าโลงบอก “กูตายแล้วเหรอ” ก่อนนำศพกลับ รพ.พี่สาวหนุ่มหมู่บ้านใกล้กันมาดู ยืนยันเป็นศพน้องชาย

3 มิ.ย.64 - ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เรื่องราวฮือฮาที่ขำไม่ออก โดยระบุข้อความว่า “เกิดอุบัติเหตุช่วง 23.00 น. ของเมื่อคืนนี้ครับ รถสิบล้อชนคนตายหัวเละ พอดีทางบ้านซาดมีคนหายเป็นคนขี้เหล้า ไม่ได้เข้าบ้าน ทางบ้านกะนึกว่าศพที่โดนรถเหยียบอาจจะเป็นนลูกชายเพราะแขนมีรอยสักบ่งบอกรูปลักษณ์เป็นอย่างดี ทางเจ้าหน้าที่เลยจัดส่งศพที่ว่ามาไว้ทางบ้านตามที่ญาติพี่น้องบอกมา และเตรียมงานหาหมูหาเหล้ายามาไว้ แต่เหตุการณ์กลับมาพลิกผัน คนที่ว่าหายกลับมาบ้านช่วงสายของเมื่อเช้านี้ ชาวบ้านตกใจพอสมควร พอดีหมู่บ้านข้างๆกันคนหายไปพอดี รอยสักคล้ายกัน เลยเรียกญาติพี่น้องเขามาดู กับชุดที่สวมใส่ในที่เกิดเหตุตรงกันเป๊ะ เขาเลยย้ายศพกันไปอีกหมู่บ้าน”

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้โพสต์คือ นายสำรวย ยอดฟ้าอิน ชาวบ้านซาด ต.สระบัว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมาประมาณ 5 ทุ่มได้เกิดอุบัติเหตุรถชนคนเสียชีวิต ที่ถนนสายแคนดง-สตึก  บริเวณบ้านหนองหัวแคน  ต.สระบัว อ.แคนดง สภาพศพศีรษะเละจนจำหน้าผู้เสียชีวิตไม่ได้ว่าเป็นใคร กระทั่งมีญาติของนายสงัด ซึ่งหายออกจากบ้าน 3 วันแล้ว เข้าใจว่าเป็นศพของนายสงัดที่หายจากบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรียบร้อย จึงให้กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้าน แต่พอช่วงสายนายสงัด ซึ่งทางญาติคิดว่าเสียชีวิตแล้วได้ขับรถจักรยานยนต์พ่วงรถเข็นกลับมาที่บ้าน สร้างความตกใจให้กับญาติและชาวบ้านที่ไปร่วมงานศพ ทั้งงงว่า ถ้านายสงัด ไม่ได้เสียชีวิตแล้วในโลงเป็นศพของใคร

เมื่อเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 51 บ้านซาด ต.สระบัว ซึ่งเป็นบ้านของนายสงัด หรือล้าน ที่ญาติเข้าใจว่าเป็นศพที่ถูกรถชนเสียชีวิต ก็พบว่า ได้มีการตั้งเต็นท์จัดงานศพจริง และมีชาวบ้านมาช่วยกันประกอบอาหารเพื่อไว้สำหรับเลี้ยงญาติพี่น้องและแขกที่มาช่วยงาน ที่สำคัญพบรูปถ่ายของนายสงัดที่เขียนระบุ วันชาตะ และมรณะ ไว้เรียบร้อย เพื่อใช้สำหรับตั้งหน้าโลงศพ และสถานที่สำหรับสวดศพที่ญาติได้นิมนต์พระมาสวดไปแล้ว แต่โลงศพและศพผู้เสียชีวิตในโลง ซึ่งมาทราบภายหลังว่าเป็นศพของนายวุฒิชัย พูนวงษ์ อายุ 35 ปี ชาวบ้านหนองหัวแคน ต.สระบัว อ.แคนดง ได้ส่งกลับไปที่โรงพยาบาลและญาติของนายวุฒิชัย ผู้ที่เสียชีวิตจริงๆ ได้รับกลับไปประกอบพิธีที่บ้านแล้ว

สอบถามนายสงัด คนที่ญาติและชาวบ้านคิดว่าเสียชีวิต บอกว่า ตนเองไปหยอดน้ำกรดและกรีดยางช่วยเพื่อนที่บ้านยางน้อย จึงนอนที่บ้านเพื่อนไม่ได้กลับบ้าน 3 วัน กระทั่งเมื่อช่วงสายได้ขับรถ จยย.ใส่รถเข็นพ่วงท้ายหญ้ามาให้ควายด้วย พอมาถึงก็เห็นที่บ้านมีการตั้งเต็นท์คนเต็มบ้าน ตอนแรกก็คิดว่า คนในบ้านเสียชีวิต แต่พอเดินเข้าไปกลับพบรูปหน้าศพเป็นรูปของตัวเอง ก็ตกใจ ทั้งญาติและชาวบ้านเองก็ตกใจที่เห็นตัวเองเหมือนกัน ก็พูดติดตลกไปว่า “นี่กูตายแล้วเหรอ” เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คิดว่าพ่อน่าจะเข้าใจผิดคิดว่าคนที่ถูกรถชนเสียชีวิตเป็นตนเอง  จึงนำกลับมาจัดงานศพที่บ้าน

ด้านนายไพรัตน์  สายวัน อายุ 61 ปี  พ่อของนายสงัด บอกว่า เมื่อคืนที่มีอุบัติเหตุรถชนตนก็เดินทางไปดูศพที่เกิดเหตุแต่สภาพศพถูกเหยียบจนหน้าเละจนจำไม่ได้ว่าเป็นศพใคร แต่ตนเห็นรอยสักที่แขนของศพคล้ายกับรอยสักของลูกชาย  จึงเข้าใจว่าเป็นศพลูกชายจึงแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนกู้ภัยจะนำศพมาส่งที่บ้าน พอรุ่งเช้า ผญบ.ก็ประกาศเสียงตามสายว่าลูกชายตนเสียชีวิต ก็มีชาวบ้านมาช่วยตั้งเต็นท์ ทำอาหารจัดงานศพ และนิมนต์พระมาสวดเรียบร้อย กระทั่งเกือบเที่ยงลูกชายก็ขับรถ จยย.บรรทุกหญ้ามาที่บ้าน ทุกคนต่างก็ตกใจช็อกกันทั้งงาน จากนั้นจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อนำศพส่งไปยัง รพ.  แล้วมาทราบภายหลังว่าศพที่ตายเป็นชาวบ้านใกล้เคียง และญาติได้มาติดต่อรับกลับไปบำเพ็ญกุศลแล้ว  ส่วนหมู และอาหารที่สั่งมาก็จะถือโอกาสประกอบหาร ไว้ทำบุญบ้านและสะเดาะเคราะห์ให้กับลูกชายไปในตัวเลย

จากนั้นได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 73 ม.3 บ.หนองหัวแคน ซึ่งญาติกำลังทำพิธีสวดอภิธรรมศพ นายวุฒิชัย พูนวงษ์ อายุ 35 ปี ผู้ที่เสียชีวิตตัวจริง ก็มีญาติและเพื่อนบ้านมาร่วมงานต่างก็พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่นางประถม พูนวงษ์ พี่สาวคนตาย บอกว่า ปกติอยู่บ้านคนละหลังกับน้องชาย ได้ข่าวว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนคนแต่ไม่ได้ไปดูที่เกิดเหตุ เพราะไม่ได้คิดว่าเป็นน้องชายตัวเอง กระทั่งมารู้ทีหลังว่าน้องของตนเองไม่ได้กลับบ้านเมื่อคืน และมีคนมาบอกว่าศพที่ถูกรถชนไม่ได้ศพของนายสงัด เพราะนายสงัด กลับมาบ้านแล้ว แต่น่าจะเป็นศพของน้องชาย ตนเองมากกว่า จึงได้เดินทางไปดูที่ รพ.ก็จำรอยแผลเป็นที่มือ ที่เท้า และเสื้อผ้าของน้องชายได้ จึงยืนยันกับเจ้าหน้าที่และขอรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ก็ไม่มีใครคิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นแต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร แค่อยากให้คนที่ขับรถชนน้องชายเสียชีวิตมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"