กลาโหมกำชับคุมชายแดน เข้ม‘พม่า-กัมพูชา-มาเลย์’


เพิ่มเพื่อน    

 

กลาโหมสั่งทุกเหล่าทัพคุมเข้มแนวชายแดน สกัดกั้นและจับกุมการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายทั้งพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ชั้นในต่อเนื่องกันไป โดยเฉพาะชายแดนเมียนมา กัมพูชาและมาเลเซีย ป้องกันนำเข้าโควิด สั่งเสริมกำลังพลและสิ่งอุปกรณ์เพิ่มเติม สนับสนุนโรงพยาบาลบุษราคัม

    พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2564 พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ประชุมร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)  เหล่าทัพ และตำรวจ ณ ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อติดตามการสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ปัญหาโควิด-19 และการช่วยเหลือประชาชนในชุมชนที่พบการแพร่กระจายเชื้อ
    ภาพรวม กห. โดยทุกเหล่าทัพยังคงความต่อเนื่องสนับสนุนทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ขับเคลื่อนบริหารจัดการแก้ปัญหาเร่งด่วนในการควบคุมโรคร่วมกัน โดยเสริมกำลังพลและสิ่งอุปกรณ์เพิ่มเติมเข้าไป ทั้งการจัดตั้งและสนับสนุนโรงพยาบาลบุษราคัม การตรวจคัดกรองเชิงรุกและเก็บเชื้อ การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษา การบริหารจัดการโรงพยาบาลสนาม การสนับสนุนจัดตั้ง บก.ควบคุมพื้นที่แพร่ระบาด เช่น แคมป์คนงาน โรงงานและตลาดชุมชน การสนับสนุนกรมราชทัณฑ์แก้ปัญหาเรือนจำที่พบการติดเชื้อ การบริหารจัดการสถานกักควบคุมโรคแห่งรัฐ ( SQ และ ASQ) รวมทั้งการประกอบอาหารช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ชุมชนที่พบติดเชื้อจำนวนมาก
    รมช.กห.ได้ย้ำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กห. ขอให้ทุกเหล่าทัพ กอ.รมน.และ ตร.ให้ความสำคัญคงความเข้มข้นสกัดกั้นและจับกุมการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายทั้งพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ชั้นในต่อเนื่องกันไป โดยเฉพาะชายแดนเมียนมา กัมพูชาและมาเลเซีย และขอให้สนับสนุนกำลังกับฝ่ายปกครองกระจายเข้าไปตรวจสอบสถานประกอบการและโรงงานที่มีการใช้แรงงานผิดกฎหมาย นำเข้าสู่ระบบเพื่อการควบคุมที่ถูกต้อง
    นอกจากนั้น พล.อ.ชัยชาญยังได้กำชับ ขอให้ทุกเหล่าทัพเสริมกำลังเข้าไปสนับสนุนกรุงเทพมหานครในการควบคุมโรคเป็นพื้นที่ทั้งใน กทม.และปริมณฑล ที่ยังพบการแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ และขอให้จัดตั้งจุดตรวจร่วมเพื่อควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามพื้นที่ ซึ่งยังพบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน พร้อมกับขอให้เตรียมความพร้อมบริหารจุดกระจายวัคซีนทั้ง 46 จุดที่ กห.จัดตั้ง สนับสนุน สธ.ในการกระจายฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างรวดเร็วและทั่วถึง ซึ่งจะเริ่มพร้อมกันทั่วประเทศใน 7 มิ.ย.64 นี้
    นายสาวิตร เจียมจิระพร นายอำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภุชงค์ ณรงค์อินทร์ ผกก.สภ.ไทรโยค, ร.ต.อ.วสันต์ หุ่นธานี  ผบ.มว.ฯ รรท.ผบ.ร้อย ตชด.136, ร.อ.สุชาติ สุขสวัสดิ์ หน.ชุด มว.ปชด.(เพิ่มเติม) ที่ 1 บ.บ้องตี้ ตม.ไทรโยค ออกลาดตระเวนตรวจสอบคุมเข้มพื้นที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา บ้านท้ายเหมือง ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค
    พบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายชาวเมียนมา 4 คน เป็นหญิง 3 คน ชาย 1 คน ตรวจสอบไม่พบเอกสารหลักฐานแสดงตน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายแรงงานเมียนมา เบื้องต้นไม่พบอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส จึงทำการผลักดันออกจากประเทศไทยทางบริเวณช่องทางธรรมชาติ บ้านห้วยโมง ประเทศเมียนมา
     อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะบูรณาการทุกหน่วยงานร่วมกันเฝ้าระวังดูแลคุมเข้มบริเวณช่องทางธรรมชาติ แนวชายแดนไทย-เมียนมา ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ อ.เมืองฯ อ.ไทรโยค อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละบุรี อย่างเข้มงวดเต็มที่แล้วก็ตาม ก็ยังมีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ลักลอบเข้าประเทศทางช่องทางธรรมชาติ อย่างต่อเนื่อง และมีการจับกุมมาโดยตลอดดังที่เป็นข่าว เนื่องจากช่องทางธรรมชาติเป็นป่าเขาที่มีระยะยาวไกลหลายร้อยกิโลเมตร จึงทำให้แรงงานเถื่อนลักลอบเข้ามาได้อยู่เนืองๆ
พม่าหลบหนีเข้าเมืองจ๊ะเอ๋ ตร.
    ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.วิรัตน์ จีนเมือง หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด พร้อมกำลังชุดปราบปรามยาเสพติด และชุดสืบสวน สภ.เขาชัยสน จ.พัทลุง จับกุมตัวนายปรีชา หวัดแท่น อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 ม. 8 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พัทลุง พร้อมแฟนสาว ขณะขับรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ สีขาว แบบมีคอก โดยกระบะหลังบรรทุกแรงงานชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 16 ราย โดยใช้ผ้ายางสีฟ้าปกคลุม ขับรถคันดังกล่าว เข้ามาจอดบริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.8 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน ริมถนนสายเพชรเกษมฝั่งขาล่องใต้เพื่อเข้าห้องน้ำ แต่รถจอดติดกับรถเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังวางแผนจับยาเสพติดในพื้นที่ละแวกนั้น จนตำรวจสังเกตเห็นด้านท้ายกระบะที่คลุมผ้ายางมีการเคลื่อนไหวเหมือนลมพัดตลอดเวลา จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพบแรงงานเมียนมา ชาย 12 หญิง 4 ก่อนควบคุมตัวทั้งคนขับรถและแรงงานเมียนมาเข้าสู่การเก็บตัวอย่างหาเชื้อโควิด-19 โรงพยาบาลเขาชัยสน และนำตัวทั้งหมดมาทำการสอบสวนว่าหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายหรือไม่ ในเบื้องต้นไม่มีหนังสือเดินทางแต่อย่างใด พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม สอบร่วม เพื่อหาที่มาว่าเข้าข่ายค้ามนุษย์ไม่
    ที่ท่าเทียบเรือประภาคาร (ด่านศุลกากร) ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง นายสมเกียรติ ศรีษะเนตร ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วย พ.อ.ภาคิน เกื้อกูล ผบ.พัน ร.25 พัน 2 ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง,ตม.จังหวัดระนอง ศรชล.จังหวัดระนองและ กอ.รมน.จังหวัดระนอง พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และผู้ช่วยทูตแรงงานสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย ได้ร่วมทำการส่งตัวผู้ต้องกักชาวเมียนมาจำนวน 74 คน ชาย 62 คน หญิง 12 คน กลับประเทศเมียนมา
     ทั้งนี้ แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองทั้งหมดจำนวน 74 คนเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่ถูกส่งตัวมาจากทุกจังหวัดทางภาคใต้ โดยถูกนำมากักตัวไว้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระนองเพื่อรอการส่งตัวกลับ ซึ่งที่ผ่านมาในประเทศเมียนมาได้มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงปัญหาการเมืองภายในประเทศ จึงทำให้ยังไม่สามารถส่งตัวผู้ต้องกักจำนวนนี้ไปได้
       ล่าสุด ทางการเมียนมาได้ประสานที่จะรับผู้ต้องกักชาวเมียนมากลับประเทศทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองระนองจึงได้ทำการส่งตัวผู้ต้องกักจำนวน 74 คนไปยังจังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมา ซึ่งผู้ต้องกักส่วนใหญ่อยู่ที่จังหวัดเกาะสอง มะริด และจังหวัดทวาย และก่อนที่ผู้ต้องกักทั้งหมดจำนวน 74 คน จะเดินทางกลับประเทศเมียนมาด้วยเรือโดยสารข้ามฟาก (หางยาว) จำนวน 5 ลำ ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าไม่มีผู้ใดมีอาการป่วยของโรคโควิด-19 ซึ่งมีผู้ช่วยทูตแรงงานเมียนมาได้ร่วมประสานความช่วยเหลือในการส่งตัวแรงงานเมียนมาทั้ง 74 คนกลับประเทศครั้งนี้ด้วย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"