จังหวะและโอกาสภายใต้ทฤษฎีโกลาหล


เพิ่มเพื่อน    

 เห็นข่าวแวบๆ...ว่าที่อินตะระเดีย แถวๆ รัฐอัสสัมทำนองนั้น ถึงขั้น กระทืบหมอ เอาเลยถึงขั้นนั้น!!! แค่ปล่อยให้คนไข้ติดเชื้อโควิดมีอันต้องตกตายไปตามอัตภาพ บรรดาแขกดอย หรือแขกอะไรก็แล้วแต่ กว่า 20 ราย รวมแล้วประมาณ 40 มือ 40 ตีน ถึงกับต้องลงมือ ลงไม้ ต่อผู้ที่มีหน้าที่ในการดูแล รักษาชีวิต ของผู้คนทั้งหลาย อย่างชนิดไม่คิดจะฟังอีร้าค่าอีรม เอาเลยแม้แต่น้อย...

                        -----------------------------------------

            อารมณ์โกรธ อารมณ์เกรี้ยว อารมณ์หงุดหงิด งุ่นง่าน ของผู้คนในช่วงระหว่างนี้...ต้องยอมรับว่า ออกจะเป็นอะไรที่น่ากลัวมิใช่น้อย คือถ้าลอง ม่าย-ล่าย-ลาง-ใจ ขึ้นมาเมื่อไหร่ โอกาสที่มันจะระเบิดออกมาเป็นโน่น เป็นนี่ หนักไปถึงขั้นโน้น ขั้นนี้ ชักใกล้ๆ จะกลายเป็นเรื่อง ปกติธรรมดา กันไปซะแร้น อาจด้วยเหตุเพราะ 2 แรงบวกไหลเข้ามาผสมกัน กระทำปฏิกิริยาต่อกันและกัน คือแรงโกรธ แรงเกลียด อันมีตัวเองเป็น ศูนย์กลาง ในการ ปรุงแต่ง เป็นอันดับแรก กับแรงยุ แรงเชียร์ ให้ระเบิดอะไรต่อมิอะไรออกมา ต่อผู้ที่ถูกทำให้น่าเกลียด น่าชัง ให้หนักๆ เข้าไว้...

                        --------------------------------------------

            คืออาจด้วยเหตุเพราะสิ่งที่เรียกว่า... ขันติธรรม หรือความอดทน อดกลั้น เป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะเหือดแห้ง เหือดหาย ไปจากผู้คนในแต่ละสังคม แต่ละประเทศ ยิ่งเข้าไปทุกที ตามสภาวะแวดล้อมทางการเมือง เศรษฐกิจ หรืออะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ เมื่อมันดันมาบวกเข้ากับ แรงกระตุ้น อันทรงประสิทธิภาพเอามากๆ จากบรรดาอุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องใช้ ประเภทสุดยอด เทคโนโลยี ทั้งหลาย การระเบิดความหงุดหงิด งุ่นง่าน ของผู้คนในแต่ละสังคม จึงเป็นอะไรที่น่าสยดสยอง พองขน ยิ่งขึ้นๆ หรือเป็นสิ่งที่ยากซ์ซ์ซ์ซ์ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ในการควบคุม ดูแล พอให้เกิดความสงบเย็น หรือสงบเรียบร้อยลงไปได้มั่ง...

                        ----------------------------------------------------

            โดยเฉพาะบรรดาประเทศ ประชาธิปไตย ทั้งหลายนั่นแหละ...ยิ่งยากซ์ซ์ซ์ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น ด้วยเหตุเพราะสิ่งที่เรียกว่า เสรีภาพ มันออกจะเป็นอะไรที่ยากอยู่พอสมควร ในการกำหนด แยกแยะ เส้นแบ่งระหว่างความเป็น ส่วนตัว และ ส่วนรวม ออกจากกันให้ชัดๆ ถึงแม้จะมีเครื่องมือ เครื่องไม้ อุปกรณ์เทคโนโลยี ชนิดทัดเทียม หรือเหนือกว่าผู้คนโดยปกติธรรมดาก็ตาม แต่เนื่องจากการ ปรุงแต่ง อารมณ์-ความรู้สึกต่างๆ ของมวลมนุษย์โดยทั่วไป ย่อมหนีไม่พ้นต้องอาศัย ตัวกู และ ของกู นั่นแหละเป็นศูนย์กลางในแทบทุกเรื่อง ทุกๆ กรณีไป...

                        ----------------------------------------------

            โอกาสที่จะเกลี้ยกล่อม โน้มน้าว นำเสนอข้อมูล ข้อเท็จจริง เพื่อให้บรรดาข่าวลือ ข่าวปลอม ตลอดไปจนถึงการยุแยง ตะแคงรั่วทั้งหลาย มันพอได้เพลาๆ ลงไปมั่ง ออกจะเป็นอะไรที่ยากพอๆ กับการเข็นครกขึ้นภูเขา หรือเข็นภูเขาขึ้นครกเอาเลยก็ไม่แน่!!! ยิ่งถ้าหากสังคมนั้นๆ ดันเป็น สังคม 0.4 ในขณะที่การเมือง ดันเป็น การเมือง 4.0 ด้วยแล้ว หรือกลไกอำนาจ กลไกข้าราชการ ดันหนักไปทาง หลังเขา ไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวกันมานาน โอกาสที่จะรับมือกับความหงุดหงิด งุ่นง่านของผู้คนในสังคม ยิ่งแทบเป็นไปไม่ได้เอาเลย การระเบิดของอารมณ์-ความรู้สึกในแต่ละรูป แต่ละแบบ อาจไม่ใช่แค่การรวมตัว รวมตีน กระทืบหมอ อย่างในอินตะระเดีย แต่เพียงเท่านั้น แต่อาจส่งผลถึงขั้น...นำมาซึ่งความ ล่มสลาย ของแต่ละสิ่ง แต่ละอย่างในสังคมนั้นๆ เอาง่ายๆ...

                        -----------------------------------------------

            ยิ่งมองถึงแนวโน้มในอนาคตเบื้องหน้า...ไม่ใช่แต่เฉพาะ โควิด-ไม่โควิด เท่านั้น ที่กำลังทำให้โลกทั้งโลกป่วนไป-ป่วนมา อย่างหาจุดลงตัวแทบไม่ได้ มันยังมีอะไรอีกเยอะแยะมากมายที่กำลังจะตามมา ไม่ว่าเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องเงินๆ-ทองๆ เรื่องข้าว-ปลา-อาหาร เรื่องน้ำดื่มและยารักษาโรค ไปจนเรื่อง สงคราม ที่ออกจะหวีดหวิวฉิวเฉียดเต็มที ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้ ล้วนสามารถก่อให้เกิด 2 แรงบวก ต่อสังคมแต่ละสังคมได้เสมอ หรือถ้าว่ากันตาม ทฤษฎี ของอาจารย์ ยุค ศรีอาริยะ ประเภทเคอ๊ง เคออส หรือ ทฤษฎีโกลาหล อะไรประมาณนั้น การรับมือกับภาวะเหล่านี้ มันคงจะไปตามแก้กันในรายละเอียด การปรับโน่น ปรับนี่ ภายใน กลไก แต่ละกลไก เผลอๆ...มันอาจ สายเกินไปซะแล้ว!!!

                        ------------------------------------------------

            อาจต้องหันไปประดิษฐ์ คิดค้น หันไปหากรรมวิธี แบบที่พวกนักคิด นักปราชญ์ เขาเคยนำเสนอเอาไว้ก่อนหน้านี้ ประเภทหาจุด คานงัด แล้วงัดสังคมทั้งสังคม หรือแม้แต่โลกทั้งโลก ให้มันเปลี่ยนไปในทางที่ดี ที่มีศีล มีธรรม ที่เหมาะสม สอดคล้อง กับคุณค่า ราคาแห่งความเป็นมนุษย์ หรือเพื่อไม่ให้มีอันต้องตกต่ำ เสื่อมโทรม จนมวลมนุษย์ทั้งหลายอาจต้องกลายเป็นสัตว์เดียรัจฉานมากมายเกินไปกว่านี้ โดย จุด ที่ว่า หรือ ฉากสถานการณ์ ที่ว่า มันก็คงหนีไม่พ้นต้องขึ้นอยู่กับ จังหวะ และ โอกาส นั่นแหละสหาย ไม่มีใครที่คาดได้ ตอบได้ แบบถนัดถนี่ซักเท่าไหร่ เพียงสามารถสรุปได้คร่าวๆ แต่เพียงว่า... ด้วยเหตุเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...สิ่งนี้จึงเป็นไป ตามกฎเหล็กแห่งธรรมชาติ...นั่นแล...

                        --------------------------------------------------

            ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก “Wise men are instructed by reason; men of less understanding by experience; the most ignorant by necessity; and beast by nature. – คนฉลาดมากเรียนรู้ด้วยเหตุผล-ฉลาดน้อยเรียนรู้ด้วยประสบการณ์-ไม่ฉลาดเลยเรียนรู้ด้วยความจำเป็นบังคับ-เดียรัจฉานเรียนรู้ด้วยธรรมชาติ.

                                                                --------------------------------------------------

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"