กรมวิทย์จับตาไวรัสกลายพันธุ์


เพิ่มเพื่อน    

 

ไทยติดเชื้อเพิ่ม 2,419 ราย คร่าอีก 33 ชีวิต  หายป่วยเกือบ 3 พัน กทม.เจอคลัสเตอร์ใหม่แคมป์ก่อสร้างคอนโดฯ รวดเดียว 347 ราย สมุทรปราการโผล่อีก 4 กลุ่ม กรมวิทยาศาสตร์ฯ จับตาไวรัสกลายพันธุ์ 3 สายพันธุ์ ห่วงลูกผสม-ติดเชื้อต่างสายพันธุ์ในคนเดียวกัน

    ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน เวลา 12.30 น.  นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,419 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,296 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,347 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 949 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 91 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 32 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ลักลอบเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติ 2 ราย โดยเป็นนักศึกษาไทย อายุ 17 ปี มาจากมาเลเซีย และหญิงไทย อายุ 26 ปี  มาจากการกัมพูชา ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 179,886 ราย  หายป่วยเพิ่มเติม 2,999 ราย หายป่วยสะสม 129,516 ราย  อยู่ระหว่างรักษา 49,101 ราย อาการหนัก 1,233 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 355 ราย
    มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 33 ราย เป็นชาย 15 ราย  หญิง 18 ราย อยู่ใน กทม. 19 ราย สมุทรปราการ 6 ราย  ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สงขลา สระบุรี  นนทบุรี สิงห์บุรี และสมุทรสาคร จังหวัดละ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,269 ราย ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 174,048,559 ราย เสียชีวิตสะสม 3,743,935 ราย     
    สำหรับ 5 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด ได้แก่  กทม. 943 ราย สมุทรปราการ 321 ราย เพชรบุรี 265 ราย  ตรัง 106 ราย สมุทรสาคร 96 ราย ขณะที่ทั่วประเทศมีคลัสเตอร์ใหม่เกิดขึ้น 6 คลัสเตอร์ ในจำนวนนี้อยู่ใน จ.สมุทรปราการ 4 คลัสเตอร์ ประกอบด้วย โรงงานน้ำแข็ง ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ มีผู้ติดเชื้อ 55 ราย โรงงานผลิตสายนำสัญญาณ อ.เมืองสมุทรปราการ 63 ราย โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูป อ.พระประแดง 21 ราย และชุมชนวัดสำโรงเหนือ อ.พระประแดง 29 ราย นอกจากนี้ยังพบที่โรงงานค้าไม้ อ.เมืองสมุทรสาคร 21 ราย และบริษัทผลิตภาชนะพลาสติก อ.เมืองชลบุรี 6 ราย
    พร้อมกันนี้ กองระบาดวิทยายังนำเสนอชุดข้อมูลการระบาดในเรือนจำพื้นที่ กทม.และนนทบุรี ในรอบ 7 วันที่ผ่านมา มีเรือนจำที่พบผู้ติดเชื้อเกิน 100 ราย 4 แห่ง คือ  เรือนจำกลางคลองเปรม 124 ราย ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง 520 ราย ทัณฑสถานหญิงธนบุรี 136 ราย และเรือนจำกลางบางขวางนนทบุรี 1,879 ราย
     นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดใน กทม.ในรอบ 14 วันที่ผ่านมา มีการระบาดที่เป็นกลุ่มก้อน 53 คลัสเตอร์ โดยแบ่งขนาดคลัสเตอร์ตามจำนวนผู้ติดเชื้อ พบว่าคลัสเตอร์ที่มีผู้ป่วย 500 รายขึ้นไป หรือไซส์แอลมี 6 คลัสเตอร์ คือ 1.ชุมชนแออัดคลองเตย 2.สี่แยกมหานาค สะพานขาว ตลาดผลไม้ เขตดุสิต 3.แคมป์คนงานก่อสร้างอิตาเลียนไทย ซอยไผ่สิงโต เขตคลองเตย 4.คลองถมเซ็นเตอร์ เสือป่า วงเวียน 22 วรจักร โบ๊เบ๊ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย 5.ตลาดบางกะปิ เดอะมอลล์บางกะปิ และ 6.ไซต์ก่อสร้างอาคารรัฐสภา บริษัท ซิโน-ไทย เขตดุสิต คลัสเตอร์ที่มีผู้ป่วยไม่เกิน 499 ราย หรือไซส์เอ็ม มี 16 คลัสเตอร์ ในจำนวนนี้มีคลัสเตอร์ใหม่เป็นโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียม  One9Five ถนนพระรามเก้า พบผู้ติดเชื้อ 347 ราย จากคนงานทั้งหมด 528 ราย โดย กทม.กำลังเข้าไปสอบสวนโรค และคลัสเตอร์ที่มีผู้ป่วยไม่เกิน 100 ราย จำนวน  31 คลัสเตอร์  
    ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์  อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า จากการระบาดระลอกเดือน เม.ย.ถึง พ.ค.64 กรมฯ ได้เฝ้าระวังสายพันธุ์ที่น่ากังวล 3 สายพันธุ์ ประกอบด้วย สายพันธุ์อัลฟา  (อังกฤษ) จำนวน 3,595 ตัวอย่าง สายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) จำนวน 26 ตัวอย่าง และสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) จำนวน 235 ตัวอย่าง พบว่า 1.สายพันธุ์อัลฟาเป็นต้นเหตุของการระบาดในเดือน เม.ย.และ พ.ค.64 พบเกือบทุกจังหวัด และเข้ามาแทนสายพันธุ์ที่เคยระบาดอยู่ในประเทศไทย ทั้งนี้พบรายงานครั้งแรกในแคมป์หลักสี่ กรุงเทพฯ และมีการระบาดออกไปในภาคเหนือและภาคอีสานตามกลุ่มแรงงานที่เดินทางกลับบ้าน โดยพบแล้ว 235 คน หรือคิดเป็น  6% โดยพบสูงสุดใน กทม. 206 คน นนทบุรี 2 คน  พิษณุโลก 2 คน สระบุรี 2 คน ร้อยเอ็ด 1 คน อุดรธานี 17  คน นครราชสีมา 2 คน อุบลราชธานี 1 คน สมุทรสงคราม  1 คน บุรีรัมย์ 1 คน โดยกรณี จ.อุดรธานีพบเป็นจำนวนมากจากงานบายศรีสู่ขวัญ ขณะนี้กำลังเร่งสอบสวนโรคว่าเชื่อมโยงกับแคมป์คนงานก่อสร้างหลักสี่อย่างไร
    2.สายพันธุ์เดลตา พบรายงานครั้งแรกในเขตกรุงเทพฯ  และมีการระบาดออกไปในภาคเหนือและภาคอีสานตามกลุ่มแรงงานที่เดินทางกลับบ้านจากกรุงเทพฯ ในช่วงระบาด    และ 3.สายพันธุ์เบตา พบรายงานครั้งแรกในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากสายพันธุ์นี้ระบาดในรัฐกลันตันของประเทศมาเลเซีย พบได้จากกลุ่มบุคคลที่เดินทางข้ามพรมแดนไทยและมาเลเซีย ซึ่งต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดสำหรับผู้ป่วยในจังหวัด ปัตตานี สงขลา และนราธิวาส โดยสายพันธุ์นี้ตรวจพบ 26  คน โชคดีที่เชื้อยังไม่กระจายออกนอก จ.นราธิวาส แต่ยังวางใจไม่ได้ ต้องควบคุมให้อยู่ในพื้นที่ให้นานที่สุด
    ด้าน ศ.ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี  มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เชื้อกลายพันธุ์ส่วนใหญ่เป็นเชื้อที่นำเข้ามาจากประเทศอื่น ยังไม่พบการกลายพันธุ์ที่พบได้เฉพาะในประเทศไทย ซึ่งการระบาดครั้งนี้มีการติดเชื้อใหม่เป็นจำนวนมาก ต้องเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ในประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์ใหม่  ไวรัสลูกผสม และการติดเชื้อต่างสายพันธุ์ในคนเดียวกันที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
    ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า สายพันธุ์ที่น่ากังวลเป็นสายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์ในตำแหน่งที่หลบหลีกภูมิต้านทานได้ ทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง จึงต้องมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ สายพันธุ์ดังกล่าวคือ เบตาและแกมมา ขอฝากประชาชนที่จะจ้างแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบผ่านชายแดนเข้ามา ควรให้ความร่วมมือกับภาครัฐแจ้งเบาะแสเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ที่น่ากังวล เพราะเชื้อเหล่านี้จะทำให้เกิดการระบาดรุนแรงในประเทศไทยได้
    นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่จำนวน 91 ราย รักษาหายเพิ่ม  842 ราย เสียชีวิต 4 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 13,008 ราย ซึ่งพบการแพร่ระบาดในเรือนจำ 12 แห่งเท่าเดิม และยังคงเข้มมาตรการป้องกันเชื้อ ส่วนกรณีของผู้ต้องขังที่เสียชีวิต 4 ราย จำแนกเป็นผู้ต้องขังที่เสียชีวิตที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 3  ราย และที่โรงพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง 1 ราย โดยทั้ง  4 รายเป็นผู้ต้องขังในกลุ่มเปราะบาง คือมีโรคประจำตัว เป็นโรคเบาหวาน และบางรายเป็นผู้ป่วยสูงอายุที่มีภาวะความเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรคที่สูง
    วันเดียวกัน นพ.พรณรงค์ ศรีม่วง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อจำนวน  321 ราย เป็นผู้ป่วยในพื้นที่จำนวน 310 ราย และโรงพยาบาลเอกชนรับมารักษาต่อในสมุทรปราการจำนวน 11 ราย เสียชีวิต 6 ราย ดังนี้ 1.ชายไทย อายุ 56 ปี มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง เบาหวาน 2.หญิงไทย อายุ 89  ปี มีโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน อัลไซเมอร์ 3.หญิงไทย อายุ 50 ปี มีโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน 4.ชายไทย อายุ 71 ปี  มีโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน 5.ชายไทย อายุ 53 ปี มีโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน และ 6.หญิงไทย อายุ 44 ปี มีโรคเบาหวาน รวมเสียชีวิตสะสม 100 ราย
    คลัสเตอร์ใหญ่วันนี้อยู่ในเขต อ.เมืองสมุทรปราการ มีโรงงานน้ำแข็งเอ็มซี ซอยพุฒสี จำนวน 55 ราย บริษัท เกรซแลนด์ จำนวน 63 ราย เขตอำเภอพระประแดง โรงงานไฮเทค จำนวน 21 ราย ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งส่วนใหญ่ถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสนาม  และชุมชนสำโรงเหนืออีกจำนวน 29 ราย รวมผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่จำนวน 8,760 ราย
    ศูนย์ข้อมูล COVID-19 จ.นนทบุรี รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 71 ราย (คัดกรองเชิงรุก 16 ราย) สาเหตุติดเชื้อที่สำคัญมาจากแคมป์คนงาน ครอบครัว สถานที่ทำงาน  และตลาด เพศหญิง 37 ราย เพศชาย 34 ราย ต่างชาติ 7  ราย (เมียนมา 2 ราย กัมพูชา 5 ราย)
     ที่ จ.ตรัง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 109 ราย จากคลัสเตอร์โรงงานนาเมืองเพชรพาราวู้ด 106 ราย อยู่ในพื้นที่ตำบลนาเมืองเพชร อ.สิเกา 105 ราย และตำบลนาวง อ.ห้วยยอด 1  ราย (กักตัวในโรงงาน) จากคลัสเตอร์ และจากคลัสเตอร์ร้านภาสินี อ.เมืองตรัง 3 ราย รวมยอดผู้ป่วยโควิดสะสมระลอกใหม่ 1,183 ราย
    ที่ จ.นราธิวาส นายสังคม เกิดก่อ นายอำเภอตากใบ  เปิดเผยว่า จะมีการเปิดหมู่บ้านในตำบลเกาะสะท้อน  ประกอบด้วย หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 หมู่ 4 หมู่ 7 หมู่ 8 และหมู่ 9 เนื่องจากสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย และปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด งดการรวมตัวพบปะสังสรรค์ภายในหมู่บ้าน ตำบล และห้ามให้บุคคลจากหมู่ 5 และ หมู่ 6 เข้าออกพื้นที่หมู่บ้านของตนเองอย่างเด็ดขาด เพราะยังพบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ได้ประสานนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสะท้อนเตรียมนำถุงยังชีพไปแจกประชาชนในหมู่ 5 และหมู่ 6 แล้ว.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"