สงบ-สยบความเคลื่อนไหว!!!


เพิ่มเพื่อน    

 

        จะฉีกไปเขียนเรื่อง แกงเขียวหวาน แบบที่ท่านปรมาจารย์ หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช ท่านเคยฉีกกรอบ แหวกกรอบ ไปเขียนเรื่อง น้ำพริก อะไรประมาณนั้น โดยตบะ-บารมี ก็คง ห่างชั้น แบบชนิดท้องฟ้ากับหุบเหว เลยคงหนีไม่พ้นต้องวกกลับมาเรื่องเดิมๆ คือเรื่องการมง การเมือง กันอีกนั่นแหละทั่น!!!

                                                          --------------------------------------------------

            อันเป็นเรื่องที่คงต้องสารภาพแบบตรงไป-ตรงมา...ว่าออกจะเป็นเรื่องที่ พูดยาก หรือ พูดลำบาก ยิ่งเข้าไปทุกที หรือเอาเข้าจริงๆ แล้ว...อาจเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะพูดอะไรเอาเลยก็ไม่แน่ สู้หันมานิ่งๆ เฉยๆ แล้วลงมือประพฤติ ปฏิบัติ หรือลงมือ กระทำ ให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อาจเหมาะกว่า เข้าท่ากว่า เพราะโดย อารมณ์-ความรู้สึก อันเป็นสิ่งมีบทบาท อิทธิพล เหนือไปกว่าสิ่งที่เรียกว่า เหตุผล อยู่แล้วแน่ๆ สำหรับโลกยุคนี้ สมัยนี้ คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่า มันไม่ค่อยเอื้ออำนวยต่อการพูดโน่น พูดนี่  ไม่ว่าจะเป็นการชี้แจง อรรถาธิบาย ไปจนการปกป้อง ปัดป้อง ปฏิเสธ หรือที่เรียกๆ กันว่า การอวย อันแทบไม่ต่างไปจากการชโลมเลียร์ ลงเชลแล็ก ที่คงต้องระมัดระวัง ขนติดปาก เอาไว้ให้จงหนัก...

                                                           -------------------------------------------------

            คือโดย อารมณ์-ความรู้สึก ของผู้คนช่วงนี้...มันชักออกไปทาง ของขึ้น หนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ออกอาการวิบๆ ไหวๆ วูบๆ วาบๆ ด้วยเหตุเพราะ เงื่อนไข และ เหตุปัจจัย ต่างๆ นานา มันค่อนข้างเอื้ออำนวยให้ต้องเป็นไปเช่นนั้น ไม่ว่าระดับโลก หรือในระดับสังคมไทยก็แล้วแต่  หรือมันกำลังเป็นไปในแบบ ด้วยเหตุเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...สิ่งนี้จึงเป็นไป นั่นแหละทั่นเอ๋ย การที่จะไปสวนดาบ สวนหอก  สวนควันปืน ด้วยการหันมา อวย กันและกันให้มากๆ เข้าไว้ แทนที่จะช่วยให้เกิดการปัดป้อง ปกป้องคุ้มครอง อะไรต่อมิอะไรต่างๆ นานา เผลอๆ...กลับก่อให้เกิดแรงเสียดสี  เสียดทาน แบบชนิด พลังงานจลน์ ปะทะกับ พลังงานศักย์ อะไรทำนองนั้น โอกาสที่จะนำมาสู่ความแตกหัก แตกร้าว แตกแยก ก็ยิ่งเป็นไปได้สูงยิ่งขึ้นไปเท่านั้น...

                                                           ------------------------------------------------------

            สู้หันมานิ่งๆ เข้าไว้...หรือหันมาอมเลือด กลืนเลือด  โดยอาศัยความหนักแน่น หรือ ความสงบ-สยบความเคลื่อนไหว อย่างที่หนังจีนกำลังภายในเขาว่าไว้น่าจะเหมาะกว่า หรืออย่างที่ ล้นเกล้าฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านเคยมีพระราชดำรัสชี้นำ ชี้แนะ เอาไว้ก่อนหน้านี้ หรือในขณะที่ท่านยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่นั่นแหละว่า... “ความสงบหนักแน่น เป็นเครื่องมือผ่อนปรนระงับความรุนแรง ความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจในกันและกันได้ในทุกๆ กรณี  โดยเฉพาะความสงบหนักแน่นในจิตใจนั้น ทำให้เกิดความยั้งคิดพิจารณาตามเหตุ ตามผล จึงช่วยให้สามารถขบคิดวินิจฉัยเรื่องราวปัญหา และกระทำได้ถูกต้องอย่างพอเหมาะ พอดี และมีประสิทธิผล...” อะไรประมาณนั้น...

                                                             --------------------------------------------------------

            เพราะโดย ระบบ ระบอบ ไปจนถึง ระเบียบ ต่างๆ ของสังคมไทย...เมื่อมาถึงทุกวันนี้ คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้นั่นแหละว่า ย่อมไม่มีอะไรที่ครบถ้วน สมบูรณ์ ชนิดหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ แค่เฉพาะ 40-50 เปอร์เซ็นต์ยังไม่รู้จะได้ หรือไม่ อย่างไร ก็แล้วแต่จะไปสรุปกันเอาเอง โดยเฉพาะ ระบบราชการไทย นั่นแหละเป็นหลัก ที่ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนต่อรัฐบาลไหน ไม่ว่าเผด็จการหรือประชาธิปไตย ล้วนแล้วแต่ต้อง ปวดหัวฉิบหาย มาโดยตลอด เมื่อต้องเจอเข้ากับ เงื่อนไข และ เหตุปัจจัย ในชนิด ปราบเซียน ยิ่งเข้าไปทุกที โอกาสที่มันจะก่อให้เกิด อารมณ์-ความรู้สึก แบบวิบๆ ไหวๆ วูบๆ วาบๆ จนไม่อยากจะทำความเข้าใจกับ เหตุผล ใดๆ อีกต่อไปแล้ว มันจึงเป็น ข้อเท็จจริง ที่มิพึงปฏิเสธโดยเด็ดขาด...

                                                              --------------------------------------------------------

            ยิ่งถ้าหันไป อวย หรือหันไปชโลมไล้ ด้วยการคว้ากระดาษทรายออกมาขัดกันอย่างเป็นงาน เป็นการ แล้วลงเชลแล็กให้มันละเลื่อม มันวาว อย่างชนิดไม่คิดจะสนใจ ข้อเท็จจริง ในลักษณะดังกล่าว อันนี้นี่แหละ...ที่อาจส่งผลให้  ความรุนแรง ความขัดแย้ง หรือ ความไม่เข้าใจกันและกัน ในแต่ละกรณี มันเลยบานปลาย ขยายวง เอาง่ายๆ สู้หันมา นิ่ง หันมา สงบ-สยบความเคลื่อนไหว โดยอาศัย ความหนักแน่น ภายในหัวจิต หัวใจ อันเป็นสิ่งที่ ล้นเกล้าฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านก็ได้ทรงอธิบาย ขยายความ เอาไว้แล้วล่วงหน้า ด้วยพระราชดำรัสที่ว่า “ความเข้มแข็งในจิตใจนี้...เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องฝึกฝนแต่เล็ก เพราะว่าต่อไปถ้ามีชีวิตที่ลำบาก เมื่อเกิดประสบอุปสรรคใดๆ ถ้าไม่มีความเข้มแข็ง ไม่มีความรู้ ไม่มีทางที่จะผ่านอุปสรรคนั้นได้  ก็ไม่มีอะไรที่จะมาช่วยเราได้ มีแต่ความรู้ ความมีอัธยาศัยที่ดี ความเข้มแข็งในกาย ในใจ เท่านั้น ที่จะสามารถช่วยให้ผ่านพ้นอุปสรรคนั้นๆ ไปได้...”

                                                                    -----------------------------------------------------

            สรุปรวมความแล้ว...ถ้าไม่อยากให้ความรุนแรง ความขัดแย้ง หรือความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่ว่าในหมู่คนกลุ่มใด ประเภทใด มันขยายตัว บานปลาย ยิ่งไปกว่านี้ ก็มีแต่ต้องหันมาอาศัยความหนักแน่น หรือความนิ่ง เอาไว้ก่อนนั่นแหละดี อย่าไปเสียเวลาปะทะ ขัดแย้ง หรืออย่ามัวไป อวย กันจนแทบจะ มีหนวด-มีเครา ไปเป็นแถบๆ อาศัยแค่ความเข้มแข็งภายในจิตใจ ความรู้ และความมีอัธยาศัยที่ดี  อีกไม่ช้า-ไม่นาน...ก็น่าจะผ่านด่าน ผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ด้วยดี....

                                                                       -----------------------------------------------------

            ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก Jeses Santilanes... Being brave doesn’t mean not being afraid. It means  doing what need to be done even when one is afraid. - การเป็นคนกล้า...ไม่ได้หมายความว่าไม่กลัว แต่หมายถึงการทำในสิ่งที่ควรทำ ต้องทำ แม้จะรู้สึกกลัวก็ตาม...”.       

                                                                       ---------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"