อุตฯยัน 'โรงงานน้ำตาลกุมภวาปี'ปิดไม่กระทบภาพรวมอ้อยน้ำตาลในประเทศ


เพิ่มเพื่อน    

 

10 มิ.ย. 2564 นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะประธานกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข่าวเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2564 กรณี บริษัท น้ำตาลกุมภวาปี จำกัด อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี มีมติหยุดกิจการน้ำตาลอย่างเป็นทางการ โดยบริษัทจะโอนย้ายสัญญาซื้อขายอ้อยไปยัง บริษัท น้ำตาลเกษตรผล จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเดียวกัน ที่มีกำลังการผลิตได้ถึง 30,000 ตันอ้อยต่อวัน เพื่อรองรับชาวไร่อ้อยคู่สัญญาจาก บริษัท น้ำตาลกุมภวาปี จำกัด และขอยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทย เนื่องจากในฤดูการผลิตปี 2564/2565 มีแนวโน้มผลผลิตอ้อยและราคาน้ำตาลของตลาดโลกจะสูงขึ้นจากในฤดูการผลิตปี 2563/2564  
นายเอกภัทร วังสุวรรณ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.) กล่าวว่า บริษัท น้ำตาลกุมภวาปี มีชาวไร่อ้อยคู่สัญญา จำนวน 1,195 ราย ในฤดูการผลิตปี 2563/2564 หีบอ้อยได้ 716,862.94 ตัน และผลิตน้ำตาลได้ 82,977.23 ตัน โดยการปิดโรงงานดังกล่าวจะไม่กระทบกับชาวไร่อ้อยคู่สัญญา ในขณะเดียวกัน สอน. ได้ประสานไปยัง บริษัท น้ำตาลกุมภวาปี ให้ดำเนินการตามระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อเยียวยาช่วยเหลือแก่พนักงานประจำโรงงาน และจะดำเนินการติดตามการจ่ายเงินค่าอ้อยขั้นสุดท้ายให้กับชาวไร่อ้อยคู่สัญญาอย่างใกล้ชิด ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศราคาอ้อยขั้นสุดท้ายในช่วงเดือนต.ค. 64 รวมไปถึงตรวจสอบภาระหนี้ของบริษัทฯ กับกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อไม่ให้กระทบกับระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย  

นายเอกภัทร กล่าวยืนยันว่า ผลประกอบการโรงงานน้ำตาลที่เหลือ 56 แห่ง ยังมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และขณะนี้ราคาน้ำตาลตลาดโลกมีแนวโน้มดีขึ้น จะยิ่งเป็นผลดีกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมน้ำตาลทราย และฤดูกาลผลิตปี 64/55 จะมีโรงงานน้ำตาลเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง คือ โรงงานน้ำตาลสีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ในเครือโรงงานน้ำตาละครบุรีอีกด้วย ส่งผลให้โรงงานน้ำตาลทรายจะกลับมามีจำนวน 57 แห่งเช่นเดิม หลังจากโรงงานน้ำตาลกุมภวาปี จ.อุดรธานี ได้ประกาศปิดตัว 

ส่วนแนวโน้มผลผลิตอ้อยฤดูการผลิตปี 64/65 คาดว่า มีอ้อยเข้าหีบประมาณ 80-90 ล้านตันอ้อย สูงขึ้นกว่าผลผลิตอ้อยปี 63/64 ที่ได้ปิดหีบไปแล้วเมื่อเดือนเม.ย. 64 มีปริมาณ 66.658 ล้านตันอ้อย ลดลงประมาณ 8.2% เมื่อเทียบกับผลผลิตปี 62/63 ส่งผลให้ราคาอ้อยขั้นต้นปี 64/65 คาดว่า อยู่ที่ 900 บาทต่อตัน ถือว่า ราคาอยู่ในระดับสูง เป็นประโยชน์กับชาวไร่อ้อย รวมทั้งยังมีข่าวดี ให้ชาวไร่อ้อยอีก หลังจากโรงงานน้ำตาล ได้ประกาศราคารับซื้ออ้อยสด ตันละ 1,000 บาท อีกด้วย เพื่อลดปัญหาอ้อยไฟไหม้ และได้อ้อยที่มีคุณภาพสูง   


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"