สธ. แจงผู้เสียชีวิต 13 รายไม่เกี่ยวข้องฉีดวัคซีนโควิด ยังอยู่ระหว่างรอผลชันสูตร 55 ราย


เพิ่มเพื่อน    

17 มิ.ย.64 - นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงถึงสถานการณ์การฉีดวัคซีน โดยเฉพาะสถิติข้อมูลกรณีมีอาการไม่พึงประสงค์ และกรณีความชัดเจนสาเหตุการเสียชีวิตภายหลังการได้รับวัคซีน ว่า สำหรับการเฝ้าระวังเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภายหลังการได้รับวัคซีน โควิด-19 นั้น ในการฉีดวัคซีนของประเทศไทยที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 ถึงขณะนี้ฉีดไปแล้วทั้งหมด 7 ล้านกว่าโดส ถือเป็นจำนวนที่มากพอสมควร โดยแยกเป็นวัคซีนซิโนแวค ฉีดสะสมแล้ว 3,214,385 โดส ในจำนวนนี้มีอาการไม่พึงประสงค์ที่รับการรักษาเป็นผู้ป่วยในจำนวน 993 ราย (20 ต่อการฉีดแสนโดส) และพบว่ามีอาการเวียนศีรษะ 20% คลื่นไส้ 15% ปวดศีรษะ 12% อาเจียน 8% ผื่น 7% ปวดกล้ามเนื้อ 6% ท้องเสีย 5% มีอาการคัน 4% ตรงนี้จะเห็นว่าเป็นลักษณะที่พบเจอได้เหมือนกับวัคซีนตัวอื่นๆที่เคยมีการฉีดกันมา 

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า วัดซีนแอสตราเซเนกา ฉีดสะสมแล้ว 1,943,693 โดส ในจำนวนนี้มีอาการไม่พึงประสงค์ที่รับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน 472 ราย (24 ต่อการฉีดแสนโดส) เมื่อคิดเป็นอัตราแล้วสูงกว่าซิโนแวคเล็กน้อยถือว่าใกล้เคียงกัน และพบว่ามีอาการ ที่พบบ่อยคืออาการไข้ 31% ปวดศีรษะ 27% เวียนศีรษะ 21% คลื่นไส้ 21% อาเจียน 20% ปวดกล้ามเนื้อ 15% อ่อนเพลีย 13% ถ่ายเหลว 7% ทั้งนี้ คณะผู้เชี่ยวชาญกรณีเสียชีวิตภายหลังการได้รับวัคซีน โควิด-19ของส่วนกลาง ที่ทำหน้าที่พิจารณากันอย่างเต็มที่ในขณะนี้ และมีผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มจังหวัดและเขตสุขภาพที่มีทั่วประเทศ 13 เขต ก็จะมีคณะผู้เชี่ยวชาญที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่พิจารณาร่วมอยู่ด้วย โดยเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมามีการประชุมพิจารณาถึงกรณีผู้เสียชีวิตภายหลังการได้รับวัคซีน จะมีรายใดที่มีสาเหตุและเกี่ยวโยงเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ ข้อมูลส่วนใหญ่เกือบสมบูรณ์แต่มีบางรายที่อาจจะต้องขอข้อมูลเพิ่ม ถ้าสรุปตรงนี้เพิ่มเติมมาจะนำมารายงานในสัปดาห์ถัดไป 

จากการรวบรวมรายงานมีผู้เสียชีวิต 68 ราย โดยได้รับการพิจารณาจากผู้เชี่ยวชาญสำเร็จแล้วสรุปแล้ว 13 ราย โดยไม่มีรายใดที่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน ทั้งหมดเป็นเหตุการณ์ร่วมที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน โดยแจกแจงได้ว่า กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน 8 ราย มีอาการเป็นจ้ำเลือด 1 ราย ลิ่มเลือดอุดตันในปอด 1 ราย เหยื่อหุ้มสมองอักเสบเป็นหนอง 1 ราย เลือดออกในช่องท้อง 1 ราย มีเลือดออกในสมองเนื่องจากความผิดปกติของเส้นเลือดสมอง 1 ราย เพราะฉะนั้น ตัวเลขที่อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและผลการชันสูตรพลิกศพตอนนี้ 55 ราย แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.มีการพิจารณาเพิ่มเติมไปค่อนข้างมากแล้วหากมีผลประการใดจะได้นำมารายงานให้ทราบต่อไป 

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า คณะผู้เชี่ยวชาญพิจารณาเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภายหลังการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 นั้น จะมีเลขานุการของคณะเป็นผู้ทำหน้าที่เตรียมข้อมูลที่จำเป็นโดยรวบรวมจากโรงพยาบาลในท้องที่ในแต่ละพื้นที่ว่า ผู้เสียชีวิตหรือผู้ที่มีอาการไม่พึงประสงค์อย่างรุนแรงนั้น มีลักษณะอาการป่วยเป็นอย่างไร ฉีดวัคซีนไปเมื่อไหร่ เริ่มมีอาการเป็นอย่างไร รวมถึงโรคประจำตัวการรักษาเดิมจะต้องมีความครอบคลุมในทุกมิติ ซึ่งจุดสำคัญที่ต้องการให้ทราบ คือผลการพิจารณาแบ่งออกเป็น 7 ประเภท ได้แก่ 1. เกี่ยวข้องกับวัคซีน 2. เกี่ยวข้องกับคุณภาพของวัคซีน 3. เกี่ยวข้องกับการให้บริการการฉีดวัคซีน 4. เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน 5. เป็นเหตุการณ์ร่วมที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีนแต่บังเอิญเกิดร่วมกัน 6. ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีน 7. ข้อมูลยังไม่เพียงพอที่จะสรุป 

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า สำหรับการเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์ ภายหลังการได้รับวัคซีนมีอยู่ในทุกประเทศซึ่งทางองค์การอนามัยโลกมีข้อแนะนำตามระบบซึ่งขอยกตัวอย่างสหรัฐอเมริกา จากประชากร 328 ล้านคน ปกติเสียชีวิตโดยทั่วไป 3.3 ล้านคน ขณะนี้สหรัฐอเมริกาฉีดวัคซีน โควิด-19 แล้ว 312 ล้านโดส รายงานเสียชีวิตหลังการได้รับวัคซีน โควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.63 - 3 พ.ค.64 เสียชีวิตไป 4,173 ราย แล้วจะมีคณะผู้เชี่ยวชาญนำข้อมูลมาพิจารณาเช่นกัน ซึ่งได้ข้อสรุปว่าไม่ได้มีสาเหตุมาจากวัคซีน โควิด-19 แต่อย่างใด เช่นกันกับประเทศไทย ประชากรกว่า 70 ล้านคนข้อมูลปกติเสียชีวิตโดยทั่วไปต่อปี 5 แสนกว่าราย ดังนั้น เมื่อคณะผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์สาเหตุแล้วเห็นสาเหตุความเชื่อมโยงเป็นอย่างไรก็ต้องนำมาเทียบอัตราการเสียชีวิตของสาเหตุนั้นๆ หรืออัตราการเสียชีวิตภาพรวมของประเทศ เป็นการช่วยสรุป และบ่งบอกว่าสิ่งเหล่านี้เพิ่มขึ้นหลังจากที่ฉีดวัคซีน โควิด-19 หรือไม่เมื่อเทียบกับสถิติย้อนหลัง

นพ.เศวตรสรร กล่าวว่า ยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญสูงสุด เรื่องความปลอดภัยของประชาชนหากมีข้อมูลใดที่จะต้องนำมาพิสูจน์ทราบเพื่อให้เห็นความชัดเจนก็จะพยายามอย่างเต็มที่ที่สุด เพื่อข้อสรุปที่น่าเชื่อถือและมั่นใจ และถึงตอนนี้ถือว่าวัคซีนยังมีความปลอดภัยเช่นเดียวกับที่วัคซีนหลายยี่ห้อฉีดในทั่วโลกหลายร้อยล้านโดส ที่ยังมีความปลอดภัยและยังฉีดต่อไป 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"