ว่าด้วยฟุตบอลกับความเป็นไทยๆ


เพิ่มเพื่อน    

ฮื่ออ์อ์อ์...ไม่รู้เหมือนกันว่าทีมฟุตบอลทีมชาติเยอรมันยุคนี้ เป็นอะไรกับพลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง หรือไปเกี่ยวกันตอนไหน แบบไหน อย่างไร ก็มิอาจสรุปได้ มันถึงได้ต่ำเตี้ย เรี่ยดิน ทรุดโทรม เสื่อมโทรม ไปได้ถึงปานนั้น ออกอาการเป๊าะๆ แป๊ะๆ ไร้หัวจิต หัวใจ ถูกทีมตราไก่-ฝรั่งเศส ถล่มไป 1-0 เมื่อวัน-สองวันนี้ ต้องเรียกว่าโชคดีพอสมควรแล้ว...

                                                           --------------------------------------------

                ก่อนหน้านั้น...เห็นว่าช่วง อุ่นเครื่อง ไปเสมอ 3-3 กับทีมไก่งวง-ตุรกี ที่เพิ่งแพ้อิตาลีไป 3-0 พูนสวัสดิ์ และแพ้ทีมเวลส์ไป 2-0 วันวานนี้ ในศึกยูโร 2020 คือออกอาการแทบไม่เหลือราคามาตั้งแต่ต้นเอาเลยก็ว่าได้ หรือเมื่อครั้งไปอุ่นเครื่องกับทีมโคนม-เดนมาร์ก ที่ดันแพ้ทีมโนเนมอย่างฟินแลนด์อย่างแทบไม่น่าเชื่อสายตา ก็ได้แค่เสมอ 1-1 อีกเหมือนกัน ต่างไปจากทีมชาติเยอรมันยุคอดีต ยุคที่ ไส้กรอก ยังดุ้นเบ้อเร่อเห้อ น่ากลัว น่าตกตะลึงพรึงเพริด น่าวี้ดๆ ว้ายๆ สำหรับใครต่อใครเสมอๆ เคยคว้าแชมป์บอลโลก บอลยูโร ติดไม้-ติดมือ มาได้โดยตลอด...

                                                            ------------------------------------------

                หรือยุคที่ยังมี เกิร์ด มุลเลอร์ มี ฟรานซ์ แบคเคนบราวน์ มี คาร์ลไฮนซ์ รุมเมนิเก หรือมีผู้ที่คุณน้อง สาธิต กรีกุล ท่านเรียกว่า โอลิเวอร์ เบียร์หอบ ฯลฯ อะไรทำนองนั้น คือขนาด เบียร์ ยัง หอบ ทุกสิ่งทุกอย่างก็แทบไม่ต้องพูดถึง แต่มายุคนี้-สมัยนี้ จะด้วยเหตุเพราะ สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ด้วยเหตุเพราะ บอส กระทิงแดง หรืออะไรต่อมิอะไรก็มิอาจสรุปได้ โดยลักษณะลีลาตามมาตรฐานเยอรมัน ประเภททั้งอึด ทั้งทน เต็มไปด้วยระเบียบและวินัย ไม่เคยคิดจะถอดใจ หมดใจใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าหากยังไม่ครบ 90 นาที หรือแม้แต่ลีลาการต่อบอลยาวๆ สาดขึ้นหน้า ขึ้นหลัง ได้อย่างแม่นยำ ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้ จู่ๆ...มันชักจะหายไปดื้อๆ!!! เท่าที่ดูจากศึกยูโร 2020 เที่ยวนี้ ด้วยอะไร หรือเพราะอะไร ก็ยากจะอธิบายได้...

                                                               ----------------------------------------------

                ดังนั้น...เลยคงต้องสรุปเอาไว้ก่อน ว่าอาจเกี่ยวอะไรกับพลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ไม่ว่าทางหนึ่ง ทางใด ก็แล้วแต่จะไปสืบหากันเอาเอง คล้ายๆ กับกรณีคุณน้อง บอส กระทิงแดง อะไรประมาณนั้น ที่จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังจับมือใครดมแทบไม่ได้ ทั้งๆ ที่สุภาพบุรุษแห่งความเที่ยงธรรม อย่างอาจารย์ วิชา มหาคุณ ท่านสรุปอักษรย่อ อักษรเต็ม ส่งไปถึงมือท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ผู้ซิงเกิล คอมมานด์ มาไม่รู้จะกี่เดือนต่อกี่เดือน หรือแทบเป็นปีๆ ไปแล้วก็ว่าได้ แต่ก็ยังคงต้อง ปฏิรูปตำรวจ อีกเหมือนเคย...

                                                               --------------------------------------------     

แต่ก็นั่นแหละ...ลักษณะอาการอะไรต่อมิอะไรทำนองนี้ คงมิอาจปฏิเสธได้เลยว่าอาจถือเป็นองค์ประกอบ ส่วนประกอบอีกด้านหนึ่งของ ความเป็นไทยๆ แม้จะเป็นไปใน แง่ลบ ก็ตามที คือลักษณะอาการแห่งการอุปถัมภ์ค้ำชู การลูบหน้าปะจมูก แม้ว่าหน้านั้น จมูกนั้น ไม่ถึงกับน่าลูบ น่าสัมผัส มากมายซักเท่าไหร่ แต่ด้วยเหตุผล กลใด ก็มิอาจทราบได้ การลูบไป-ลูบมา ในลักษณะทำนองนี้ มันจึงมักผูกติดมากับ ความเป็นไทยๆ จนทำให้องค์ประกอบ ส่วนประกอบ ที่เป็นไปใน แง่บวก ทั้งหลาย ไม่ว่าความโอบอ้อม อารี ความมีน้ำใจ-ไมตรี ความปรารถนาดีต่อผู้อื่น ฯลฯ มันเลยต้องพลอยหมองๆ ลงไปด้วย หรือกลายเป็น อุปสรรค ต่อการเร่งรัด พัฒนา ต่อการก้าวหน้า การเจริญเติบโตไปในทางที่เหมาะ ที่ควร กันจนได้...

                                                          -----------------------------------------------

                แบบเดียวกับที่กำลังเห็นๆ กันอยู่ในกรณี เสาไฟฟ้า รูปกินนรี รูปสุพรรณหงส์ รูปเครื่องบิน ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรนั่นแหละทั่น ด้วยเหตุที่ประดาสิ่งเหล่านี้มันค่อนข้าง ฝังลึก ลงไปใน ความเป็นไทยๆ แบบยากซ์ซ์ซ์ที่จะขุดลอก ขุดสันดอน รื้อสันดาน ให้หลุดออกมาชิ้นๆ จนไม่เหลือติดปลายนวม ไม่ให้ผสมปนเปไปกับ ความเป็นไทยๆ ต้องยอมรับว่าออกจะเป็นอะไรที่ยากเย็น แสนเข็ญ มาโดยตลอด กระทั่งยุคโบร่ำ-โบราณ ว่ากันว่าพระมหากษัตริย์บางองค์ ถึงกับสั่งให้หลอมละลายแร่เงินเอาไว้ กรอกปาก ผู้ที่เบียดบังเงินทองของแผ่นดิน แต่ไม่ว่าจะกรอกกันกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็ยังไม่อาจขุดลอก รื้อสันดอน เปลี่ยนสันดาน ได้อย่างเท่าที่ควรจะเป็น...

                                                          -------------------------------------------------

                นอกซะจากเมื่อครั้งต้องเจอกับพระมหากษัตริย์ ระดับ วีรกษัตริย์ อย่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือพระเจ้าตากสินมหาราช อันนั้นนั่นแหละ...โดยความเป็นไปของฉากสถานการณ์ อันเป็น เงื่อนไข และ เหตุปัจจัย ที่ทำให้ต้องอาศัยความเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด อย่างชนิดไม่มีข้อยกเว้น สันดอนและสันดานใดๆ ทั้งหลาย จึงหนีไม่พ้นต้องถูกขุด ถูกรื้อ ระดับกระจัดกระจายกันไปเป็นชิ้นๆ ถูกตัดหัว คั่วแห้ง ถลกหนัง เสียบประจานกันไปเป็นรายๆ การปรากฏตัวของวีรบุรุษ หรือวีรกษัตริย์ใน ยามคับขัน จึงพอช่วยฟื้นฟู บูรณะ สิ่งต่างๆ ให้กลับมาเจริญเติบโต และงอกงาม ได้ในแต่ละช่วง แต่ละระยะ อย่างเป็นมรรค เป็นผล...

                                                            ---------------------------------------------

                ด้วยเหตุนี้...ก็เอาเถอะ!!! ในเมื่อ เงื่อนไข และ เหตุปัจจัย มันยังไม่ถึงพร้อม จะ สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง จะ บิ๊กตู่ หรือจะอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้ายังคงอยู่ในฐานะ ทีมชาติไทย ก็คงต้องหนีไม่พ้นต้องเชียร์ๆ เอาไว้ก่อน แบบเดียวกับคนเยอรมันยังคงต้องเชียร์ ทีมชาติเยอรมัน อะไรทำนองนั้น แม้ว่า เบียร์ จะไม่ หอบ หรือ ไส้กรอก จะทั้งเหี่ยว ทั้งดำ ไม่ได้น่ากลัว น่าตะลึงพรึงเพริดเหมือนก่อนๆ แต่ทำไงได้...ในเมื่อยังคงเป็นทีมไทย ยังมีฐานะเป็นทีมชาติ ก็คงต้องไทยแลนด์สู้ๆ ไทยแลนด์สู้ตายกันต่อไป จนกว่า เกิร์ด มูลเลอร์ หรือ คาร์ลไฮนซ์ รุมเมนิเก จะกลับมาเกิดใหม่...นั่นแล...

                                                                      -----------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Neaunder (อีกครั้ง)... “In adversity a man is save by hope.- ในยามวิบัติ คนเราจะอยู่ได้ด้วยความหวัง...”

                                                                      ----------------------------------------------------

 

 

 

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"