ห้องเรียนระบายอากาศ ป้องกันเด็กติดโควิด-19


เพิ่มเพื่อน    

เปิดภาคเรียนกันแล้ว ทำให้มีความกังวลว่า จะทำอย่างไรให้สุขภาพของเด็กๆปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

 

 

มีรายงานใหม่ระบุว่าการระบายอากาศ หรือการอยู่ในที่มีอากาศถ่ายเท เป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันการแพร่กระจายของ COVID-19 ในโรงเรียน โดยรายงานฉบับใหม่จาก ศูนย์รักษาความปลอดภัยด้านสุขภาพที่ก่อตั้งโดย Johns Hopkins ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ไม่แสวงหาผลกำไร ภายใต้โรงเรียนสาธารณสุข Johns Hopkins Bloomberg ได้เรียกร้องให้ผู้บริหารโรงเรียนที่เปิดสอนในระดับเกรด 1-เกรด 12 หรือชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เร่งปรับปรุงรูปแบบของการระบายอากาศ ภายในห้องเรียน เพื่อลดการแพร่กระจายของ ของ COVID-19 – และเพื่อส่งเสริมสุขภาพและประสิทธิภาพของนักเรียนโดยรวม

 

ในขณะที่เด็กวัยรุ่นและวัยรุ่นหลายล้านคน จะได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว และเด็กเล็กเป็นกลุ่มลำดับถัดไปที่จะได้รับการฉีดวัคซีน ทั้งนี้โรงเรียนยังคงต้องพึ่งพามาตรการป้องกันอย่างมาก เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของไวรัส

 

ด้าน “จีจี้ โกรนวอล” นักวิชาการอาวุโสจากศูนย์รักษาความปลอดภัยด้านสุขภาพ Johns Hopkins Center for Health Security บอกว่า “เครื่องฟอกอากาศเป็นการลงทุนที่ดี พวกเขาจะช่วยทำให้ห้องเรียนปลอดภัยยิ่งขึ้นเพราะโควิด ไข้หวัดใหญ่ และเชื้อโรคอื่นๆ ที่ถูกส่งผ่านทางอากาศ และการมีอากาศหมุนเวียนไม่ดี จะเพิ่มโอกาสที่เชื้อโรคเหล่านี้ หากเด็กๆนั่งในห้องเรียน”

 

ก่อนหน้านี้กลุ่มต่างๆ เช่น ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคในอเมริกา (CDC) หรือระบบสาธารณสุขเมืองมะกัน ได้เรียกร้องให้โรงเรียนปฏิบัติตามนโยบาย การระบายอากาศภายในห้องเรียน เกือบตลอดทั้งปี โดยบอกให้พวกเขาเปิดหน้าต่างและประตู เพื่อเพิ่มการส่งอากาศบริสุทธิ์ และในเขตการศึกษาใหญ่ๆ อย่างนิวยอร์กซิตี้ โรงเรียนต่างปฏิบัติตาม บ่อยครั้งในขณะที่นักเรียนและครูรู้สึกหนาวเย็น และต้องสวมเสื้อกันหนาวหลายชั้น เพื่อป้องกันตนเองจากความหนาวเย็น

 

ทั้งนี้สาธารณสุขของอเมริกา หรือ CDC ยังได้แนะนำให้ทางโรงเรียน หมั่นทำความสะอาดพื้นที่เสี่ยงสูง ที่เด็กๆสัมผัสที่ใช้เป็นประจำ และต้องหมั่นทำความสะอาดแบบเอี่ยมอ่อง เพราะอันที่จริงแล้วการใช้อุปกรณ์ฟอกอากาศที่มีราคาแพง และยุ่งยากในการจัดการกับการฟุ้งกระจายของเชื้อโรคต่าง อาจจะได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร

 

ขณะที่ ด้าน “จีจี้ โกรนวอล” นักวิชาการอาวุโสฯคนเดิม กล่าวว่า “โรงเรียนบางแห่งให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดมากเกินไป และแน่นอนว่าการทำความสะอาดนั้นสำคัญ แต่นั่นไม่ใช่วิธีการหยุดการแพร่เชื้อของโควิดที่กระจายตัวอยู่ในอากาศ ขณะเดียวกันการการปรับปรุงการไหลเวียน ของอากาศในห้องเรียนไม่ได้หมายความว่า นักเรียนจะสามารถหยุดการใส่หน้ากากอนามัย ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงหน้า แต่อย่างไรทางโรงเรียน จะต้องปฏิบัติตามแนวทาง ด้านสาธารณสุขที่กำหนดมาล่าสุดต่อไป”

 

ด้าน สาธารณสุขอเมริกาได้ออกมาบอกว่า “ ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างน้อยตลอดปีการศึกษานี้ แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าจะเกิดอะไรขึ้นในปีหน้า และการล้างมือและการเว้นระยะห่างทางสังคมยังคงเป็นมาตรการป้องกันที่สำคัญมาก

 

อีกทั้งมีข้อมูลที่อ้างว่า ประโยชน์ของการปรับปรุงการระบายอากาศในห้องเรียน ให้ปราศจากเชื้อไวรัสโควิดร้าย จะทำให้ห้องเรียนมีอากาศบริสุทธิ์ จะช่วยทำให้ประสิทธิภาพการเรียน ของนักเรียนดีขึ้น จาก 2% เป็น 15% และก่อนที่โควิด-19 จะระบาดนั้น คุณภาพอากาศภายในห้องเรียนทั่วประเทศ ค่อนข้างอบอ้าว ซึ่งไม่ดีต่อการเรียน แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า อากาศที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และถ่ายเทไม่สะดวก หรือหากอากาศถ่ายเทมากเกินไป ก็อาจเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคระบาดได้ ทั้งนี้จากรายงานข่าวดังกล่าวระบุว่า อากาศที่บริสุทธิ์ล้วนมีผลต่อการเรียนได้ทั้งสิ้น แต่การใส่หน้ากากอนามัยในห้องเรียนของเด็กๆ และการหมั่นล้างมือให้สะอาดก็สำคัญไม่แพ้กัน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"