'สรยุทธ'สูญเสียครั้งใหญ่ มารดาเสียชีวิต'หลับให้สบายนะหม่าม้า'


เพิ่มเพื่อน    

5 มิ.ย.61- นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา  อดีตนักเล่าข่าวชื่อดัง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงการสูญเสียมารดาว่า...

พ่อผมเสียตั้งผมยังไม่รู้ความ ในความทรงจำของผมจึงมีแค่แม่ที่ทำหน้าที่ทั้งแม่และพ่อไปพร้อมกัน แม่ลำบากมาทั้งชีวิต ไม่มีช่วงเวลาไหนเลยที่แม่สบาย ผู้หญิงตัวคนเดียวขายผลไม้เพื่อเลี้ยงลูก 3 คนจนโต ทั้งขายส่งขายปลีกจนแทบไม่มีเวลานอน ตอนหลัง จากค้าขายผลไม้สุดท้ายต้องมาขายของจุกจิก ชิ้นละบาทสองบาท เพราะตึกแถวถูกเวนคืนสร้างทางด่วน วันไหนพอจะมีเวลาหยุดพักบ้าง แม่ก็ยังอุตส่าห์ขับรถพาลูกๆ ไปเที่ยวทะเล เวลาเดียวที่ผมรู้สึกได้ว่า แม่สบายใจคือการได้เห็นลูกๆ ประสบความสำเร็จ แต่เมื่อถึงเวลาที่แม่ควรจะได้อยู่อย่างสุขสบาย เพราะลูกๆ เริ่มมีฐานะ มีกำลังจะดูแลให้แม่ได้ไปพักผ่อน ไปท่องเที่ยวรอบโลก แม่ก็กลับล้มป่วยเป็นพาร์กินสันเทียม ซึ่งเป็นอาการป่วยที่ทุกข์ทรมานมากว่า 10 ปี นี่คือสิ่งที่ผมเสียใจที่สุด ...

ผมไม่เคยรู้ว่าแม่อยากให้ผมที่เป็นลูกชายคนเดียวบวช เพราะแม่ไม่เคยบอก เพิ่งมารู้จากญาติหลังจากผมลาสิกขาแล้วว่า เมื่อครั้งแม่ยังพูดคุยได้ แม่เคยบอกว่าอยากให้ผมบวช แต่ไม่ได้บอกเพราะเห็นผมงานยุ่งมาก ผมบวช 33 วันครั้งนี้ตั้งใจบวชให้แม่ ทุกเช้าทุกค่ำหลังสวดมนต์ทำวัตร ผมตั้งใจอธิษฐานจิตขออุทิศบุญกุศลให้แม่ และเจ้ากรรมนายเวรของแม่ ผมนึกถึงแต่หน้าแม่และความทุกข์ทรมานของแม่โดยคิดเองในใจว่า หากมีเจ้ากรรมนายเวร ขอโปรดหยุดทรมานแม่ผม แม่ผมทุกข์มากพอแล้ว แต่อีกใจก็แอบกลัวว่า หากเจ้ากรรมนายเวรท่านอโหสิกรรมให้แม่แล้ว แม่ผมอาจจะจากผมกับพี่น้องไป ซึ่งผมก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น ผมดีใจที่แม่ปลาบปลื้มใจที่ผมได้บวชให้แม่ เพราะวันที่ผมรับกิจนิมนต์มารับบาตรและสวดมนต์ให้แม่ที่โรงพยาบาล แม่ยกมือ แม่น้ำตาไหล แม้จะพูดไม่ได้ หลังจากนั้นทุกวัน 6 โมงเย็น แม่จะตื่นตาใสรอผมเฟสไทม์มาสวดมนต์ให้ฟัง ...

วันที่ 3 มิถุนายน 2561 แม่อาการแย่ลง จากการติดเชื้อดื้อยาขั้นรุนแรง ก่อนหน้านี้แม่เคยติดเชื้อดื้อยาจนอาการทรุดมาหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน แม้กระทั่งก่อนผมบวชวันเดียวที่พี่น้องไม่ได้บอกผม แต่ก็ผ่านมาได้ทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ความดันตก ปอดติดเชื้อจนคุณหมอรับว่าไม่น่าจะมีปาฏิหาริย์เหมือนที่ผ่านมา แม่ไม่รู้สึกตัวแล้ว ผมเดินเข้าออกห้องฉุกเฉินหลายครั้ง ตัดสินใจว่าจะพาแม่สวดมนต์ดีมั้ย ใจหนึ่งก็กลัวไม่ทันก่อนที่แม่จะจากไป แต่ใจหนึ่งก็ไม่อยากให้แม่จากไป สุดท้ายผมตัดสินใจจับมือแม่ที่ไม่รู้สึกตัวแล้วบอกกับแม่ว่า สวดมนต์พร้อมกับลูกนะแม่ เรามาสวดทำวัตรเย็นด้วยกัน แล้วผมก็เริ่มสวดมนต์ทำวัตรเย็นแปลอย่างช้าๆ อย่างที่เคยสวดในวิหารต่อหน้าพระ บางช่วงที่มีคำที่ใช้แตกต่างกันของผู้ชายกับผู้หญิง ผมก็สวดของผมก่อน และก็บอกแม่ว่าท่อนนี้ของแม่นะ จนจบบททำวัตรเย็น ผมก็สวดบทนมัสการพระอรหันต์ 8 ทิศ ความดันแม่ยังตกลงเรื่อยๆ ในใจผมกลัวว่า จะสวดไม่จบ ระหว่างนั้นแม่กลับรู้สึกตัวกลืนน้ำลายอยู่พักหนึ่ง ผมสวดบทถวายพรพระ พาหุง มหากาฯ กระทั่งบทภะวะสัพฯ จนจบ พี่สาวกับน้องสาวเอ่ยกับแม่ว่าสาธุ อึดใจนั้นเอง เครื่องสัญญาณชีพก็ส่งเสียงดัง ผมเหลือบตาขึ้นไปเห็นชีพจรลงมาอยู่ที่ 0 ...

ไม่ต้องเจ็บไม่ต้องทรมานอีกแล้ว หลับให้สบายนะหม่าม้า 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"