ตีปี๊บภูเก็ตเปิดปท. ประเดิม4ไฟลต์บินตั้งเป้านักท่องเที่ยว5แสนคนฟัน3พันล.


เพิ่มเพื่อน    

  "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" คึกคัก! นายกฯ ลงพื้นที่ 1 ก.ค.นี้ หวังนำร่องเปิดประเทศจุดเริ่มต้นกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดรับต่างชาติ 1 แสนคนในไตรมาส 3 นี้  ศบค.เพิ่มข้อปฏิบัติผู้ที่จะเดินทางเข้ามา เผยมี 4 เที่ยวบิน นทท. 249 คนจ่อบินเข้า แห่ลงทะเบียนขอซีโออีกว่า 4 พันคน "สุพัฒนพงษ์-สุชาติ-เสกสกล" ลงพื้นที่ล่วงหน้าเตรียมความพร้อม ชาวภูเก็ตจัดพิธีบวงสรวงก่อนเปิดจังหวัด ผู้ว่าฯ เมืองไข่มุกอันดามันลั่นยกระดับจุดคัดกรองเข้มข้น เผยนักท่องเที่ยวเลือกพักโรงแรมในพื้นที่ป่าตองเกือบ 4 ร้อยห้อง สสจ.ภูเก็ตแจงไม่พบสายพันธุ์อินเดีย ยันผู้ติดเชื้อ 5 รายเดินทางมาจาก กทม.

    การเปิดเศรษฐกิจท่องเที่ยวตามโครงการ Phuket  Sandbox จังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ หน่วยงานราชการได้เตรียมความพร้อมกันอย่างคึกคัก  โดยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีกำหนดลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดภูเก็ต ตรวจเยี่ยมระบบการคัดกรองผู้เดินทางเข้าออกจังหวัดภูเก็ตทางบก ทั้งยานพาหนะ บุคคล และเอกสารต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดโครงการ Phuket Sandbox จังหวัดภูเก็ต ณ ด่านตรวจภูเก็ต จากนั้นจะเป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินการมาตรการต่าง ๆ ภายใต้โครงการ Phuket Sandbox ร่วมกับส่วนราชการและภาคเอกชน ณ โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้  อำเภอเมืองภูเก็ต และเปิดโครงการ “ฮักไทย ฮักภูเก็ต”  (HUG THAIS HUG PHUKET) ภายใต้โครงการ “ฮักไทย” ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต และตรวจเยี่ยมความพร้อมการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ณ อุทยานแห่งชาติสิรินาถ โอกาสนี้นายกฯ จะตรวจเยี่ยมการคัดกรองผู้เดินทางเข้าออกจังหวัดภูเก็ตทางอากาศ และให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศตามโครงการ Phuket Sandbox ที่สนามบินนานาชาติภูเก็ตด้วย ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในเย็นวันเดียวกัน
    โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการลงพื้นที่ของนายกฯ ในครั้งนี้ว่า จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ช่วยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวเนื่องให้สามารถกลับมาฟื้นตัวโดยเร็ว เพิ่มโอกาสการจ้างงาน ต่อยอดสินค้าบริการในธุรกิจกิจการท่องเที่ยวระดับต่าง ๆ รวมถึงการลงทุนด้วย ซึ่งต้องดำเนินการควบคู่ไปกับนิวนอร์มอล หรือการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประมาณการนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ภายใต้โครงการ Phuket Sandbox จำนวน 100,000 คน ในไตรมาส 3  (เดือน ก.ค.-ก.ย.64) จะสร้างรายได้อยู่ที่ 8.9 พันล้านบาท ทั้งนี้ ตลอดเดือน ก.ค.64 มียอดจอง ( Booking) ของผู้โดยสารที่จะเข้ามา Phuket  Sandbox ประมาณ 11,894 คน ข้อมูลจาก 6  สายการบิน แบ่งเป็นผู้โดยสารขาเข้าประมาณ 8,281  คน ขาออก 3,613 คน คาดการณ์ปริมาณเที่ยวบินทั้งหมดประมาณ 426 เที่ยวบิน เฉลี่ยที่ประมาณ 13  เที่ยวบิน/วัน
    อย่างไรก็ตาม ศบค.ได้กำหนดแผนการชะลอหรือยกเลิกโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ กรณีสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง หากมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 90  ราย/สัปดาห์ ในลักษณะการกระจายโรคในจังหวัดทั้ง 3  อำเภอ และมากกว่า 6 ตำบล ที่มีการระบาดเกิน 3  คลัสเตอร์ หรือมีการระบาดในวงกว้างที่หาสาเหตุหรือความเชื่อมโยงไม่ได้ รวมทั้งความพร้อมในการรองรับผู้ป่วย กรณีมีผู้ติดเชื้อครองเตียงโรงพยาบาลตั้งแต่ 80%  ของศักยภาพจังหวัดที่มีการพบการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์แบบวงกว้างแบบควบคุมไม่ได้ด้วย
    นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แถลงชี้แจงถึงคำสั่ง ศบค.ฉบับที่ 7/2564  และการออกข้อกำหนดฉบับที่ 26 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อคืนวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ว่าประกาศฉบับที่ 26 เป็นการเพิ่มข้อปฏิบัติใน (12) ที่กำหนดเกี่ยวกับผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร รองรับโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 1 ก.ค.เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความเข้าใจตรงกันและให้ประชาชนมีความมั่นใจ เบื้องต้นได้รับรายงานว่าจะมีเที่ยวบินเดินทางเข้ามา 4 เที่ยวบิน  จำนวน  249 คน โดยมาจากอิสราเอล, เมืองอาบูดาบี  และกาตาร์
แห่ลงทะเบียนกว่า 4 พันคน
    นพ.ทวีศิลป์ระบุว่า แนวทางปฏิบัติของผู้ที่จะเดินทางเข้ามาตามประกาศดังกล่าว จะเริ่มตั้งแต่ก่อนเดินทางที่จะต้องมีเอกสาร 5 อย่าง ประกอบด้วย 1.หนังสือรับรองว่าได้รับอนุญาตในการเดินทางเข้ามา 2.ใบรับรองแพทย์ว่าไม่ติดเชื้อโควิด-19 และมีการตรวจด้วยระบบสวอบมาแล้วไม่เกิน 72 ชั่วโมง 3.มีกรมธรรม์ที่มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์ 4.เอกสารระบุที่พักชัดเจน  และ 5.เอกสารรับรองว่าได้รับการฉีดวัคซีน ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาก็จะบินตรงไปที่เกาะภูเก็ต ส่วนผู้ที่มาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ จะต้องรวมจนได้จำนวนหนึ่งแล้วต่อเครื่องไปลงที่ภูเก็ต  โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะต้องไม่ปะปนกับกลุ่มอื่นๆ และเมื่อมาถึงภูเก็ตแล้วจะต้องอยู่ในภูเก็ต 14 วัน หากต้องการอยู่ต่อเกิน 14 วัน หรือจะไปท่องเที่ยวที่จังหวัดอื่น จะต้องมีการตรวจหาเชื้อโควิดในช่วงระหว่างนี้ คือในช่วงระหว่างวันที่ 6-7 และวันที่ 12-13 อย่างไรก็ตาม หากในช่วง 14 วันนักท่องเที่ยวต้องการกลับก่อนกำหนดก็สามารถกลับได้ทันที แต่จะไปจังหวัดอื่นไม่ได้
    นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการเตรียมการการออกหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย หรือซีโออี (Certificate of Entry–COE) ให้ชาวต่างชาติ เพื่อรองรับนโยบายภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ว่า  กระทรวงการต่างประเทศได้ปรับปรุงระบบลงทะเบียนขอเอกสารซีโออีผ่านทางออนไลน์ในเว็บไซต์  www.coethailand.mfa.go.th สำหรับภูเก็ต  แซนด์บ็อกซ์ ได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุลใหญ่ไทยที่ประจำการทั่วโลกเตรียมความพร้อม  และเปิดระบบลงทะเบียนดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดมีผู้ที่ลงทะเบียนแล้ว 4,100 คน โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ทำหน้าที่ตรวจเอกสารยืนยันการได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 (Certificate of Vaccination) ซึ่งขณะนี้ตรวจอนุมัติแล้วกว่า 500 ราย และตั้งแต่ 29 มิ.ย.  สถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุลใหญ่ไทยที่ประจำการทั่วโลกได้พิจารณาและกำลังทยอยออกเอกสารซีโออี สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้าโปรแกรม “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”  อย่างต่อเนื่อง
    รายงานข่าวจากสายการบินไทยสมายล์แจ้งว่า สายการบินไทยสมายล์จำเป็นต้องแจ้งยกเลิกการกลับมาให้บริการเส้นทางระหว่างประเทศภูเก็ต-ฮ่องกง ตามนโยบาย ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ซึ่งเดิมจะเริ่มทำการบินในวันที่ 2 ก.ค. สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบินออกไปก่อน  เนื่องจากผู้โดยสารจากฮ่องกงได้ทยอยยกเลิกการเดินทางจำนวนมาก ส่งผลให้ยอดการจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าปรับลดลงจาก 30% เหลือเพียง 5% จนสายการบินไม่สามารถเปิดทำการบินได้เพราะไม่คุ้มที่จะทำการบิน
    สำหรับสาเหตุที่ทำให้ผู้โดยสารชาวฮ่องกงยกเลิกเที่ยวบิน เนื่องจากในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาประเทศไทยถูกฮ่องกงจัดให้เป็นเขตพื้นที่สีแดง หรือเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากการกลับมาระบาดรุนแรงอีกระลอก ซึ่งมีข้อกำหนดให้ชาวฮ่องกงที่เดินทางกลับจากไทยจะต้องกักตัว 14 วันก่อนที่จะเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนา ซึ่งสร้างภาระค่าใช้จ่ายในการกักตัวและเสียเวลากักตัวนานเกินไป
    นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงผลการสำรวจ  FTI Poll ครั้งที่ 7 ในเดือนมิถุนายน 2564 ภายใต้หัวข้อ “120 วัน เตรียมความพร้อมเปิดประเทศ” ว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท.ส่วนใหญ่มองว่าการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ควรพิจารณาจากความพร้อมและสถานการณ์ในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นสำคัญ ซึ่งการจัดหาวัคซีนที่มีคุณภาพและจำนวนเพียงพอ รวมถึงการเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม 70% ของประชากรทั้งประเทศ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เป็นปัจจัยสำคัญที่ภาครัฐจะต้องเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดประเทศ
ทีมนายกฯ เตรียมความพร้อม
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พร้อมหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง มีความพร้อมในการทำงานกับหน่วยร่วมปฏิบัติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่จะเป็นพื้นที่นำร่องรองรับนักท่องเที่ยวตามด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ โดยจะดำเนินการตามมาตรการที่  ศบค. หรือศูนย์ปฏิบัติการมาตรการเดินทางเข้าออกประเทศและการดูแลคนไทยในต่างประเทศอนุมัติ ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนด
    วันเดียวกัน เวลา 11.45 น. นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน พร้อมด้วย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เดินทางไปปฏิบัติราชการ ณ จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, เรืออากาศตรีธานี ช่วงชู ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต (ผภก.), ผู้บริหาร และพนักงานท่าอากาศยานภูเก็ตให้การต้อนรับ ณ อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ต
    ต่อมานายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน จังหวัดภูเก็ต ณ ห้องประชุมตึก 3 ชั้น  สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 21 ภูเก็ต มีผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงานเข้าร่วม เพื่อติดตามรายงานสถานการณ์ด้านแรงงาน และการดำเนินงานตามภารกิจเพื่อให้สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาล ในการเปิดประเทศตามโครงการ  “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาโดยเร็ว
     ที่ห้องประชุม สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น  ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมร่วมกับนายเถลิงศักดิ์ นุชประหาร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดภูเก็ต  เพื่อสรุปแนวทางการอำนวยความสะดวกและต้อนรับมวลชนที่มายื่นหนังสือร้องทุกข์ถึงนายกรัฐมนตรี ในวาระที่นายกฯ จะเดินทางมาที่จังหวัดภูเก็ตในวันที่ 1 ก.ค.นี้  โดยนายเสกสกลแจ้งว่า นายกฯ มีบัญชาและให้แนวทางว่าไม่ให้กีดกันขัดขวางประชาชนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนที่จะมายื่นหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในเรื่องอะไรก็ตาม ให้ผู้ร้องมั่นใจว่าทุกเรื่องจะนำเรียนถึงนายกฯ อย่างแน่นอน  และทุกเรื่องราวจะได้รับการพิจารณาเข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการแก้ไขปัญหาให้รวดเร็วที่สุด
    เวลา 14.30 น. นายนิตินัย ศิริสมรรถการ  กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย  จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ (Phuket  Sandbox) เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ที่พร้อมเดินทางมายังจังหวัดภูเก็ตในวันที่ 1 ก.ค.64 ณ ห้องประชุมชั้น 5 อาคารสำนักงานท่าอากาศยานภูเก็ต
ด่านคัดกรองคุมเข้ม
    ด้านนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  กล่าวว่า รัฐบาลเลือกภูเก็ตเป็นพื้นที่ปฏิบัติการนำร่องรับนักท่องเที่ยว Phuket Sandbox ทางจังหวัดได้แปลงนโยบายรัฐบาลสู่การปฏิบัติและมีความหวังว่า เมื่อเปิดเมือง 1 ก.ค.นี้จะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคมไปพร้อมกับการควบคุมโรคโควิดให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ   สำหรับสถานการณ์โรคจากภายนอกยังมีปัญหาพอสมควร  มาตรการที่ต้องเสนอคือ ยกระดับการตรวจคัดกรองโรคที่ด่านตรวจทางบก ที่ด่านท่าฉัตรไชย ต้องควบคุมเชื้อที่จะเข้ามาให้ได้ โดยต้องเพิ่มกำลังคนและระบบเทคโนโลยีในการตรวจโรค ตรวจบุคคลเข้าออก ตรวจสิ่งของ จะเริ่มในวันที่ 1 ก.ค.นี้ หน้าตาของด่านตรวจที่ท่าฉัตรไชยจะเปลี่ยนไปมาก จะมีความเข้มข้นมากขึ้น  
    "จากข้อมูลรายงานการเข้ามาของนักท่องเที่ยว Phuket Sandbox พบว่ามีการจองห้องพักสูงสุด ในพื้นที่ป่าตอง 383 ห้อง จำนวน 1,671 คน คิดเป็น 4.36 รายต่อ 1 บุกกิง และแยกพักเดี่ยวจำนวน 149  คน ส่วนพื้นที่เชิงทะเลและกะรน นักท่องเที่ยวเลือกเข้าพักรองลงมาจากพื้นที่ป่าตอง นอกจากนี้คนไทยที่จะเข้ามาภูเก็ตในช่วงเปิด Phuket Sandbox ตามเป้าหมายของ ททท.ตั้งไว้ 500,000 คน รายได้ 3,000 ล้านบาท" นายณรงค์กล่าว  
    นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตามที่ได้มีการเสนอข่าวผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย โดยมีข้อความระบุว่า "ด่วน ภูเก็ตเจอโควิดสายพันธุ์อินเดียเมื่อวาน 5 ราย เช้าวันนี้อีก 5 ราย ก่อนเปิดเกาะภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นั้น" ขอชี้แจงว่าขณะนี้จังหวัดภูเก็ตยังไม่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อินเดีย ขอวิงวอนการนำเสนอข้อมูลข่าวต่างๆ ผ่านสื่อออนไลน์ขอให้มีการตรวจสอบ และควรได้รับการยืนยันจากหน่วยงานผู้รับผิดชอบที่เกี่ยวข้องก่อน เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความสับสนและสร้างความเสียหายแก่จังหวัดภูเก็ต ในส่วนของผู้ติดเชื้อวันนี้ 5  รายซึ่งเดินทางมาจากกรุงเทพฯ ขณะนี้ 3 รายได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนอีก 2  รายอยู่ระหว่างกระบวนการสอบสวนโรค ในส่วนของกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงที่มีประมาณ 20 คน สำนักงานสาธารณสุขได้นำตัวเข้าสู่กระบวนการกักตัวในสถานที่ที่จังหวัดกำหนด  หรือที่เรียกว่า LQ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    ในช่วงเช้าวันเดียวกัน ประชาชนชาวภูเก็ตตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรภาคเอกชน เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และบวงสรวงท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร ที่วัดม่วงโกมารภัจจ์ ประกอบพิธีทางศาสนาพุทธและพราหมณ์เพื่อความเป็นสิริมงคลและเสริมสร้างขวัญและกำลังใจ ให้การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อให้สามารถฟื้นเศรษฐกิจและสามารถควบคุมโรคได้จนประสบความสำเร็จตามที่วางไว้.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"