ฟุตบอลโลกกับภาวะไก่หงอย


เพิ่มเพื่อน    

      เห็นว่า...บอลโลกเที่ยวนี้ ออกอาการไก่หงอย มอญเหงา อยู่ตามสมควร ซึ่งผู้ที่เห็นไปในแนวนี้ ก็ล้วนเป็นผู้ที่เชื่อได้ ไว้ใจได้ ไม่ใช่ประเภทเดาสุ่ม เดาดุ่มๆ ไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ ธนวรรธน์ พลวิชัย แห่งมหาวิทยาลัยหอการค้า หรือกระทั่งคุณ ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง ที่เขียนคอลัมน์เศรษฐกิจ กระจกไร้เงา ในไทยโพสต์ หน้า 6 ก็ดูจะเห็นไปในแนวทางเดียวกัน...

                                                             ------------------------------------------------

      ซึ่งอาการมอญเหงาและไก่หงอย หรือไก่เหงาและมอญไม่ตรงก็แล้วแต่ ของบอลโลก 2018 ที่มีประเทศ คุณน้ารัสเซีย เป็นเจ้าภาพนั้น มันอาจมีทั้งปัจจัยภายนอก และปัจจัยภายในประเทศ เสริมส่งผสมผสาน จนทำให้ ผีบ้าบอล ในบ้านเรา ไม่ถึงกับกรี๊ดๆ กร๊าดๆ เหมือนอย่างเคย คือด้วยเหตุที่คุณน้ารัสเซียท่านโดนคุณพ่ออเมริกาต่อต้าน แซงก์ชั่น มาโดยตลอด แม้แต่ตราบเท่าทุกวันนี้ ไม่ว่าในทางการเมือง เศรษฐกิจ จนลุกลามมาถึงการกีฬาเข้าจนได้ แม้แต่โอลิมปิคคราวที่แล้ว นักกีฬา นักกรีฑา รัสเซียยังแทบเอาตัวไม่รอด ถูกทุบ ถูกแบน กระทั่ง นางฟ้าลูกสักหลาด ของรัสเซีย คือคุณน้อง มาเรีย ชาราโปวา ก็ยังจัดอยู่ในข่ายถูกลูกหลง ห้ามลงแข่ง ลงสนาม มาเป็นปีๆ การรับอาสาเป็นเจ้าภาพบอลโลกของรัสเซียเที่ยวนี้ มันจึงต้องออกอาการกร่อยอยู่บ้างเป็นธรรมดา โดยเฉพาะเมื่อโลกทั้งโลก มันตกอยู่ภายใต้กระแส สื่อตะวันตก มานานแล้ว...

                                                             -------------------------------------------------

      ส่วนปัจจัยภายในนั้น...ขณะที่ราคาน้ำมันขึ้นไป 30 กว่าบาทต่อลิตร แต่ราคายางพารายังคง 3 โลร้อย อยู่เช่นเดิม เพียงเท่านี้มอญทั้งหลายไม่ว่าตรง-ไม่ตรง ย่อมต้องกลายสภาพเป็น มอญร้องไห้ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ กว่าจะรอให้ EEC ของ ป๋าเปลว สีเงิน ระเบิดเถิดเทิงแบบจำปีหัวระเบิด ก็อาจต้องรอบอลโลกรอบประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ อะไรต่อมิอะไรไปโน่นเลย ถึงพอได้ถั่งเช่า ได้โด่มิรู้ล้ม ขึ้นมามั่ง ด้วยเหตุนี้...ถ้าหากจะมียอดเงินสะพัดแค่ประมาณ 7 หมื่น 8 หมื่นล้าน ไม่ปาเข้าไปเป็นแสนๆ ล้าน เหมือนช่วงบอลโลกปี ค.ศ.2014 อันที่จริง...ต้องถือว่าเยอะแล้ว จะเอาอะไรกันมากมาย ในเมื่อ 4 ปีของรัฐบาลยังได้เท่านี้ 4 ปีของบอลโลกมันคงต้องลดๆลงไปบ้าง ได้บ้าง-เสียบ้าง จะให้อุจจาระแตก อุจจาระแตน กันไปในทุกๆ เรื่องก็ออกจะศุกร์ 13 ฝันหวานจนเกินไป...

                                                                 --------------------------------------------------

      แต่นอกจากปัจจัยภายนอก ปัจจัยภายใน ดังที่ว่าแล้ว...เห็นว่ายังมีปัจจัยระดับลึกลงไปถึงลำไส้ ที่ถูกเอามาซุบซิบ นินทา อยู่ตามวงนอก วงใน ของบรรดากลุ่มบริษัท ห้างร้านธุรกิจ ที่ถูกดึงให้เข้ามาร่วม คืนความสุขให้ประเทศไทย ในช่วงเทศกาลบอลโลกคราวนี้อยู่เหมือนกัน ที่ทำให้ไก่ที่หงอยๆ อยู่แล้ว ยิ่งหงอย ยิ่งงอน ยิ่งหงุดหงิด งุ่นง่าน ขึ้นไปใหญ่ ด้วยเหตุเพราะจำนวน 9 บริษัทร้านค้า ที่ถูกดึงให้เข้ามาร่วมคืนความสุขให้ประเทศไทย ดันมีบริษัทของ เจ้าสัว หรือบริษัท เจริญกับแกล้ม รวมอยู่ด้วย ที่นอกจากจะเจริญเติบโตมาจากการซื้อไก่-ขายไก่ ตลอดไปจน สารเคมี ที่ทำให้ใครต่อใครต้องออกมาเดินขบวนกันอยู่ในขณะนี้ ยังหันไปเอาดีกับการเจริญเติบโตทางสื่อโทรทัศน์ ทีวี ดาวทง ดาวเทียม ฯลฯ อีกต่างหาก...

                                                                 --------------------------------------------------

      ด้วยเครือข่าย อิทธิพล บารมี ที่ครอบคลุมตั้งแต่ไม้จิ้มฟันไปยันเรือรบเช่นนี้ จึงทำให้การแบ่งเค้ก จัดสรรปันส่วนผสมเค้ก ในเรื่องการถ่ายทดสดบอลโลกออกทางทีวี มันจึงขลุกๆ ขลักๆ กระตึกกระตัก กั๊กไป-กั๊กมา จน หงอยไปทั้งระบบ ด้วยประการละฉะนี้ จริง-ไม่จริง...ก็ไม่รู้ แต่ก็พูดกันให้แซ่ด ซุบซิบ นินทา กันให้แซ่ด ในหมู่บริษัทที่ร่วมอาสาคืนความสุขให้กับประเทศไทยในช่วงบอลโลกคราวนี้ แต่ก็นั่นแหละ...จะวานให้ผู้คนในรัฐบาลที่สนิทสนมกับ เจ้าสัว อย่าง ป๋าดัน-สมคิด ไปช่วยดันให้มันพอหายเหงา หายหงอย ได้บ้าง...ก็น่าจะลำบากอีก เพราะระหว่างนี้ ป๋าดัน ท่านคงหันไปมุ่งมั่นที่จะดันพรรคพลังประชาร้ง ประชารัฐ อะไรไปโน่น ไม่น่าจะเหลือเวลามาดันเรื่องบอลล่ง บอลโลก ซักเท่าไหร่...

                                                                     -------------------------------------------------

      ดังนั้น...ความหงอยเหงาของฟุตบอลโลกคราวนี้ นอกเหนือไปจากปัจจัยภายนอกแล้ว มันจึงอาจเกี่ยวพันไปถึงปัจจัยที่อาจารย์ ธนวรรธน์ พลวิชัย ท่านใช้คำว่า เศรษฐกิจยังฟื้นตัวแบบกระจุกตัว อะไรประมาณนั้น ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อมันดันไป กระจุก ที่ เจ้าสัว ท่านซะเป็นหลักใหญ่ มันเลยอาจต้องดูบอลไป จุกอกไป อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ แต่ก็อย่าถึงกับต้องไปหงุดหงิด งุ่นง่าน อะไรกันมากมายนักเลย ถือซะว่า...การได้มีโอกาสดูมหกรรมกีฬาระดับโลก โดยเฉพาะกีฬายอดนิยม อย่างฟุตบอลโลกในแต่ละที ย่อมเป็นอะไรที่คุ้มค่า คุ้มราคา ต่อการเกิดมาในชาตินี้อยู่แล้วแน่ๆ ขนาดอภิมหาบุรุษระดับโลก อย่างท่าน เติ้งเสี่ยวผิง ท่านถึงขั้นภาวนาไว้ก่อนตาย ว่าขอมีชีวิตอยู่เพื่อให้ได้ดูบอลโลกครั้งสุดท้าย ก็ถือว่าตายตาหลับแล้ว...

                                                                      ----------------------------------------------------

      ส่วนไอ้เรื่องเงินๆ-ทองๆ...มันจะสะพัดซักกี่หมื่น กี่แสนล้าน จะกระจุก หรือกระจาย ไปไหนต่อไหนก็แล้วแต่ คงไม่ได้เกี่ยวกับ สปิริต จิตวิญญาณแห่งการกีฬาซักเท่าไหร่ และอย่าไปเผลอถามหาสิ่งเหล่านี้กับนักการเมือง นักเศรษฐกิจ โดยเฉพาะนักอะไรก็ไม่รู้ ที่เรียกขานกันในนามท่าน ดอน ปรมัตถ์วินัย เพราะยิ่งถาม...ยิ่งมีแต่จะหงุดหงิด งุ่นง่าน ยิ่งขึ้นไปใหญ่ เสียบรรยากาศ เสียเวลาลุ้นบอลโลก เรียกว่า...นอกจากต้องหงอยๆ เหงาๆ แล้ว ยังหมดรส หมดชาติ โดยใช่เหตุ...

                                                                        ---------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Bob Costas... In any sport, the anticipation of what might happen is almost as important as what actually happens.- ไม่ว่าในการกีฬาใดๆ สิ่งที่คาดหมายว่าจะเกิดขึ้น มีความสำคัญเกือบเท่าๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง...

                                                                           ---------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"