เทใจให้ทีมฟ้า-ขาวอาร์เจนตินา


เพิ่มเพื่อน    

      ถึงจะยืนหยัดเป็น แฟนพันธุ์แท้ ของทีม อินทรีเหล็กเยอรมนี มาโดยตลอด แม้ไม่ถึงกับชอบรับประทานไส้กรอกกันซักเท่าไหร่นัก แต่งานนี้...บอลโลกคราวนี้ คงหนีไม่พ้นต้องหันไปปันใจให้กับทีม ฟ้า-ขาวอาร์เจนตินา อย่างมิอาจปฏิเสธได้ ไม่ใช่ด้วยเหตุเพราะหลงใหล คลั่งไคล้ ในฝีตีนของมนุษย์ต่างดาว อย่าง ลีโอเนล เมสซี แต่จะด้วยเหตุอะไรนั้น ลองไปไล่เรียงกันดู...

                                                                    ----------------------------------------------------

      คือตามกำหนดการเดิมๆ...ช่วงวันที่ 12 มิถุนายนที่จะถึงนี้ หรือก่อนจะเปิดฉากมหกรรมบอลโลกที่รัสเซียแค่ไม่กี่วัน ทีมชาติอาร์เจนตินานั้น เขามีคิวต้องลงอุ่นเครื่องกับทีมชาติอิสราเอล ที่สนาม Kollek Stadium ในกรุงเยรูซาเลม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ หรือช่วงที่เริ่มจัดคิวล่วงหน้ากันเป็นปีๆ ว่ากันว่าจะเตะกันที่กรุงไฮฟา แต่อาจด้วยเหตุที่อิสราเอลเขากำลังอยากจะโปรโมตกรุงเยรูซาเลม ในฐานะ เมืองหลวง ของประเทศ หลังจากที่ผู้นำอเมริกาอย่าง ทรัมป์บ้า พร้อมใจที่จะย้ายสถานทูตอเมริกาไปไว้ที่เมืองแห่งนี้ โปรแกรมการเตะเพื่อ กระชับมิตร คราวนี้ เลยต้องเปลี่ยนไปที่กรุงเยรูซาเลมกันจนได้...

                                                                    -----------------------------------------------------

      แต่ด้วยเหตุที่เมื่อช่วงกลางเดือน ปลายเดือน ที่ผ่านมานี่เอง...กรุงเยรูซาเลมแห่งนี้ ได้ถูกทางการอิสราเอล แปรสภาพให้เป็น ลานประหาร สำหรับบรรดาชาวปาเลสไตน์ทั้งหลาย ที่ลุกขึ้นมาประท้วงงานพิธีย้ายสถานทูตอเมริกาไปยังกรุงเยรูซาเลม รวมทั้งเพื่อรำลึกเหตุการณ์อันเจ็บปวดรวดร้าวของปู่-ย่า-ตา-ยาย ชาวปาเลสไตน์ เมื่อครั้งที่ชาวปาเลสไตน์กว่า 700,000 คน ถูกรัฐบาลอิสราเอลขับไล่ให้ต้องพลัดที่นา คาที่อยู่ เมื่อปี ค.ศ.1948 อันถูกจดจำกันในนาม วันแห่งหายนะ หรือ Nakba Day (Day of Catastrophe) นั่นเอง บรรดาผู้ประท้วงที่มายืนออกันอยู่แถวๆ เส้นแบ่งกั้นเขตแดนระหว่างชาวปาเลสไตน์กับชาวอิสราเอลในกรุงเยรูซาเลม ถูกตำรวจ-ทหารอิสราเอลยิงกระสุนจริง กระสุนปลอม แก๊สน้ำตาเข้าใส่ จนตายไปรวดเดียวกว่า 60 ศพ บาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 2,700 คน...

                                                                    -------------------------------------------------

      เหตุการณ์ดังกล่าวจึงกลายเป็นข่าวคราวโด่งดังไปทั่วทั้งโลก ถึงความโหดเหี้ยม อำมหิต ผิดมนุษย์มนาของรัฐบาลอิสราเอล ถึงขั้นบรรดาชาติต่างๆ ในสหประชาชาติ เตรียมร่วมมือลงมติให้ประณาม ตำหนิ การกระทำของอิสราเอล รวมทั้งให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนที่เป็นอิสระ เข้าไปสืบสวน สอบสวน ว่าการกระทำครั้งนี้ ถือเป็น อาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ อีกด้วยหรือไม่ อย่างไร แต่ก็ด้วยเหตุเพราะรัฐบาลอเมริกัน ที่เหี้ยมโหด อำมหิต ไม่น้อยไปกว่ารัฐบาลอิสราเอล อาศัย สิทธิวีโต ยับยั้งเอาไว้ เรื่องราวของโศกนาฏกรรมดังกล่าว จึงยังคงคาราคาซังอยู่จนทุกวันนี้...

                                                                     ----------------------------------------------------

      แต่ก็นั่นแหละ...สำหรับผู้ที่ยังคงหลงเหลือความเป็นมนุษย์อยู่บ้างไม่ว่ามากหรือน้อย ไม่ว่าจะเป็นนักเตะ หรือนักอะไรก็ตาม การลงไปดวลแข้งกับทีมชาติอิสราเอล ในกรุงเยรูซาเลมนั้น มันออกจะเป็นอะไรที่ ทำใจลำบาก มิใช่น้อย อย่างที่รัฐมนตรีต่างประเทศอาร์เจนตินา นาย Jorge Faurie ท่านได้บอกกับบรรดาผู้สื่อข่าวสายกีฬา หรือสายไหนๆ ก็แล้วแต่ ด้วยคำพูดประโยคที่ว่า... เท่าที่ผมทราบ บรรดาผู้เล่นของเรา...ไม่มีใจที่จะเล่น เพราะการไปเตะในพื้นที่ที่เพิ่งมีคนจำนวนมากมาย ถูกฆ่าตายกันต่อหน้าต่อตา สำหรับผู้ที่ยังคงหลงเหลือความเป็นมนุษย์อยู่บ้าง สิ่งเหล่านี้...มันเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ด้วยกันทั้งสิ้น...

                                                                    ------------------------------------------------------

      ด้วยเหตุนี้...ทีมฟ้า-ขาวทั้งยวง รวมทั้งสมาคมฟุตบอลอาร์เจนตินาอีกด้วย จึงตัดสินถอนตัวออกจากการลงเตะนัดกระชับมิตรกับทีมชาติอิสราเอลเอาดื้อๆ โดยเฉพาะตัวของดาวยิง อย่าง ลีโอเนล เมสซี นั้น ออกจะมีบทบาทอยู่ไม่น้อยต่อการตัดสินใจครั้งนี้ เพราะนอกจากตัวเองจะเป็นนักเตะ นักกีฬาทีมชาติอาร์เจนตินาแล้ว ด้วยความใจบุญ สุนทาน ของ เมสซี ยังทำให้นักเตะระดับมนุษย์ต่างดาวผู้นี้ มีฐานะเป็น ทูตขององค์การยูนิเซฟ อีกด้วยต่างหาก ได้รับเชิญไปร่วมในงานบริจาค งานช่วยเหลือการกุศลต่อเพื่อนมนุษย์ทั้งหลายมาโดยตลอด แม้แต่ส่วนตัวเอง...ด้วยความเมตตา สงสาร ต่อเด็กๆ ในซีเรีย ที่ถูกพิษภัยสงครามเล่นงานจนไม่มีที่เรียน ที่อ่าน ที่เขียน จนอดไม่ได้ที่จะควักเงินส่วนตัวก้อนเบ้อเร่อ สร้างโรงเรียนให้เด็กๆ ชาวซีเรียจำนวน 1,600 ราย เมื่อไม่กี่ปีมานี้...

                                                                        -------------------------------------------------

      อันนี้...ต้องเรียกว่า ไม่ใช่เป็นแค่ สปิริตนักกีฬา แต่เพียงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง สปิริตแห่งความเป็นมนุษย์ ควบคู่ไปด้วย ที่ทำให้บรรดานักเตะทีมชาติฟ้า-ขาว ไม่ว่าไล่มาตั้งแต่ ลีโอเนล เมสซี ศูนย์หน้าตัวเป้าอย่าง กอนซาโล อิกวาอิน ปีกจรวดทางเรียบ อย่าง อังเคล ดิมาเรีย ฯลฯ ตัดสินใจ เบี้ยวคิว การลงสนามฟาดแข้งกับทีมชาติอิสราเอลกันเห็นๆ ส่งผลให้ความพยายามที่จะโปรโมตกรุงเยรูซาเลมในฐานะ เมืองหลวง ของอิสราเอล ที่ผู้นำอิสราเอลอย่างนาย เบนจามิน เนทันยาฮู และผู้นำอเมริกาอย่าง ทรัมป์บ้า ร่วมกันปล้ำผีลุกปลุกผีนั่งมาโดยตลอด ต้อง แห้วกระป๋อง ไปโดยทันที...

                                                                       ---------------------------------------------------

      ด้วยเหตุนี้...ถึงจะรัก อินทรีเหล็กเยอรมนี เพียงใดก็ตามที แต่งานนี้...คงต้องหันไปเทใจให้ เมสซี และทีมชาติ ฟ้า-ขาวอาร์เจนตินา อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ ส่วนทีมชาติไทยแลนด์ แดนสยาม ของเรานั้น...ยังไงๆ ก็ย่อมต้องรักโดยไม่คิดจะเปลี่ยนใจอยู่แล้วแน่ๆ แม้ว่าเวลาจะถามหา สปิริต มีแต่ต้องหันไปถามกับนักกีฬาลูกเดียวเท่านั้น ถามกับนักการเมือง หรือรัฐมนตรีไม่ได้เอาซะเลย แต่ทำไงได้...ในเมื่อดันเกิดมาเป็นคนไทย ก็คงต้องอยู่ๆ กันไป รักๆ กันไป เช่นนี้...แล...

                                                                        ----------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก G. Herbert ... Great and good are seldom the same.-ความเป็นคนใหญ่คนโต กับความเป็นคนดี มักไม่เหมือนกัน...

                                                                          ------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"