11 ก.ค.64 -   นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา2535 และแกนนำ กลุ่มไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย กล่าวว่า  ขอบคุณประชาชนทุกกลุ่มที่ออกมารวมพลังขับไล่พล.อ.ประยุทธ์  แม้สถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไป แต่ไม่สามารถหยุดยั้งประชาชนที่ไม่สามารถทนทุกข์กับความล้มเหลวของรัฐบาลนี้ได้ จึงขอเรียนประขาชนที่เคารพทุกท่านว่า ไทยไม่ทน กำลังปรับยุทธศาสตร์ยุทธวิธีในการเคลื่อนไหวเพื่อรุกคืบขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ ให้ลาออกไปให้ได้ภายใต้สถานการณ์โควิดระบาดหนัก กิจกรรมต่างๆ จึงกำลังพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อความปลอดภัยจากโควิดในช่วงล็อกดาวน์ โดยมีมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด เพราะประชาชนต้องดูแลตัวเองและพึ่งรัฐบาลไม่ได้แล้ว

นายอดุลย์ กล่าวว่า  เราพยายามจะไม่รวมกลุ่มจำนวนมากแต่ใช้คนจำนวนน้อยเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลตามสถานการณ์ ซึ่งการเคลื่อนไหวที่ผ่านมาทำให้ประชาชนตื่นตัวเห็นถึงความล้มเหลวของพล.อ.ประยุทธ์ มากขึ้นเป็นลำดับ ร่วมแสดงพลังประชามติผ่านช่องทางต่างๆ อย่างมากมาย รวมทั้งคนที่เคยสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ก็ยอมรับถึงความผิดพลาดและเสียโอกาสในช่วง 7 ปีที่พล.อ.ประยุทธ์ มีอำนาจแต่ไม่สามารถแก้ปัญหาของประเทศชาติได้ จึงขอให้ทุกฝ่ายที่อยู่ด้านหน้าและที่ช่วยเหลืออยู่ด้านหลังร่วมกันขับไล่พล.อ.ประยุทธ์กันต่อไปจนกว่าจะสำเร็จ

นายอดุลย์ กล่าวถึงมาตรการล็อกดาวน์ 10 จังหวัดเพื่อควบคุมการระบาดโควิดว่า ศบค.เลี่ยงไม่ใช้คำว่าล็อกดาวน์ เพื่อเลี่ยงการถูกฟ้องร้องจากผู้ที่ได้รับผลกระทบแสดงถึงความไม่จริงใจในการแก้ปัญหา และเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ประจานความผิดพลาดของพล.อ.ประยุทธ์ในฐานะผอ.ศบค. หากที่ผ่านมาแนวทางการแก้ปัญหาถูกต้องก็จะไม่เกิดการระบาดรุนแรงถึงขนาดนี้ ทั้งที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ในมือและยังยึดอำนาจจากรัฐมนตรีตาม พรบ. 31 ฉบับ  แต่ก็ยังทำให้มีผู้ติดเชื้อใหม่แตะหลักหมื่น มีผู้เสียชีวิตเกือบร้อยคนต่อวัน ผู้ป่วยมีอาการหนักมากขึ้นเรื่อยๆ และยังมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ยังหาเตียงรักษามาไม่ได้ บางคนนอนตายที่บ้าน บางคนเครียดจากภาวะเศรษฐกิจ ต้องฆ่าตัวตาย จะให้ประชาชนเสียชีวิตอีกเท่าไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงจะสำนึกถึงความผิดพลาดของตัวเองที่ทำให้ประชาชนเสียชีวิตทุกวันเปรียบเสมือนฆาตกรต่อเนื่อง  ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ต้องรับผิดชอบแต่ผู้เดียวด้วยการลาออก ให้บุคคลที่มีความสามารถเข้ามาแก้วิกฤติครั้งนี้โดยเร็วก่อนที่ประชาชนจะล้มตายมากกว่านี้.