
11 ก.ค.64-ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Kittitouch Chaiprasith ระบุว่า ผมอยากบอกหลายท่านที่ยังติดคำว่า "เจ็บแต่จบ" อยู่นะครับ มาตรการที่ว่านั้น มันใช้ได้ตอนการระบาดรอบแรกในจีน ซึ่งหลังปิดเมือง พัฒนาวัคซีน และจับคนมาฉีดวัคซีนของจีน ทำให้มัน "จบ" แต่มันจบแค่ในระลอกนั้น พอมีระลอกใหม่เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ จนปัจจุบัน มันไม่จบแล้วไงครับ ต่อให้ปิดประเทศ ปิดทุกอย่าง ไม่ให้เศรษฐกิจเดิน ห้ามทำงานทุกอย่าง ห้ามเดินทางตลอด 1 เดือน มันก็ไม่จบ! เพราะวันนี้ไวรัสมันกลายพันธุ์ ติดง่าย ไปมาถึงกันทั่วทั้งโลก แปบๆ ก็เดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ดังนั้นมันไม่มีแล้วครับ "เจ็บแต่จบ"
ทางรอดเดียวคือ "ภูมิคุ้มกันหมู่" ซึ่งต้องฉีดวัคซีนให้ได้ถึง 70%+ ของประชากรเท่านั้น เพราะเราต้องอยู่กับเชื้อโรคไปตลอดเท่าที่เผ่าพันธุ์ของมนุษยชาติยังอยู่บนโลกใบนี้ วันหนึ่งโควิดก็ต้องเป็นเหมือนไข้หวัดใหญ่ทั่วไป ที่ปีๆ หนึ่งก็มีคนเสียชีวิตได้หลักพันหลักหมื่น (ของอเมริกาปีละ 3-6 หมื่นราย) https://www.cdc.gov/flu/about/burden/past-seasons.html
ติดก็ติดไป เหมือนคนติดไข้หวัดที่ปีๆ หนึ่งในอเมริกามีคนติดกันหลายสิบๆ ล้าน แต่สุดท้ายก็หายได้ เพราะร่างกายของคนเรามีภูมิคุ้มกันพอสมควรแล้ว
สถานการณ์ "เจ็บแต่จบ" มันหมดไปแล้วครับ วันนี้อังกฤษเปิดเมืองแล้ว ถือว่าใครฉีดวัคซีนแล้ว มีภูมิคุ้มกันแล้ว จะติดก็ติดไป ก็รักษาไปตามอาการ สิงคโปร์ก็เลิกรายงานคนติดเชื้อแล้ว เพราะไม่มีประโยชน์ เขายอมรับความจริงว่าเขาต้องอยู่กับไวรัสให้ได้ ส่วนหลายประเทศ ก็ต้องล็อคดาวน์ชั่วคราวไปก่อน เพื่อให้ระบบสาธารณสุขรองรับผู้ป่วยไหว แล้วระหว่างนี้ก็ระดมฉีดวัคซีนไปเรื่อยๆ ครับ
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |