​​​​​​​ปัญหาที่ต้องแก้อย่างเป็นระบบ


เพิ่มเพื่อน    

ฮื่มม์ม์ม์...หวิดๆ เกือบจะถึงหมื่น ขาดอีกแค่ไม่ถึงครึ่งพัน ก็ต้องเรียกว่า...น่าเหนื่อย น่าวิตก กังวล มิใช่น้อย สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของท่านเชื้อไวรัสโควิด-19 ของบ้านเราในช่วงนี้ แต่ก็นั่นแหละ...ไม่ว่าอะไรจะเกิด ในแบบไหน อย่างไร คงต้องไทยแลนด์สู้ๆ...ไทยแลนด์สู้ตาย กันต่อไป ต้องร่วมมือ-ร่วมใจ หาผ่าน วิกฤติ เหล่านี้ต่อไปให้จงได้!!!

                                                             ----------------------------------------------

            คืออันดับแรก...ต้อง อัตตา หิ อัตตโน นาโถ ให้มากๆ เข้าไว้ อย่ามัวเสียเวลาไปด่าโน่น ด่านี่ ให้ต้องเสียอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองจนเกินเหตุ หันมาเข้มงวดกับตัวเอง หรือหันมามี วินัย ให้มากๆ เข้าไว้นั่นแหละดี ไม่ถึงกับจำเป็นก็อย่าทะรอดทะแรด ไปไหนต่อไปไหน นั่งปอกกล้วยเปลี่ยวในบ้านร้างไปอีกซักพักใหญ่ๆ ดูหนัง ฟังเพลง ดูกีฬา ที่ช่วงนับจากนี้ก็มีให้เลือกอยู่เยอะแยะมากมาย โดยถ้าหากจำเป็นที่จะต้องออกกันไปจริงๆ ก็หมั่น สวมหน้ากาก ทับเอาไว้ซักชั้น-สองชั้น หมั่นล้างมือ ล้างไม้ ประพฤติ ปฏิบัติ ตามที่พวกหมอๆ ท่านให้คำแนะนำ ก็น่าจะพอสบายใจได้มั่งไม่มากก็น้อย...

                                                              ---------------------------------------------

            หรืออย่างน้อย...ก็อาจพอช่วยให้สิ่งที่เรียกว่า สติ กลับคืนมาสู่ร่างกาย สู่อารมณ์-ความรู้สึกได้บ้าง ส่วน สตางค์ นั้น ค่อยไปว่ากันอีกที คือถ้าลองมี สติ ขึ้นมามั่งแล้ว บรรดา อารมณ์ ต่างๆ ที่มักก่อให้เกิดอาการ สวิงไป-สวิงมา ไม่ว่าโกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาต พยาบาทริษยาและชิงชัง ไปจนถึงหลงใหล ได้ปลื้ม คลั่งไคล้ แหกทวารดมกันโดยไม่คิดสนใจเหตุ สนใจผลใดๆ เลยนั้น มันน่าจะลดๆ ลงไปได้บ้าง เกิดการหวนกลับมาอยู่ในแนวกลางๆ อยู่ในทางสายกลาง จากนั้นจึงค่อยๆ นำเอาความคิด ความรู้สึก ในลักษณะที่ว่านี้ ไปใคร่ครวญ พิจารณาสิ่งต่างๆ ที่วูบไหวไป-มา กันทีละขั้น ทีละตอน และด้วย ปัญญา ที่มันมักอุบัติขึ้นมาพร้อมๆ กับ สติ นั่นแหละ น่าจะช่วยให้เห็นทางออก ทางไป หรือทางรอดได้มั่ง...

                                                                  ------------------------------------------------

            คือคงต้องยอมรับว่า...สถานการณ์ช่วงนี้มันออกจะ หนักเอาเรื่อง อยู่พอสมควรเหมือนกัน ไม่ใช่แต่เฉพาะเรื่องการป่วย การตาย จำนวนตัวเลขของผู้ติดเชื้อ-ไม่ติดเชื้อ ที่ยังไม่ได้ส่อให้เห็นแนวโน้มว่าจะลดๆ ลงไปบ้างเลย แต่มันยังมี ผลกระทบ ที่ตามมาอีกเป็นจำนวนไม่น้อย ไม่ว่าในแง่สุขภาพ เศรษฐกิจ การเมืองและสังคม ที่จะต้องหาทางแก้ หาทางสะสางกันอีกตราบนานเท่านาน และคงหนีไม่พ้นต้องอาศัยแรงขับเคลื่อน แรงกระตุ้น อาศัย ขวัญ-กำลังใจ ในรูปแบบต่างๆ กันอีกเยอะ โดยจะผ่านการออกแบบ การประดิษฐ์ คิดค้น กันด้วยวิธีไหนต่อวิธีไหน อันนี้...ต้องถือเป็นเรื่องที่ผู้ซึ่งมีอำนาจ หน้าที่ รวมทั้งความรับผิดชอบ คงต้องไปว่าเป็นเรื่องๆ เอาเองก็แล้วกัน...

                                                                --------------------------------------------------

            แต่อย่างน้อย...ก็คงต้อง มองหาอะไรใหม่ๆ กันเอาไว้มั่ง เพราะสิ่งที่มีอยู่เดิม หรือสิ่งเก่าๆ เดิมๆ คงพอได้เป็นที่พิสูจน์ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า โดยศักยภาพ โดยประสิทธิภาพ มันอาจไม่เพียงพอที่จะรับมือ กับสิ่งใหม่ๆ ปัญหาใหม่ๆ ที่ออกจะสลับซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ ยิ่งเข้าไปทุกที เนื่องจากโลกยุคนี้ สมัยนี้ มันออกจะเป็นอะไรที่เปลี่ยนแปร หมุนเวียน เปลี่ยนผัน ค่อนข้างจะรวดเร็วเสียเหลือเกิน ยิ่งนับวัน...ระดับ อัตราเร่ง ยิ่งเป็นไปในแบบ ทวีคูณ เอาเลยถึงขั้นนั้น คือยิ่งเพิ่มความเร็ว ความแรง หนีห่างไปจากจุดศูนย์กลาง หรือจุดแห่งการควบคุม จนยากที่จะอาศัยระบบ ระเบียบแบบเดิมๆ เอาอยู่ ได้อีกต่อไปแล้ว ความโกลาหล ความสับสน ระส่ำระสาย จึงแทบกลายเป็น ธรรมชาติ ของฉากสถานการณ์ในทุกวันนี้ หรือในอนาคต ไปแล้วก็ว่าได้...

                                                                     -------------------------------------------------

            พูดง่ายๆ ว่า....จะไปคิดแบบเดิมๆ จินตนาการแบบเดิมๆ มันคงไม่สอดคล้องกับความเป็นไปของสถานการณ์ในอนาคตข้างหน้ามากมายซักเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะในทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม หรือแม้แต่สุขภาพเอาเลยก็เถอะ เนื่องจากความหนักหนา สาหัส ที่มันกำลังปรากฏให้เห็นในทุกวันนี้ มันคือ ข้อพิสูจน์ ให้เห็นค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า ระบบและระเบียบเดิมๆ น่าจะกลายเป็นสิ่งที่ เอาไม่อยู่ ยิ่งเข้าไปทุกที ไม่ว่าจะอาศัยความจริงจัง จริงใจ ความรัก-ความปรารถนาดีเป็นพื้นฐาน กันในลักษณะไหน แต่ถ้าหากมันไม่สอดคล้องกับความเป็นไปของฉากสถานการณ์ในอนาคตเบื้องหน้าซะอย่าง!!! มันก็คงไม่ต่างอะไรไปจาก วัตถุโบราณ หรือไม่ก็อาจต้องกลายเป็น สิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง...

                                                                        -------------------------------------------------

            ด้วยเหตุนี้...ระหว่างที่ต้อง เว้นระยะห่าง กันด้วยสาเหตุแบบไหน ประการใด ก็แล้วแต่ น่าจะได้เวลาที่จะต้องนั่งพินิจ พิจารณา ใคร่ครวญสิ่งต่างๆ โดยอาศัย สติ และ ปัญญา กันอย่างละเอียด รอบคอบ และอย่างเป็นระบบ เป็นกระบวนการว่า นับจากนี้...จะ เดินหน้าประเทศไทย กันในลักษณะแบบไหน อย่างไร มันถึงจะสอดคล้อง เหมาะสม กับความเป็นไปของฉากสถานการณ์ในอนาคตเบื้องหน้า ไม่ว่าในแง่สุขภาพ เศรษฐกิจ การเมือง สังคมวัฒนธรรม ประเพณี ฯลฯ ก็ตามที ถึงจะสามารถรื้อฟื้นสิ่งที่ถือเป็น กำลังขวัญ-กำลังใจ ให้หวนคืนกลับมา ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะทรุดโทรม เสื่อมโทรม ลงไปกว่านี้ หรือก่อนที่ความสับสน ระส่ำระสาย ความโกลาหล มันจะ เพิ่มอัตราเร่ง ในระดับควบคุมอะไรไม่ได้อีกเลย...

                                                                    -----------------------------------------------------

            ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้...จาก E.B. White ... There’s no limit to how complicated things can get, on account of one thing always to another.- เรื่องราวต่างๆสามารถทวีความซับซ้อนขึ้นโดยไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยเหตุอันเนื่องมาจากสิ่งหนึ่งๆ ย่อมนำไปสู่อีกสิ่งหนึ่งได้เสมอๆ...

                                                                       ----------------------------------------------------

                                                            

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"