กมธ.งบพิจารณาคืบหน้าแล้ว45.7%ซักหนักงบสธ.


เพิ่มเพื่อน    

14 ก.ค.2564 - นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 65 เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกมธ.พิจารณาแล้ว 12 กระทรวง 9 กองทุน คิดเป็น 45.7 % วงเงินทั้งสิ้น 7.2 แสนล้านบาทเศษ โดยเมื่อวันที่ 13 ก.ค.พิจารณางบประมาณของกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งพิจารณา 4 หน่วยงาน คือ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กรมสุขภาพจิต และกองทุนภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ภาพรวมการพิจารณาของ สธ. ส่วนมากสอบถามเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ในขณะนี้ โดย กมธ. บางท่านสอบถามว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีแนวทางควบคุมการระบาดของโควิด – 19 ซึ่งทำให้ประชาชนติดเชื้อจำนวนมากในขณะนี้อย่างไร มีการบริหารจัดการวัคซีน และชุดตรวจหาเชื้อโควิด – 19 ซึ่งเป็นที่ต้องการของประชาชนอย่างมากในขณะนี้อย่างไร โดยปลัด สธ.และอธิบดีเกี่ยวข้อง ชี้แจงว่า วิธีการในการควบคุมโรคช่วงที่ประเทศไทยยังมีผู้ติดเชื้อไม่มาก เมื่อหน่วยงานทราบว่ามีการติดเชื้อที่ใดจะไปสอบสวนโรค โดยแยกผู้ติดเชื้อออกมา ต่อมาเมื่อผู้ติดเชื้อมากขึ้น จึงคิดวิธีบับเบิ้ลแอนด์ซีลขึ้นมา ซึ่งเมื่อมีการระบาดก็จะปิดสถานที่นั้นเฉพาะจุด แต่ปัจจุบันเมื่อผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ทำให้การสอบสวนเป็นไปได้ยาก จึงใช้วิธีการฉีดวัคซีนในการควบคุมโรค

“ส่วนเรื่องชุดตรวจหาเชื้อหน่วยงานชี้แจงว่า ได้อนุญาตให้ประชาชนได้ใช้การตรวจแบบ Antigen Test Kit (ATK) ซึ่งเป็นชุดตรวจหาเชื้อเบื้องต้น ปัจจุบันมีบริษัทเอกชนนำเข้าชุดตรวจแบบ ATK แล้ว จำนวน 1.4 ล้านชิ้น พร้อมจำหน่ายในร้านขายยาที่มีเภสัชการควบคุม และในสัปดาห์นี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการจัดซื้อเพื่อแจกจ่ายให้ประชาชน สำหรับในสัปดาห์หน้าบริษัทเอกชนแจ้งว่าจะสามารถนำเข้าได้อีกประมาณ 10 ล้านชิ้น” นายเรืองไกร กล่าว

นายเรืองไกร กล่าวถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ในส่วนของคณะกมธ.ว่า กมธ.มีความระมัดระวัง ซึ่งการประชุมวันนี้มีมาตรการที่เข้มขึ้น โดยให้ผู้ชี้แจงนั่งห้องข้างๆแล้วชี้แจงด้วยการใช้ระบบซูมเข้ามา ไม่ให้เข้าห้อง กมธ. แต่ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (15 ก.ค.) จะให้ผู้ชี้แจงอยู่ที่หน่วยงานไม่ต้องเข้ามาที่รัฐสภาโดยให้ใช้ระบบซูม เพราะ กมธ.เกือบทั้งหมดห่วงว่าถ้างาน กมธ.งบมีปัญหามีผู้ติดเชื้อจะยิ่งเป็นปัญหามากยิ่งขึ้น

เมื่อถามถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะกมธ.งบเรียกร้องให้เปิดเผยสัญญาการสั่งจอง และจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า นายเรืองไกร กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีการอ้างสัญญาต่างประเทศมาเทียบกับไทย ซึ่งเราต้องดูกฎหมายของไทยด้วย ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลช่องทางปกติตนเห็นว่าไม่น่ามีปัญหา ในส่วนของกมธ.งบก็อยากเห็นสัญญา แต่ต้องดูว่าข้อมูลตรงกันหรือไม่ แต่ก็เห็นด้วย และสนับสนุน การตรวจสอบสัญญา เพราะเป็นเงินแผ่นดิน เป็นภาษีประชาชน ก็ต้องเปิดเผยให้ทราบ ซึ่งต้องรอผลการพิจารณาของคณะกมธ.ว่าเป็นอย่างไร 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"