ในช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาด เชื่อว่าคุณสาวๆ หลายคนมีมุมมองเกี่ยวกับการเลือกสวมชุดชั้นในที่แตกต่างกันไป บางครั้งอาจมองว่ายกทรงของคุณนั้นเป็นตัวปัญหา เพราะสร้างความอึดอัดให้กับคุณสาวๆ ในยามที่ล็อกดาวน์และกักตัวอยู่ที่บ้าน ถึงขั้นบางคนโนบราทำงานที่บ้านก็มี และจากการเปิดเผยของผู้หญิงที่มีอาชีพและไลฟ์สไตล์แตกต่างกันไป ยอมรับว่ามาตรการทั้งให้หยุดอยู่บ้าน ทำงานที่บ้าน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสนั้น ทำให้มุมมองการสวมชุดชั้นในเปลี่ยนไป

 

ยกทรงสปอร์ตบรารัดแน่น กระตุ้นก้อนเนื้อในเต้านม

                “กาเบียลรา โอแฮร์” เทรนเนอร์สอนออกกำลังกายส่วนตัวในเมืองแมนเชสเตอร์ บอกว่า “คุณสาวๆ หลายคนอาจรู้สึกว่าการใส่เสื้อในแบบไร้สาย อาจจะไม่เหมาะกับตัวเอง เพราะรู้สึกว่ามันไม่กระชับเวลาที่สวมใส่ เพราะอันที่จริงแล้วผู้หญิงหลายคนมักชอบที่จะใส่บราเซียแบบมีสายมากกว่า แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อฉันถูกล็อกดาวน์ และต้องตกงานนานประมาณ 2-3 สัปดาห์ กระทั่งออกไปหางานใหม่ และได้งานเป็นเทรนเนอร์สอนออกกำลังกายส่วนตัว นั่นจึงทำให้ปีที่ผ่านมาฉันต้องหันไปใส่เสื้อชั้นในแบบสปอร์ตบรา เพื่อสร้างความกระชับให้กับหน้าอก แต่ทว่าสายชุดชั้นในสปอร์ตบราจะค่อนข้างแข็งแน่น และส่งผลต่อร่างกายของคุณสาวๆ ที่ต้องใส่มันเป็นประจำเพื่อสอนออกกำลังกาย ซึ่งการใส่ชุดชั้นในมีสายที่แน่นรัดกระชับมากเกินไป ทำให้เกิดก้อนเนื้อที่เต้านม แต่ทว่าไม่ใช่โรคมะเร็งร้าย จึงไม่ควรใส่ชุดชั้นในมีสายรัดเต็มตัว และรัดแน่นเป็นเวลานานๆ”

ชุดชั้นในบราปีกนกไร้สายใส่แล้วโป๊

                ด้าน ศรี ลานก้า ศิลปิน บอกว่า “วัฒนธรรมการใส่ชุดชั้นในที่ไม่มีสาย หรือชุดชั้นในที่ปิดเพียงเต้านม(บราปีกนก)อาจส่งผลต่อทรวดทรงคุณสาวๆ ได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก และหลังเกิดโรคโควิด-19 นั้น ควรเลือกใส่เฉพาะตอนออกไปข้างนอกเท่านั้น และไม่จำเป็นก็ไม่ควรใส่ เพราะมันออกจะโป๊เกินไป จนถึงอาจจะเกิดอุบัติเหตุเต้าหลุดล้นออกมาไม่รู้ตัวได้

ไม่ใส่ยกทรงช่วยลดอาการปวดตึง โรคเต้านมส่วนเกิน

                ด้าน “เอเลน” ครูสาวชาวเยอรมัน บอกว่า “การใส่เสื้อชั้นในเป็นสิ่งที่อึดอัดสำหรับฉันเสมอ ตั้งแต่ฉันเลี้ยงลูกสามคน หน้าอกของฉันก็โตขึ้นและหย่อนคล้อย กระทั่งต้องใส่ชุดชั้นในเพื่อประคองทรง กระทั่งทำให้เธอต้องเป็นโรคโพลีมาสเตีย หรือโรคที่มีเต้านมเล็กๆ เกิดขึ้นตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งเธอพบเต้านมที่สามซึ่งไม่พึงประสงค์ดังกล่าวที่บริเวณใต้ราวนมด้านขวาใกล้ๆ กับขอบของเสื้อใน และเจอขณะที่เธอกำลังให้นมบุตรเสร็จ ซึ่งโรคเต้านมส่วนเกินดังกล่าวจะทำให้รู้สึกคัดตึงและเจ็บหลังการคลอดบุตร หรือหลังให้นมบุตร และนั่นทำให้เธอต้องเปลือยอกไปตลอดทั้งปี ท่ามกลางภาวะโควิด-19 ระบาด แต่ก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดีแต่อย่างใด หรือเธออาจจะไม่ใส่เสื้อในอีกต่อไปเช่นกัน”

ต้องมีบราเซียต่างแบบติดตู้เสื้อผ้าช่วงโควิด-19

                “เฮเลน เบอร์รี” จากเมืองแคมบริดจ์เชียร์ในอังกฤษ บอกว่า “ปีนี้เป็นปีที่เธอซื้อเสื้อในมาเป็นจำนวนมากกว่าปีก่อนๆ เนื่องจากมีโรคระบาดโควิด-19 โดยเฉพาะชุดชั้นในสปอร์ตบรา ชุดชั้นในที่สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ใส่กับเสื้อผ้าอื่นได้ โดยไม่ต้องสวมเสื้อคลุมทับและชุดชั้นในสำหรับนอนหลับ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นหลายคนอาจคิดว่าฉันมีชุดชั้นในหลายแบบมากเกินไป แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า จึงต้องเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับยกทรงเอาไว้”

ชุดชั้นในหลวมใส่สบายสำหรับนอนดีที่สุด

                “เจเน็ต” อาจารย์ที่เกษียณ จากลีดส์ บอกว่า “ก่อนที่จะมีคำสั่งเกี่ยวกับล็อกดาวน์นั้น และฉันก็มีสามี ทั้งนี้ฉันมีเสื้อชั้นในแบบไม่มีสายเป็นจำนวนมาก กระทั่งช่วงที่ต้องกักตัวอยู่บ้าน ทำให้ฉันและสามีรู้สึกเครียด กระทั่งแยกห้องนอนกัน จากนั้นฉันก็ตรวจพบก้อนเนื้อในเต้านม และในเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมานั้นก็ได้ส่งต่อและรักษาโรคมะเร็งเต้านมอย่างจริงจัง กระทั่งผ่าออกสำเร็จในเดือนสิงหาคม และใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 3 เดือน ดังนั้นหลังการผ่าตัดเต้านม เสื้อในที่ฉันสามารถใส่ได้คือเสื้อในของคนแก่ ที่ฉันสามารถใส่มันได้จริงๆ จากนั้นฉันก็ได้ทดลองใส่ชั้นที่ดูเรียบๆ อีกทั้งมีความนุ่มสบายขณะใส่ ซึ่งเป็นชุดชั้นในสำหรับใส่นอนตอนกลางคืน และหลังจากที่ตื่นนอนแล้ว ฉันก็ยังใส่ชุดชั้นสไตล์เรียบและนุ่มดังกล่าว แม้ว่าคนที่เห็นฉันชุดชั้นในดังกล่าวแล้ว ก็มักจะไม่รู้สึกพิเศษสำหรับฉันอีกต่อไป แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่มันก็ทำให้ฉันสบาย เมื่อต้องใส่ชุดชั้นแบบใส่นอนดังกล่าว”

 

เสื้อในที่ดีเป็นส่วนสำคัญของการสร้างความรู้สึกมั่นใจ

                “วาเนสซา” บอกว่า “ก่อนที่ลูกชายของฉันจะเกิด ฉันมีความตั้งใจที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มาโดยตลอด ดังนั้นในช่วงที่เพิ่งคลอด ฉันจึงซื้อเสื้อชั้นในสำหรับพยาบาลหลายขนาด หรือชุดชั้นในสำหรับให้นมบุตร เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับทุกสิ่ง โดยเฉพาะคำแนะนำเกี่ยวกับเด็กแรกคลอด รวมถึงหน้าอกของคุณแม่ที่เปลี่ยนไป และเปลี่ยนไปทุกสัปดาห์ กระทั่งชุดชั้นในให้นมบุตรนั้นไม่พอดีกับตัวฉัน เพราะนั่นทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดกับเสื้อในที่สามารถม้วนเข้าม้วนออกเพื่อเปิดออกเพื่อให้นมบุตร และหลังจากที่ฉันไม่ต้องให้นมบุตรแล้ว ฉันก็กลับมามีความสุขกับใส่เสื้อในแบบมีสายได้อีกครั้ง ฉันได้ตระหนักว่าเสื้อชั้นในที่ดีเป็นส่วนสำคัญของการสร้างความรู้สึกดีๆ โดยเฉพาะการรับมือกับโรคระบาด และช่วยให้ฉันหลีกเลี่ยงความเครียด และอาการรู้สึกอึดอัดจากการออกไปข้างนอก ด้วยการใส่ชุดชั้นในที่ไม่สบายตัว เพราะฉันเชื่ออยู่เสมอว่า เสื้อชั้นในที่ดีจะช่วยทำให้ฉันทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างวันได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการใส่ยกทรงที่ไม่ดี เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง”

ไม่กล้าถอดชุดชั้นในถือว่าแปลก

             “อลิเซีย คียส์” ศิลปินนักร้องชื่อดัง จากนิวยอร์ก บอกว่า “เมื่อเริ่มมีคำสั่งให้เริ่มกักตัวนั้น ฉันก็เลิกใส่เสื้อในทันที ซึ่งก่อนหน้านั้นฉันเลือกที่จะใส่เสื้อในสปอร์ตบราเป็นประจำ และก็เปลี่ยนมาใส่เสื้อในแบบเต็มตัวเป็นเวลา 6-7 เดือน ทั้งนี้หน้าอกของฉันคือไซส์ 36E แต่หลายคนที่ทำงานที่บ้านและไม่กล้าถอดเสื้อใน เพราะกลัวว่าคนจะเห็นว่าเปลือย แต่สำหรับฉันคิดว่าไม่ว่าจะนั่งสังสรรค์อยู่ในเลานจ์ หรือนั่งในห้องทำงานมันก็ไม่แตกต่างกัน ดังนั้นฉันจึงเก็บชุดชั้นในทั้ง 2 แบบใส่ในกล่องทันที ทั้งนี้ฉันมองว่าต่อให้ไม่ใส่ชุดชั้นในนั่งทำงานในออฟฟิศ แต่ฉันจะระมัดระวังตัว และวางตัวอย่างเหมาะสมก็ถือว่าใช้ได้”

                ชุดชั้นในถือว่ามีประโยชน์ โดยเฉพาะการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่สวมใส่ ดังนั้นนอกจากการซักทำความสะอาดอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอแล้ว การที่คุณสาวๆ เลือกที่โนบรา ก็อาจต้องดูความเหมาะสมจากกิจวัตรประจำวัน หรือหน้าที่การงานของแต่ละคนด้วยเช่นกัน  หรือแม้แต่การเลือกสวมชุดชั้นให้เหมาะกับสรีระ มากกว่าเลือกยกทรงจากความสวยงามภายนอก สิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ช่วยเสริมบุคลิกให้กับคุณสาวๆ ได้จากยกทรงตัวจิ๋ว ในภาวะที่โควิด-19 มีแววยืดเยื้อ.