'เพื่อไทย' ผุดไอเดียเปิดพื้นที่จังหวัดชายแดน ให้ประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจการค้า


เพิ่มเพื่อน    

22 ก.ค.64 - นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ต้องหัดรับฟังเสียงของประชาชนและต้องฟังเสียงเรียกร้องจากภาคธุรกิจ รวมถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์และข้อเสนอแนะ เมื่อฟังแล้วก็ต้องนำไปพิจารณาแก้ไข เพราะคนที่ลำบากที่สุดในขณะนี้คือ ประชาชน และภาคธุรกิจ ที่ต้องทนแบกภาระมากว่าปีแล้ว โครงการและนโยบายต่างๆ น่าจะต้องเป็นการช่วยเหลือและสนับสนุนให้ธุรกิจอยู่รอด ไม่ใช่ไปซ้ำเติมหรือไปเพิ่มต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ ยกตัวอย่างเช่น ในขณะนี้ในโครงการ คนละครึ่ง รัฐกลับใช้โครงการนี้เป็นฐานข้อมูลในการเรียกเก็บภาษีกับร้านค้า ซึ่งไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ถูกที่ถูกเวลา หากเป็นสถานการณ์ปกติ ในช่วงที่ผู้ประกอบการมีกำไร การเรียกเก็บภาษีถือเป็นเรื่องปกติที่ทำได้ แต่ในภาวะวิกฤตขณะนี้ การเรียกเก็บภาษีย้อนหลังกับร้านค้าที่เข้าโครงการคนละครึ่ง กลับเป็นเหมือนการซ้ำเติมผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยที่แบกปัญหากันหนักมากอยู่แล้ว ซึ่งไม่รู้ว่ารัฐบาลใช้อะไรคิด ถึงได้ซ้ำเติมผู้ประกอบการแบบนี้ในภาวะเช่นนี้ นอกจากนี้ยังอยากขอให้พลเอกประยุทธ์ได้พิจารณาเปิดให้ประชาชนสั่งซื้อร้านอาหารในห้างได้โดยมีจุดรับส่ง เพื่อนำกลับบ้านเพื่อช่วยทั้งประชาชนให้มีทางเลือกในการซื้ออาหาร และร้านอาหารสามารถประคองตัวได้เพราะไม่แน่ใจว่าจะมีการล็อกดาวน์นี้อีกนานขนาดไหน

โดยในวันนี้ ภาคเอกชน โดย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย เตรียมยื่น 4 ข้อเสนอถึงพลเอกประยุทธ์ ในการช่วยเหลือ SMEs ให้อยู่รอดซึ่งหากเป็นผู้นำที่เข้าใจเศรษฐกิจและมีความรู้ในภาคธุรกิจจริงๆ ก็ควรจะรับพิจารณาเพื่อดำเนินการ และอาจจะช่วยเหลือเพิ่มมากกว่า 4 ข้อ ที่เสนอมาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจ ที่กำลังต่อสู้ดิ้นรนให้อยู่รอดในภาวะวิกฤตนี้ ในภาวะเช่นนี้ ทุกธุรกิจประสบปัญหากันหมด พลเอกประยุทธ์ จะต้องศึกษา และจัดลำดับความสำคัญ และหาทางแก้ไขให้เข้ากับพื้นที่ยกตัวอย่างเช่น ผู้ประกอบการขนส่งชายแดน ที่จำเป็นต้องส่งสินค้าข้ามแดน มีปัญหาเรื่องที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน และต้องตรวจไวรัสโควิดทุกครั้ง ค่าใช้จ่ายในการตรวจแต่ละครั้งประมาณ 3,000 บาท ถ้าต้องขน 10 คัน ก็ต้องจ่าย 30,000 บาท และการตรวจแต่ละครั้งใช้ได้แค่ 7 วันเท่านั้น และการขนส่งสามารถทำได้แค่ 1 รอบเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มต้นทุนที่สูงมาก ดังนั้นอยากให้รัฐบาลพิจารณาขยายเวลาเป็น 14 วันได้หรือไม่ เพื่อช่วยธุรกิจที่ยังพอทำมาค้าขายได้ และช่วยสนับสนุนให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดชายแดนได้รับการฉีดวัคซีนให้ครบ เพราะธุรกิจเหล่านี้ ยังสามารถสร้างรายได้ และเพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบเศรษฐกิจของไทยได้

นอกจากนี้ ในปัจจุบัน เงินดอลล่าร์สหรัฐ และเงินบาทไทย ขาดแคลนอย่างมากในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นปัญหาอย่างมากในการซื้อขายสินค้าเพื่อการส่งออก  ทั้งนี้เพราะการค้าขายชายแดนระหว่างไทยและลาวลดลงอย่างมากในช่วงวิกฤตไวรัสโควิดนี้ อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้ประเทศไทยได้เริ่มทำ Sandbox ในแต่ล่ะจุดแล้วไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดภูเก็ตหรือที่เกาะสมุย ด้งนั้นจึงควรพิจารณาทำ Sandbox ในจังหวัดชายแดนต่างๆ ด้วย ตามความพร้อม ก็น่าจะเป็นไปได้  โดยน่าจะอนุญาตให้ประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว สามารถเดินทางข้ามประเทศเข้ามาได้ เพื่อส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยพิจารณาในแต่ละจังหวัดที่กับติดชายแดนและมีการค้าขายกันมาก ทั้งนี้พลเอกประยุทธ์ อาจจะไม่ทราบว่าคนลาวเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในจังหวัดหนองคายกันอย่างมาก จนยอดขายในห้างสรรพสินค้าและในห้างโมเดิร์นเทรดที่หนองคายมียอดขายติดอันดับของประเทศไทย การเปิดแซนด์บอกซ์ที่หนองคายจะช่วยส่งเสริมธุรกิจและเพิ่มการค้าขายได้อย่างมาก

ในภาวะวิกฤติโควิด พลเอกประยุทธ์ จะต้องศึกษาหาทางดูแลให้เศรษฐกิจสามารถดำเนินไปได้ด้วย ถึงเวลาแล้วที่ผู้นำจะต้องออกจากทำเนียบและออกจากบ้าน แล้วมาทำความเข้าใจและเข้าถึงปัญหาของประชาชนและปัญหาของภาคธุรกิจในแต่ละพื้นที่และในแต่ละภาคส่วน ก่อนที่ปัญหาเศรษฐกิจจะยิ่งบานปลายไปมากกว่านี้

นายกฤษฎา กล่าวว่า จังหวัดหนองคาย เป็นจังหวัดชายแดนที่มีการค้าขายมากกับประเทศเพื่อนบ้าน เศรษฐกิจของหนองคาย จึงขึ้นกับกำลังซื้อจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่ตัวเลขผู้ได้รับวัคซีนอ้างอิงตาม หมอพร้อม จังหวัดหนองคายมีประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนในวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 จำนวน 750 ราย รวมแล้วมีประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนสะสมทั้งหมด 96,392 ราย คิดเป็น 15.37% เท่านั้น ในขณะที่ในกรุงเวียงจันทร์มีประชากรลาวที่ได้รับการฉีดวัคซีนในสัดส่วนที่มาก อีกทั้งยังได้รับการฉีดวัคซีน mRNA เช่น ไฟเซอร์ ที่มีคุณภาพดีกว่าวัคซีนที่ไทยใช้  

ดังนั้นแล้วไทยจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างไร การฟื้นเศรษฐกิจในช่วงวิกฤติการณ์ไวรัสโควิด ผู้นำจะต้องมีความรู้ความสามารถและจะต้องมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจ สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรควรทำก่อนและหลัง อะไรที่จะเป็นประโยชน์กับประเทศ หากผู้นำขาดทักษะในเรื่องนี้เศรษฐกิจไทยคงจะฟื้นได้ยาก และ พลเอกประยุทธ์น่าจะรู้ดีถึงข้อจำกัดของตัวเองในเรื่องนี้ และไม่ควรจะดื้อรั้นอีกต่อไป ซึ่งจะสร้างปัญหาให้ประเทศมากยิ่งขึ้น


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"