เลือกกิจกรรมคลายเครียดที่ชอบ เทคนิครับมือสุขภาพจิตช่วงกักตัว


เพิ่มเพื่อน    

   ช่วงนี้มองไปทางไหนหลายคนเกิดความเครียด ทั้งจากการรับฟังข่าวสารเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ที่พบจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยสีเขียวที่ต้องดูแลตัวเองอยู่บ้านก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นเช่นกัน หรือแม้แต่ปัญหาการหยุดงานหรือบางคนตกงาน แม้จะมีการเยียวยาจากภาครัฐเข้ามาช่วย แต่หลายคนก็ตกอยู่ในสภาวะเครียดและเป็นทุกข์ใจ


    พญ.ณัฐชญา ไมตรีเวช แพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัย เจ้าของ “ณัฐชญา คลินิก” (Natchaya Clinic) ให้คำแนะนำว่า “สำหรับกิจกรรมคลายเครียดที่สามารถทำร่วมกันได้ทั้งครอบครัวนั้น เริ่มจากเรื่องง่ายๆ อย่างการ “นั่งดูทีวีด้วยกัน” เช่น การดูหนังในเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งหลังจากที่ดูแล้วก็มาคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์ที่ได้ดูด้วยกัน ก็จะทำให้สมาชิกในบ้านเริ่มผ่อนคลายมากขึ้นจากการทำสิ่งที่ชอบร่วมกัน หรือถ้าบ้านไหนที่พอมีพื้นที่ แนะนำให้สมาชิกในบ้าน “ออกกำลังกายด้วยกัน” ตั้งแต่การเล่นโยคะ การเดินเล่นหรือการวิ่งในสนามหน้าบ้าน กระทั่งการกระโดดเชือกที่ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เยอะแต่อย่างใด แต่ได้ออกกำลังกายอย่างง่ายๆ แล้ว หรือแม้แต่การ “ปลูกต้นไม้ทำสวน” หรือ “ช่วยกันทำอาหารเย็น” ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ของสมาชิก โดยเฉพาะในช่วงที่หลายคนกำลังประสบกับภาวะตึงเครียดในหลายๆ เรื่องได้ เนื่องจากเรามีสมาธิอยู่กับสิ่งที่ทำ กระทั่งหลายคนเพลิดเพลินจนลืมภาวะลบ หรือเรื่องที่ไม่สบายใจได้
    “ที่สำคัญนั้นหลักของการทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมกลางแจ้ง หรือกิจกรรมภายในบ้าน หมอแนะนำว่าควรเป็นกิจกรรมที่สมาชิกในบ้านชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นการดูหนังด้วยกัน กระทั่งออกกำลังกายด้วยกัน ยกตัวอย่างการที่บางคนชอบและเลือกใช้ศิลปะในการคลายเครียด ไม่ว่าจะเป็นวาดรูป เพนต์รูป หรือทำงานปั้นต่างๆ ซึ่งข้อดีของงานศิลปะคือมันทำให้จิตใจของเราสงบ และเมื่อใจสงบ ร่างกายก็จะรู้สึกผ่อนคลายความเครียดไปได้ในที่สุด ตรงกันข้ามหากบุคคลนั้นไม่ชอบงานศิลปะ แต่ถูกบังคับให้ทำ แน่นอนว่าไม่เพียงทำให้ลูกหลานรู้สึกหงุดหงิดแล้ว ยังทำให้เขาเครียดมากกว่าเดิมเสียอีก ดังนั้นหมอจึงเน้นย้ำอยู่เสมอว่าควรเป็นกิจกรรมที่ทุกคนชื่นชอบ นั่นจึงจะช่วยลดความกังวลใจ เสริมสร้างสมาธิและความสงบใจ เพื่อรับมือกับภาวะความเครียดได้เป็นอย่างดี
    คุณหมอกล่าวเสริมอีกว่า สิ่งแรกคือการไม่กังวลจนเกินเหตุเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้ป่วยดังกล่าว และอันที่สองคือ หากเราไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 เราจำเป็นต้องมีสติ และต้องคอยหุงหาอาหาร ยา ดูแลเสื้อผ้าให้กับผู้ป่วยที่กักตัวในบ้านเรา เพราะอันที่จริงแล้วตัวเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น เซลล์ของไวรัสร้ายจะกลัวสบู่หรือผงซักฟอก ดังนั้นการหมั่นล้างซักทำความสะอาดเสื้อผ้าของผู้ป่วยที่อยู่ร่วมบ้านเดียวกัน ตัวเชื้อไวรัสร้ายนี้ก็จะถูกทำลายด้วยสารซักฟอกดังกล่าวโดยไม่ทำให้เราติดเชื้อ เพราะตัวการสำคัญที่ทำให้ติดเชื้อโควิด-19 คือการไอ จาม ที่เป็นการส่งผ่านเชื้อไวรัสทางลมหายใจ ดังนั้นถ้าเราอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน และใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น ครอบปิดทั้งปากและจมูก จะทำให้เชื้อไวรัสไหลผ่านเข้าไปทางรูหรือช่องว่างของหน้ากากอนามัยได้ อีกทั้งเราต้องหมั่นล้างมือบ่อยๆ ก็จะทำให้ไม่ติดเชื้อโควิด และสามารถร่วมกับผู้ป่วยในบ้านได้เช่นกัน”.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"