อยากฉีดต้องได้ฉีด ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต แห่งฟิลิปปินส์ สั่งการรัฐบาลของเขาให้เปิดโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แก่ทุกคนที่ต้องการฉีดวัคซีน หลังจากเริ่มพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาเพิ่มขึ้น

แฟ้มภาพ ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต  Getty Images

    รายงานรอยเตอร์กล่าวว่า ฟิลิปปินส์เพิ่งมีประชากรฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบแล้วเพียงแค่ร้อยละ 6 ของประชากร 110 ล้านคน และยังมีคนอีกหลายล้านคนอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ รัฐบาลประธานาธิบดีดูเตร์เตตั้งเป้าหมายว่าจะให้ประชากร 70 ล้านคนได้ฉีดวัคซีนครบโดสก่อนสิ้นปีนี้

    "ฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีน" ดูเตร์เตกล่าวในคำแถลงเมื่อช่วงดึกของวันพุธที่ผ่านมา พร้อมกับแสดงความกังวลเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้ง่ายขึ้น และกำลังระบาดหนักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้

    รายงานกล่าวว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่าคำสั่งของเขาหมายความว่า จากนี้ชาวฟิลิปปินส์ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่รัฐบาลให้ความสำคัญก่อน จะสามารถรับวัคซีนได้เลยหรือไม่ เพราะปริมาณวัคซีนที่มีอยู่จำกัดทำให้ก่อนหน้านี้รัฐบาลเน้นความสำคัญกับผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุข, ผู้สูงอายุ, ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ และผู้ใหญ่วัยทำงาน

    ถึงขณะนี้ ฟิลิปปินส์รายงานว่าตรวจพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาแล้ว 119 คน แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวกันว่า น่าจะมีผู้ติดเชื้อมากกว่านี้ที่ยังตรวจไม่พบ เพราะขีดความสามารถในการลำดับจีโนมของฟิลิปปินส์นั้นทำได้อย่างเชื่องช้า

    เริ่มมีรายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มจำนวนขึ้นแบบรายวัน และสัปดาห์นี้ ฟิลิปปินส์สั่งระงับการเดินทางจากมาเลเซียและไทย รวมถึงเพิ่มการควบคุมในกรุงมะนิลาและโดยรอบอย่างเข้มงวดขึ้น

    ดูเตร์เตยังสั่งการให้พวกผู้ใหญ่บ้านป้องกันไม่ให้สมาชิกชุมชนที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีน ออกจากบ้านด้วย เพราะคนเหล่านี้เป็นตัวแพร่เชื้อเดินได้ โดยบอกว่าจะให้ตำรวจตามประกบพาคนเหล่านี้กลับเข้าบ้าน

    ปัจจุบันฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมมากกว่า 1.5 ล้านคน เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 27,000 คน เป็นสถานการณ์รุนแรงอันดับ 2 ในภูมิภาคอาเซียน รองจากอินโดนีเซีย.