อดีตส.ส.แห่ต้อนรับบิ๊กตู่


เพิ่มเพื่อน    


    "บิ๊กตู่" สัญจรพิจิตร-นครสวรรค์ ปลื้มชาวบ้านแห่ให้กำลังใจเพียบ อ้อนมาสร้างอนาคตร่วมกัน ยันไม่ได้มาหาเสียง ปัดสืบทอดอำนาจ วอนอย่าเลือกคนที่คุ้นเคยจะได้รัฐบาลธรรมาภิบาล พท.-ปชป.-ภท.-ชทพ.ตบเท้าต้อนรับพรึ่บ! นายกฯ ขอให้ทำเพื่อประเทศชาติ
    เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน เวลา 08.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางด้วยรถยนต์ โตโยต้า อัลพาร์ด กง 9333 นครนายก พร้อมกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) อาทิ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ไปวัดท่าหลวง พระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมืองพิจิตร ระหว่างตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 เพื่อนมัสการองค์หลวงพ่อเพชรซึ่งเป็นพระพุทธรูปสมัยเชียงแสนรุ่นแรก นอกจากนี้ยังเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นศูนย์รวมใจของชาวพิจิตร โดยก่อนเข้าสักการะนายกฯ ได้หันมาโบกมือทำสัญลักษณ์ไอเลิฟยูทักทายประชาชนที่มาทำบุญที่วัด
    ทั้งนี้ พระราชสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดพิจิตรและรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ได้มอบพระพุทธรูปบูชาหลวงพ่อเพชรหน้าตัก 3 นิ้ว รูปหล่อหลวงพ่อเงิน และเหรียญที่ระลึกหลวงพ่อเพชรหลวงพ่อเงินรุ่นพุทธบารมีแก่ พล.อ.ประยุทธ์ และมอบเหรียญที่ระลึกหลวงพ่อเพชรหลวงพ่อเงินรุ่นพุทธบารมีแก่ ครม.รวมถึงผู้ติดตามด้วย ภายหลังเข้าสักการะหลวงพ่อเพชรแล้ว นายกฯ และคณะได้เดินทักทายประชาชนที่มารอพบและให้กำลังใจ โดยมีบางส่วนมอบดอกกุหลาบสีชมพูพร้อมร่วมกันตะโกนว่า "นายกฯ สู้ๆ เป็นกำลังใจให้นะ พวกเรารักลุงตู่ พวกเรารัก ครม.ลุงตู่" พร้อมกับแย่งกันเข้าสวมกอดและถ่ายรูปกับนายกฯ อย่างใกล้ชิด 
    นอกจากนี้ นายสุวิทย์ ชอบใช้ ประธานสภาเทศบาลเมืองบางมูลนาก ได้มอบรูปหลวงพ่อเงินแก่ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมกล่าวว่า "ในนามของชาวจังหวัดพิจิตร ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพของชาวจังหวัดพิจิตร บารมีของหลวงพ่อเพชร หลวงพ่อเงินคุ้มครองนายกรัฐมนตรี ขอให้ลุงตู่เป็นที่พึ่งของประชาชนและประเทศชาติตลอดกาล ชาวพิจิตรรักลุงตู่ครับ" และเข้าสวมกอดนายกฯ หลังจากนั้นมีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งพยายามที่จะเข้ามาหอมแก้มนายกฯ 
    ต่อมาเวลา 09.30 น. นายกฯ และคณะพบประชาชนและเยี่ยมชมกิจกรรมการพัฒนาพิจิตรจังหวัดคุณธรรมและการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวบึงสีไฟ โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับประชาชนกว่า 1,000 คนว่า  วันนี้มาเพื่อสร้างอนาคตร่วมกัน ว่าเราต้องการให้ประเทศไทยเป็นอย่างไร ต้องช่วยกันขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดความสุขแก่ทุกๆ คน แม้จะมีรายได้น้อย แต่ถ้าเรามีความสุขทุกอย่างก็จะดี การมาพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนครั้งนี้ไม่ได้มาหาเสียง แต่เพื่อติดตามความก้าวหน้าในแผนและโครงการต่างๆ พร้อมปรับให้สอดคล้องกับความต้องการในพื้นที่ และอยากให้ทุกคนช่วยกันดูว่ารัฐบาลนี้ทำงานแตกต่างจากที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง
'บิ๊กตู่' อ้อนคนพิจิตร
    "ถึงพิจิตรแม้จะเป็นเมืองเล็กแต่น่ารัก สามารถพัฒนาต่อยอดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเป็นเมืองแห่งความสุขได้ ผมมาวันนี้ในนามของนายกฯ ที่จะดูแลคนทั้งประเทศ ทุกจังหวัดวันนี้ผมใส่เสื้อประเทศไทยมา พิจิตรเป็นเมืองที่อยู่ใกล้หัวใจผมที่สุด ผมพยายามถ่ายทอดความรู้สึกทุกอย่างออกมา นายกฯ คนเดียวมีสองแขนสองมือ มีหัวใจดวงเดียวทำได้หนึ่งอย่าง เก็บขยะก็ได้ชิ้นเดียว แต่ถ้าทุกคนร่วมมือกันเป็นพันๆ มือ งานทุกอย่างจะเดินหน้าต่อไปได้ ถ้าเรามีหัวใจที่ยิ่งใหญ่เป็นกำลังใจให้กันและกัน" นายกฯ  ระบุ
    อย่างไรก็ตามต้องเดินหน้าบ้านเมืองอย่างมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืน การแก้ปัญหาแบบเร็วและหวือหวาจะไม่สำเร็จ แต่จะล้มกลับมาที่เดิม ในการทำงานรัฐบาลได้รับฟังเสียงจากทุกฝ่ายไปถึงสื่อโซเชียลด้วย  ส่วนที่สื่อบางสำนักพาดหัวว่าจะมาให้งบประมาณหลายหมื่นล้านบาท ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะจะต้องดูว่าโครงการใดเร่งด่วนและตอบสนองความต้องการของประชาชนมากน้อยเพียงใด แต่ชาวพิจิตรไม่ต้องน้อยใจเพราะอะไรเร่งด่วนจะได้ก่อน ไม่มีทางที่จะได้ในครั้งเดียวอยู่แล้ว หากสงสัยต้องถามเพราะมีศูนย์ดำรงธรรม ช่องทางลุงตู่สายด่วน 1111 มีอยู่แล้ว  
    สำหรับการอนุมัติงบให้แต่ละพื้นที่ไม่ใช่เงินนายกฯ แต่เป็นเงินส่วนกลาง ซึ่งต้องมีมาตรการต่างๆ รองรับ และงบประมาณที่จะอนุมัติให้จังหวัดพิจิตรนั้นไม่สามารถบอกเป็นตัวเลขได้ เพราะไม่ต้องการเอาเรื่องนี้มาเป็นการหาเสียง ไม่ต้องการซื้อเสียง แม้ไม่มีเสียงให้แม้แต่คนเดียวก็พร้อมที่จะทำงานให้ประเทศไทย เพราะที่นี่คือประเทศไทย เป็นของคนไทยทุกคน ที่จะต้องคิดถึงจิตใจคนอื่นด้วย อย่ากินขนมโดยไม่แบ่งเพื่อน เราต้องมีความรักความสามัคคี เหมือนเอาแขนงไผ่ทุกแขนงมารวมกัน ใครๆ ก็หักไม่ได้ นอกจากนี้ยังต้องมีคุณธรรม จริยธรรม อุดมการณ์ จิตอาสา และความรับผิดชอบเคารพกฎหมายด้วย วันนี้มีหลายคนพยายามจะให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่ไม่บอกว่าเป็นใคร 
    "นี่คือคนไทย 4.0 ไม่ใช่เขียนอะไรมาในโซเชียลแล้วเชื่อทุกอัน แล้วเผยแพร่กันออกไป อย่าลืมว่าเด็กเสพและอ่านอยู่ ต้องคิดด้วยว่าเราให้ข้อมูลในสิ่งที่ถูกหรือผิด ขอให้ระมัดระวังในการใช้โซเชียลมีเดีย  ขอให้ใช้ในสิ่งที่เกิดประโยชน์ จะไม่ฟังผมในวันศุกร์ก็แล้วแต่ท่าน ก็มีหลายคนเอาไปถามเด็กว่ารู้จักนายกฯ หรือไม่ ซึ่งเด็กบางคนไม่รู้จักก็ไปพูดว่าเด็กยังไม่รู้จักเลย มันถูกหรือไม่ไปทำอยู่ในโซเชียลแบบนี้ เด็กเล็กๆ อนุบาลจะไปรู้เรื่องอะไรบ้างก็ถามว่ารู้จักนายกฯ ไหม ได้คำตอบว่าเป็นนักร้อง ปัดโธ่ ทำกันแบบนี้ออกมาเพื่ออะไร รักผมหรือแบบนี้ เขาไม่รักผมหรอก เขาไม่รักประเทศของเขา ผมไม่ได้ต้องการให้มารักผม ขอให้รักประเทศ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    นายกฯ กล่าวว่า วันหน้าการเลือกตั้งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน นี่คือสิ่งแรกขับเคลื่อนให้เดินหน้าสู่ประชาธิปไตยที่สวยงาม ต้องเริ่มจากทุกคนมีสิทธิ์เลือกตั้งไปเลือกตั้ง ทุกคนที่มีอายุครบ 18 ปีต้องไปทุกคน เพราะเป็นจุดแรกที่จะได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลหรือไม่ ขอให้เลือกคนที่มีความเชื่อมั่น อย่าเลือกคนที่มีความคุ้นเคยใกล้ชิดอย่างเดียว ถ้าไม่ดีก็เลือกคนอื่น ส่วนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีหลายคนบอกว่านายกฯ จะสืบทอดอำนาจไป 20 ปี ซึ่งอีก 20 ปีตนจะอยู่หรือไปยังไม่รู้เลย แล้วแต่ชะตาฟ้าลิขิต เกิดได้เมื่อไหร่ก็ตายได้เมื่อนั้น ขอให้ทุกคนช่วยกัน อย่าขัดแย้งกันมากนักเลย หาปัญหาที่อยากแก้และความดีที่อยากทำ 
    "ความดีทำได้ตลอดเวลา เดือนหน้าจะเป็นวันมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  66 พรรษา 28 ก.ค.2561 ให้เราทำดีตั้งแต่วันนี้ ทำถวายพระองค์อื่นไปด้วย รัชกาลที่ 10 พระองค์ท่านทรงรักษาสืบสานต่อยอดจากรัชกาลที่ 9 พระองค์ท่านมีรับสั่งว่าไม่มีอะไรที่สมเด็จพระราชบิดาไม่ได้ให้กับคนไทยไว้ วันนี้ทำครบหรือยัง เราต้องช่วยกันทำ สำคัญคือความดีโดยรัฐบาลมุ่งมั่นทำให้ประชาชน จ.พิจิตร ไม่รักนายกฯ ไม่เป็นไร ขอให้รักประเทศชาติ" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
    จากนั้นนายกฯ ได้ฟังเด็กนักเรียนเล่านิทานเรื่อง "ต้นไม้แห่งความสมหวัง" และขอให้ร่วมกันร้องเพลง "ต้นไม้ของพ่อ" ก่อนจะเยี่ยมชมการแสดงร้องเพลงของเด็กนักเรียนที่มีความสามารถในการขับร้อง  โดยนายกฯ ได้ขอให้ร้องเพลงของพุ่มพวง ดวงจันทร์ และเพลงของลำไยไหทองคำ ขณะที่เด็กๆ ต่างพากันร้องเชียร์นายกฯ สู้ๆ 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการรักษาความปลอดภัยในการลงพื้นที่ของนายกฯ เป็นไปด้วยความเข้มงวด โดยจุดแรกที่วัดท่าหลวง เจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงไม่อนุญาตให้ประชาชนทั่วไป และผู้ที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าเข้ามาภายในบริเวณวัด จนกว่านายกฯ จะปฏิบัติภารกิจเสร็จ 
    ส่วนจุดที่ 2 บริเวณบึงสีไฟ ชาวบ้านทุกคนจะต้องถูกผ่านการตรวจอย่างละเอียดจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งทุกคนที่เข้ามาจะต้องติดบัตรแสดงตน มีการติดสติกเกอร์ พร้อมผ่านการตรวจวัตถุอันตราย ห้ามสวมเสื้อแจ็กเกต 
    ขณะที่สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เตรียมป้ายและแจกพัด หมวก ประชาสัมพันธ์เพจไทยคู่ฟ้า และแอปพลิเคชันไลน์ @thaigov เพื่อเป็นช่องทางการสื่อสาร รวมทั้งยังได้แจกเนื้อเพลง "เพราะเธอคือประเทศไทย" ให้ประชาชนร้องต้อนรับนายกฯ ด้วย 
ตรวจรถไฟทางคู่
    จากนั้นเวลา 15.15 น. ที่สถานีรถไฟชุมแสง ต.ชุมแสง อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะออกเดินทางด้วยรถไฟขบวนพิเศษ จากสถานีรถไฟชุมแสงไปยังสถานีรถไฟนครสวรรค์ เพื่อตรวจโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ (ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ) และตรวจสภาพการพัฒนาบึงบอระเพ็ด 
    โดยก่อนที่ขบวนรถไฟที่นายกฯ โดยสารจะเคลื่อนออกจากสถานี นายกฯ ได้โบกมือทักทายประชาชนพร้อมกับตะโกนว่าอย่าลืมไปเลือกตั้งนะ ทั้งนี้มีประชาชนส่วนหนึ่งวิ่งเข้ามาจับมือและขอถ่ายรูปเซลฟีก่อนที่ขบวนรถจะเคลื่อนออกไป โดยนายกฯ ได้ชูนิ้วโป้งให้ประชาชนที่มาต้อนรับ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งนายกฯ ได้หันมาพูดกับสื่อว่าร้องเพลงสิ ผู้สื่อข่าวจึงถามกลับว่าร้องเพลงอะไร นายกฯ กล่าวทันทีว่าทัวร์นกขมิ้นไง สื่อจึงถามว่าทัวร์ใคร ซึ่งนายกฯ กล่าวว่าทัวร์ใครไม่รู้เหมือนกัน
    จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยมีรถไฟวิ่งเร็วขนาดนี้หรือไม่ รัฐบาลนี้พยายามทำทุกอย่าง ส่วนเรื่องสินค้าด้านการเกษตรที่มีราคาแพงขึ้น ซึ่งชาวบ้านร้องว่ากินทุเรียนแพงนั้น เห็นว่าเกษตรกรต้องบริหารตัวเองให้ได้ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอก็ช่วยกันทำอย่างเต็มที่ เราต้องช่วยกันด้วย ไม่เช่นนั้นจะกลับไปอย่างเดิม ขอให้สื่อดูในโซเชียลเผยแพร่ข้อมูลกันเยอะแยะ หากอะไรที่เป็นเรื่องจริงตนก็โอเค แต่ถ้าไม่จริงอาจจะงอนบ้างอะไรบ้าง 
    ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ขึ้นรถไฟแล้วไม่ประชุม ครม.บนรถไฟเลยหรือ นายกฯ กล่าวว่า "ประชุมแค่ข้างล่างเวียนหัวพอแล้ว คุยยังไม่รู้เรื่องเลย จะมาประชุม ครม.บนรถไฟ ปัดโธ่ สร้างภาพกันทั้งนั้นแหละ  เอาไว้รถไฟความเร็วสูงก่อน ยังประชุมไม่เสร็จก็ถึงแล้ว อย่าบ่นนะว่าเร็วเกินไป"
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้จะไม่ตอบเรื่องการเมืองเพราะไม่ได้มาทำการเมือง ประเทศของเรามีศักยภาพหลายด้าน เหลืออย่างเดียวคนไทยจะต้องรักกัน จะได้ใช้ประโยชน์จากศักยภาพที่มีได้ เราอย่าไปทำให้วุ่นวาย ตนไม่ได้โทษพวกท่านหรอก แต่มีคนไม่กี่คนที่สร้างความวุ่นวาย 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนรถไฟได้หยุดจอดที่สถานีทับกฤช ซึ่งมีประชาชนมาต้อนรับนายกฯ  จำนวนหนึ่ง โดยมีพ่อค้าแม่ค้าค้าขายกันตามปกติ โดยนายกฯ ได้โบกมือทักทายและสอบถามว่าขายอะไรกันบ้าง ขนมหวาน ไก่ย่างใช่ไหม และได้ถามแม่ค้าคนหนึ่งว่า "ของทั้งหมดราคาเท่าไหร่ ให้ไปรวมกับทุกเจ้าที่ขายอยู่ตรงนี้ ไม่ต้องไปขายใครแล้ว เดี๋ยวนายกฯ เหมาทั้งหมด แจกข้างล่างกินไป เท่าไหร่ เอาตังค์นายกฯ ไป นายกฯ ซื้อเลี้ยงพวกเรา เอ๊ะแล้วมันจะผิดกฎหมายหรือเปล่า ผิดไหม เกิน 3 พันหรือเปล่า นายกฯ ให้เงินซื้อของกับแต่ละเจ้า พวกหัวหมออย่าเอาไปรวมกัน" 
    นอกจากนั้นนายกฯ ยังได้กล่าวกับชาวบ้านอีกว่า "อย่างนี้ต้องเลือกใครไหม ต้องเลือกพรรคไหนเนี่ย หรือไม่ต้องเลือกใครเลยก็ได้แล้ว ใครจะไปสนใจตรงโน้น พรุ่งนี้ประชุม ครม. เรื่องที่แต่ละจังหวัดส่งมาจะมีการกลั่นกรอง อันไหนอยู่ในแผนปี 61 จะทำให้ อันไหนที่ปรับเปลี่ยนงบประมาณหรือของบเพิ่มก็จะให้ ทุกจังหวัดทุกกลุ่มจังหวัดต้องได้เงินใกล้เคียงกัน นายกฯ ไม่ได้ทำเพื่อการเมืองแต่ทำเพื่อประชาชน แบบนี้ดีไหม" ซึ่งประชาชนตะโกนตอบว่าดี 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบนตู้รถไฟทั้งนายกฯ และผู้สื่อข่าวค่อนข้างเป็นกันเอง โดยได้ร้องเพลงซึ่งเป็นภาษิตนักรบโบราณ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงแปลจากภาษิตภาษาฝรั่งเศสตอนหนึ่งว่า "มโนมอบพระผู้ เสวยสวรรค์"
อดีต ส.ส.แห่ต้อนรับ
    จากนั้นเวลา 16.00 น. ที่หอประชุมอาคารอเนกประสงค์องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางมาพบปะประชาชนและผู้นำท้องถิ่น ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อดีต ส.ส.และอดีต ส.ว.ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 (พิจิตร-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-อุทัยธานี) ปรากฏว่ามีอดีต ส.ส.และ ส.ว.เดินทางมาเข้าร่วมหลายคน อาทิ นายทายาท เกียรติชูศักดิ์ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ พรรคเพื่อไทย นายอนันต์ ผลอำนวย  อดีต ส.ส.กำแพงเพชร พรรคเพื่อไทย นางผ่องศรี ธาราภูมิ อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคประชาธิปัตย์ นายสำราญ ศรีแปงวงค์ อดีต ส.ส.กำแพงเพชร พรรคประชาธิปัตย์ นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร อดีต ส.ส.นครสวรรค์ พรรคประชาธิปัตย์ นายชาดา ไทยเศรษฐ์, นายนพดล พลเสน อดีต ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา นายอนุชา นาคาศัย อดีต ส.ส.ชัยนาท พรรคไทยรักไทย นางมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช  อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคภูมิใจไทย นายพีระเดช ศิริวันสาณฑ์ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ พรรคชาติไทยพัฒนา  นายมณเฑียร สงฆ์ประชา อดีต ส.ส.ชัยนาท พรรคชาติไทย และนายสิงห์ชัย ทุ่งทอง อดีต ส.ว.
    นายชาดาให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ยังไม่สังกัดพรรคการเมืองใด แต่จะไม่ไปอยู่กับพรรคที่สนับสนุนทหารอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามหากพรรคที่ตนเองสังกัดไปร่วมรัฐบาลกับทหารก็ยอมรับได้ 
    นายสิงห์ชัยกล่าวว่า การมาพบนายกฯ ครั้งนี้ เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานีประสานงานและเชิญให้มา ซึ่งส่วนตัวไม่มองการลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นประเด็นการเมือง แต่มองว่าการที่ผู้บริหารลงพื้นที่พบปะประชาชนเป็นเรื่องดี ประชาชนจะได้รับประโยชน์
    ต่อมานายกฯ กล่าวกับประชาชนว่า ขอบคุณพี่ๆ บรรดานักการเมืองทั้งหลายที่มาต้อนรับ ทุกคนถือว่าเป็นประชาชนเหมือนกัน ขอบคุณที่มารับฟังในวันนี้ ทั้งคนที่มาจากกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง  รวมถึงจังหวัดชัยนาทและจังหวัดลพบุรี ที่ต้องมาด้วยเพราะมีความเชื่อมโยงด้วยรถไฟทางคู่ ทุกเรื่องที่ทำต้องมีแผนสะสมมาทั้งสิ้น ซึ่งไม่มีทางทำวันเดียวสำเร็จ ต้องแก้ไขระบบระเบียบภายใน และใช้กฎหมายบูรณาการ เพื่อให้เกิดความทั่วถึงและเป็นธรรม เกิดความเท่าเทียมทางโอกาสของประชาชนในการแสวงหาผลประโยชน์ในช่องทางต่างๆ ทำให้พื้นที่เกิดความเข้มแข็ง 
    "ผมคิดว่าทุกคนเข้าใจ ก็ถือว่ามาตั้งมั่นร่วมกันว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป ในช่วงระยะเวลาหน้าที่เรามีประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ มียุทธศาสตร์ชาติ เป็นสิ่งที่ต้องทำ ไม่มีอะไรเป็นอย่างอื่น ต้องขอร้องให้ทุกภาคส่วนเข้าใจว่านี่คือสิ่งที่จำเป็น ไม่ได้ต้องการสืบทอดอำนาจอะไรทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามขอโทษแทนทุกๆ คนแล้วกัน อย่าให้ใครว่านายกฯ มาแล้วสร้างภาระ เพราะผมจะมาสักกี่ครั้งกัน" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
    ทั้งนี้รัฐบาลมีอำนาจอย่างเดียวคือ การบริหารราชการแผ่นดิน แต่ยังมีจุดอ่อนอย่างเรื่องการทุจริตหรือแสวงหาผลประโยชน์ ​สิ่งเหล่านี้ต้องกำจัดไปให้ได้ และเพื่อไม่ให้เกิดความขัดเแย้งด้วย ตนเชื่อว่าจะไม่มีใครกล้าทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้น ถ้าใครทำให้เกิดขึ้นก็ต้องรับผิดชอบ ซึ่งเรื่องของโครงการประชารัฐหรือไทยนิยม ไม่ใช่เรื่องของการเมือง แต่เป็นการเตรียมตัวปฏิรูปสู่ระบอบประชาธิปไตยในวันข้างหน้าไม่ให้เสียเปล่า อย่ามาคิดกังวลกับตนมากนัก ถ้าต่อตีบิดเบือนเหมือนเดิม เวทีโลกไม่มีใครเชื่อมั่นเรา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ให้แข็งแกร่งไปด้วยกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ไปสู่วิสัยทัศน์ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
    จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทักทายประชาชน พร้อมกับแนะนำรัฐมนตรีแต่ละคนว่าอยู่กระทรวงไหนและมีหน้าที่อะไรบ้าง ขณะเดียวกันยังเดินเข้าไปพูดคุยทักทายอดีต ส.ส.ในพื้นที่ พร้อมกับขอให้ทำเพื่อประเทศชาติ และขอบคุณทุกๆ คนที่ให้เกียรติตน ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ และนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้เข้าไปพูดคุยทักทายกับกลุ่มนักการเมืองด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะนายอนุชา นาคาศัย กลุ่มมัชฌิมา
    ขณะที่นายอนุชาปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนทางการเมือง ตอบเพียงสั้นๆ ว่าภายในเดือนนี้จะมีข่าวใหญ่ เมื่อถามย้ำว่าจะไปร่วมงานกับใครหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า "มีงานทำ".


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"