'อนุสรณ์'ชี้ตำรวจต้องยึดหลักสากลไม่ใช้ความรุนแรงผู้ชุมนุมเสียเอง


เพิ่มเพื่อน    

8 ส.ค.64-นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงกรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ส.ค. จนเกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ชุมนุมและพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้ชุมนุมมาเดินขบวนเรียก ร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลาออกจากตำแหน่ง จากความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน รัฐบาลควรปรามเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่ให้ท้ายหรือสนับสนุน ให้เป็นฝ่ายใช้ความรุนแรงกับประชาชนเสียเอง การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดชุดใหญ่ ระดมทั้งโบกี้ถังน้ำมัน ตู้คอนเทนเนอร์สกัดม็อบ ระดมมาทั้งรถฉีดน้ำแรงดันสูง ยิงทั้งแก๊สน้ำตา กระสุนยางใส่ผู้ ชุมนุม เพื่อไม่ให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปยังบ้านนายกฯ ใช้กฎหมายปราบปรามอย่างเต็มที่ ถูกตั้งคำถามว่า กระทำการเกินกว่าเหตุหรือไม่

นายอนุสรณ์กล่าวว่าส ฝ่ายที่ประจันหน้ากันนั้นไม่ใช่ข้าศึกศัตรูที่ไหน แต่คือประชาชนเจ้าของประเทศ เจ้าหน้าที่มีการใช้ยุทธวิธีลับลวงพรางหรือไม่ การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปะทะกับผู้ชุมนุมตั้งแต่หัววัน สะท้อนว่าได้อดทนอดกลั้นถึงที่สุดแล้วหรือไม่ การปฏิบัติการได้ ทำตามหลักสากล ดำเนินการเป็นลำดับขั้นตอนจากเบาไปหาหนักหรือไม่ แม้หลังแกนนำยุติการชุมนุม แต่ตำรวจยังคงปฏิบัติการกดดันอย่างหนัก หากเจ้าหน้าที่ดำเนินการผิดหลักสากล จะยิ่ง เกิดเป็นความขัดแย้งในการชุมนุมครั้งต่อไป รวมถึงเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ

 “รัฐบาลมาแล้วก็ไป ไม่มีประโยชน์ที่จะยืนข้างอำนาจรัฐที่ล้มเหลว การควบคุมฝูงชนต้องดำเนินการตามหลักสากล โปร่งใส ตรงไป ตรงมา ตรวจสอบได้ ไม่ลับลวงพราง ไม่กดดันยั่วยุ และไม่ เป็นฝ่ายใช้ความรุนแรงกับประชาชนเสียเอง”

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"