วัคซีนสำหรับสังคมไทยโดยเฉพาะ


เพิ่มเพื่อน    

นอกจากต้องเจอกับท่านเชื้อไวรัสโควิด...ไม่ว่าสายพันธุ์เก่า สายพันธุ์ใหม่ ทั้งเดลตา ทั้งแลมบ์ดา ที่ยังคงออกอาละวาดไปทั่วทั้งโลก ชนิดไม่คิดจะเหี่ยวปลายจนตราบเท่าทุกวันนี้ ประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา ยังหนีไม่พ้นที่ต้องเจอกับเชื้อไวรัสแห่งความโกรธ ความเกลียด เคียดแค้น อาฆาต พยาบาท ริษยาและชิงชัง ของบรรดาเด็กๆ  และผู้ที่ชอบอยู่เบื้องหลังเด็กๆ เข้าไปอีกดอก อะไรต่อมิอะไรมันเลยออกจะชุลมุน วุ่นวาย น่าเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า มิใช่น้อย...

                                                             -----------------------------------------------

            คือถ้าหากมันแค่หงุดหงิด งุ่นง่าน กับ รัฐบาล หรือกับ บิ๊กตู่ ล้วนๆ...มันคงยังไม่ถึงกับต้องไปคิดมาก หรือคิดเล็ก คิดน้อย ซักเท่าไหร่ เพราะไม่รู้กี่ประเทศต่อกี่ประเทศ ก็แทบไม่ได้ถึงกับผิดแผก แตกต่าง ไปจากกันแต่อย่างใด ไม่ว่าประเทศประชาธิปไตยเสรีและทุนนิยมตามแบบฉบับตะวันตกล้วนๆ อย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน หรือแม้แต่บ้านใกล้-เรือนเคียง อย่างมาเลเซีย ฯลฯ ผู้ที่มีอำนาจ หน้าที่ รวมทั้งความรับผิดชอบ อย่าง รัฐบาล ทั้งหลาย ย่อมหนีไม่พ้นต้องตกเป็น  หนังหน้าไฟ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้...

                                                            ----------------------------------------------------

            แต่สำหรับบ้านเรานั้น...คงต้องยอมรับว่า ความพยายามที่จะไปให้ไกลเกินไปกว่า รัฐบาล หรือไปแบบ เหาะเกินลงกา นั้นมันก็ออกจะมีความเอาจริง-เอาจัง อยู่ตามสมควร คือพยายาม ยกระดับ พยายามสร้าง เงื่อนไข และ เหตุปัจจัย แม้ว่าโดยส่วนใหญ่ อาจต้องโกหก พกลม ปลิ้นปล้อน หลอกลวง ปล่อยข่าวลือ ข่าวลวง สร้างเรื่อง สร้างราว เมกข่าว สร้างข่าวอย่างชนิดหน้าดำ คร่ำเครียด มิใช่น้อย และอาจด้วยเหตุเพราะบรรดา หนูเล็กๆ-เด็กๆ ทั้งหลาย ท่านเติบโตมาจากสภาพแวดล้อม ที่ออกจะผิดแผก แตกต่าง ไปจากเดิมๆ แบบคนละเรื่อง คนละม้วน  หรือท่านเกิดและเติบโตขึ้นมาในยุคที่ ความดี ชักเริ่มลดๆ ลงไป เหลือเพียงแค่ 1 ส่วน ขณะ ความชั่ว ชักเริ่มบานปลาย ขยายตัว อาจไปถึงประมาณ 3 ส่วน คล้ายๆ ประเภท กลียุค อะไรทำนองนั้น การหันไปให้ความสำคัญกับ ของปลอม ไม่ใช่ ของจริง-ของแท้ มันจึงอาจไม่ต่างอะไรไปจาก แฟชั่น ชนิดหนึ่งก็เป็นได้...

                                                              -----------------------------------------------

            ดังนั้น...การโกหก พกลม ปลิ้นปล้อน หลอกลวง ฯลฯ มันเลยอาจได้รับการ ตอบสนอง จนอาจดูเป็นเรื่อง เป็นราว เป็นระบบและกิจการอยู่พอประมาณ แต่อย่างที่ว่าไว้แล้วนั่นแหละว่า...อะไรก็ตามที่เป็น ของปลอม ไม่ใช่ ของจริง-ของแท้ ซะอย่าง!!! มันคงไม่อาจอยู่ยั้ง ยืนยง อยู่ยง คงทน อายุการใช้งานมันออกจะ สั้นจุ๊ดจู๋ เอามากๆ ไม่ต่างไปจากดาวตก หรือผีพุ่งไต้ ที่วูบๆ วาบๆ วูบไหวไปมาเป็นคราวๆ ไป ต่างไปจากดวงดาวแท้ๆ ที่ยังคงดารดาษอยู่เต็มท้องฟ้านภากาศ ยังคงส่องสว่าง ยังเป็น สัญลักษณ์ ให้กับสิ่งต่างๆ อย่างมิมีวันผันแปรไปเป็นอื่น ความพยายาม ยกระดับ พยายามสร้าง เงื่อนไข และ เหตุปัจจัย ในลักษณะที่ว่า มันจึงออกจะยากลำบากเอามากๆ โดยเฉพาะถ้าหากบรรดาผู้มีอำนาจ หน้าที่และความรับผิดชอบ ไม่เผลอเดินไปเข้าทางเท้า  เข้าทางตีน เข้าร่องแข้ง ของผู้ที่เพียรพยายามในลักษณะนี้ แบบชนิด กิ้งกือตกท่อ กันจริงๆ...

                                                               ---------------------------------------------------------

            คือแค่หาทาง ยืนระยะ ให้ต่อเนื่อง ยาวนาน จะด้วยการปรับตัว  ปรับสภาพ หรือด้วยกรรมวิธีใดๆ ก็แล้วแต่ โอกาสที่บรรดาพวก ของปลอม หรือพวกที่ชอบทำมาหารับประทานด้วยการโกหก พกลม ปลิ้นปล้อน หลอกลวง ฯลฯ ในลักษณะต่างๆ อาจต้องหันมา กลืนกินตัวเอง หรือ รับประทานกันเอง ก็น่าจะพอเห็นๆ กันอยู่มิใช่น้อย แถมออกแรงกัด แรงฟัด แรงขย้ำระหว่างกันและกัน หนักซะยิ่งกว่าการกัด การฟัด การขย้ำ ผู้ที่ถือเป็น ฝ่ายตรงข้าม ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า ด้วยเหตุเพราะความเป็น ของปลอม ไม่ใช่ ของจริง-ของแท้ นั่นเอง หรือความที่ไม่ได้ยึดมั่นอยู่ในศีล ในธรรม ในมโนธรรม ขันติธรรม มันเลยส่งผลให้ การกัดกันเอง กลายเป็น ธรรมชาติชนิดหนึ่ง ของกลุ่มคนเหล่านี้ไปแล้วก็ว่าได้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันเลยวูบๆ วาบๆ วูบไหวไป-มา หาอะไรที่โดดเด่น เป็นสง่า เป็น ดาวค้างฟ้า แทบไม่ได้....

                                                                  ----------------------------------------------------

            อีกทั้งบรรดา หนูเล็กๆ และเด็กๆ ทั้งหลาย ท่านก็ไม่ได้เติบโตขึ้นมาแบบผู้ที่มีน้ำอด น้ำทน ไม่ได้ผ่านการเคี่ยวกรำ ผ่านความทุกข์ยากลำบากเหมือนอย่างคนรุ่นพ่อ รุ่นแม่ รุ่นปู่ รุ่นย่า ฯลฯ มากมายซักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่หนักไปทาง ฮ่องเต้น้อยๆ นั่นแหละเป็นหลัก เพียงแต่ว่า...ด้วยความก้าวหน้า ก้าวไกล ของอุปกรณ์เครื่องมือ-เครื่องไม้ ของ เทคโนโลยีสมัยใหม่ มันอาจเป็นตัวช่วยสร้าง แรงกระตุ้น อย่างค่อนข้างได้ผลกันไปเป็นพักๆ แต่ภายใต้ช่วงระยะเวลาที่ยืดยาวออกไป ภายใต้ วิถีชีวิต หรือ วิถีความเป็นมนุษย์ ที่อาจต้องแสวงหาจุดมุ่งหมายและคำตอบกันไปเป็นชาติๆ ไม่ใช่แค่เป็นวันๆ เดือนๆ หรือปีๆ โอกาสที่ ปริมาณ และ คุณภาพ ของบรรดาเด็กๆ เหล่านี้ จะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ย่อมมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้อยู่แล้วแน่ๆ...

                                                                  ---------------------------------------------------------

            ด้วยเหตุนี้...สิ่งสำคัญในการรับมือกับเชื้อโรคชนิดนี้ หรือความพยายามไปให้ไกลเกินไปกว่า รัฐบาล เกินไปกว่า บิ๊กตู่ มันจึงไม่ได้ถึงกับลึกลับ ซับซ้อน น่าเกลียด น่ากลัว มากมายจนเกินไป แม้อาจน่าเบื่อ น่ารำคาญ น่าทุเรศ อยู่ตามสมควร เผลอๆ...อาจน้อยซะยิ่งกว่าการ  กลายพันธุ์ ของเชื้อไวรัสโควิดธรรมดา ไปเป็นโควิดสายพันธุ์เดลตา  หรือแลมบ์ดา ซะด้วยซ้ำ ปัญหาอยู่ที่ว่า...การหาทางดำรง รักษา ความเป็น ของจริง-ของแท้ ความยึดมั่นอยู่ในคุณธรรม ศีลธรรมและขันติธรรม ให้มีความต่อเนื่อง ยาวนาน สม่ำเสมอ โดยไม่คิดผันแปรไปเป็นอื่น จะเป็นไปได้มาก-น้อยแค่ไหน เพียงใด นั่นเอง...

                                                                  ------------------------------------------------------------

            ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก สุภาษิตอังกฤษ...Hate inhabits  little souls. - วิญญาณที่อ่อนแอ คือที่สิงสถิตของความเกลียดชัง...”

                                                                   --------------------------------------------------------------

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"