ความร่วมมือ-ร่วมใจ...คือทางออกที่ดีที่สุด!!!


เพิ่มเพื่อน    

ยังติดเชื้อกันในระดับวันละหมื่น-สองหมื่น...แทบไม่รู้ว่าจะลดๆ ลงในระดับหลักพัน หลักร้อย หรือมีโอกาสย้อนกลับไปเหลือ ศูนย์ เหมือนเดิมๆ อีกซักเมื่อไหร่ ตอนไหน เจอกับตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในแต่ละวันช่วงหลังๆ นี้ ต้องยอมรับว่า...เล่นเอาใจแป้ว ใจหาย ปวดหัว มึนเฮด กันพอสมควรทีเดียว...
            --------------------------
    แถมแนวโน้มของการแพร่ระบาดระดับทั่วทั้งโลกในช่วงนี้...ก็ออกจะเป็นอะไรที่น่าเกลียด น่ากลัว ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เฉพาะแค่การปรับตัว ปรับสภาพ ของเชื้อโรค กลายเป็นสายพันธุ์ เดลตา (Delta) ก็ทำเอาไม่รู้กี่ต่อกี่ประเทศพูดไม่ออก บอกไม่ถูก ไปไม่เป็น กันไปเป็นแถบๆ นี่...ยังทำท่าว่าจะตามมาด้วยสายพันธุ์ แลมบ์ดา  (Lambda) และสายพันธุ์อะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะมากมาย จนบรรดาวัคซีนเทพ วัคซีนทิพย์ หรือวัคซีนใดๆ ก็ตามที ชักจะ เอาไม่อยู่ ยิ่งเข้าไปทุกที การแพร่ระบาดของท่านเชื้อไวรัสโควิดคราวนี้ เลยออกอาการคล้ายๆ ไวรัสล้างโลกอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยแม้แต่น้อย...
                                                            ------------------------------------------
    คือติดกันในระดับปาเข้าไปกว่า 200 ล้านคนเข้าไปแล้ว ถ้าว่ากันตามตัวเลขสถิติล่าสุด เมื่อช่วงวันพุธที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา หรือ 205,458,743 ราย ในระดับทั่วทั้งโลก ส่วนที่ต้องเด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึงไปแล้ว ก็ปาเข้าไปถึง 4,336,669 คนเรียกว่า...พอๆ กับจำนวนคนตายในครั้งสงครามโลกครั้งแรก เอาเลยถึงขั้นนั้น และที่ต้องติดเชื้อเพิ่มในแต่ละวัน ก็ยังคงเพิ่มกันวันละไม่น้อยกว่า 7-8 แสน หรือเกือบ 1 ล้านคน ถือเป็นตัวเลข สถิติ ที่น่าตกตะลึง พรึงเพริด มิใช่น้อย หนักหนา สาหัสไม่ต่างไปจากไข้หวัดสเปน หรือเชื้อโรคระบาดช่วงที่การแพทย์ การสาธารณสุข ยังไม่ถึงกับเจริญเต็มที่...
                                                           ----------------------------------------------
    และแน่ละว่า...ผลกระทบที่กำลังตามมาแบบติดๆ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ ย่อมหนีไม่พ้นไปจากเรื่องเงินๆ-ทองๆ เรื่องการ อดตาย หรือเรื่อง เศรษฐกิจ นั่นแหละทั่น!!! ในเมื่อบรรดาประเทศหัวรถจักรทางเศรษฐกิจ ประเทศที่เคยมีพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา จีน ยุโรป หรือญี่ปุ่น ฯลฯ ต่างออกอาการเครื่องรวน เครื่องชอร์ต เครื่องพัง อย่างเห็นได้โดยชัดเจน บรรดาประเทศเล็กๆ ไม่ว่าประเทศเศรษฐกิจใหม่ ประเทศกำลังพัฒนา หรือด้อยพัฒนา ทั้งหลาย จะไปเหลืออะไร??? โอกาสที่จะตาย...กับ...ตาย หรือไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...
                                                             -----------------------------------------------
    อันนี้นี่แหละ...ที่เลยต้องถือเป็นการ ล้างโลก การขจัดกวาดล้างอะไรต่อมิอะไรเท่าที่เห็นๆ กันอยู่ และอาจมีอันต้องได้เห็นกันต่อไป โดยจะเป็นอะไรบ้างนั้น คงต้องไปนึกๆ เอาเองก็แล้วกัน ซึ่งก็คงไม่ใช่แต่เฉพาะสังคมไทย ของหมู่เฮาชาวไทยแลนด์ แดนสยาม แต่เพียงเท่านั้น แต่ต้องเรียกว่า...ทั่วทั้งโลกนั่นแหละ ที่หนีไม่พ้นต้องเจอกับ เหตุปัจจัย อันเกี่ยวเนื่อง เกี่ยวพัน กับภาวการณ์แพร่ระบาดของท่านเชื้อไวรัสโควิด-19 มากบ้าง-น้อยบ้าง อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ โดยอะไรที่จะถูกขจัดออกไป และอะไรที่จะถูกเสกสรร ปั้นแต่ง นิรมิตขึ้นมาใหม่ ก็ยากที่จะสรุปได้ชัดเจน เพราะการคาดเดา คาดคะเน ถึงผลกระทบต่างๆ ที่กำลังตามมา ก็ยังไม่อาจจินตนาการกันได้ชัดๆ...
                                                                ----------------------------------------------
    ระบบและระเบียบทางเศรษฐกิจตามแบบ ทุนนิยม ทั้งหลาย ที่ออกจะง่อนแง่น โงนเงน ซะเหลือเกินในช่วงหลังๆ จะถูกปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ไปในทิศไหน ทางไหน ก็ยากที่จะสรุปได้ การหาทางออก ทางไป ด้วยการหันมา ร่วมมือ-ร่วมใจ ระหว่างประเทศต่างๆ ในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสและผลกระทบที่จะตามมา จะเป็นไปได้มาก-น้อยแค่ไหน หรือกลับกลายเป็นการเร่ง การก่อให้เกิดแรงกระตุ้น ที่จะหันไปสู่ สงคราม ก็ยังคิดไม่ออก-บอกไม่ถูกอยู่อีกนั่นแหละ อันเนื่องจากภาพความเป็นไปในอนาคต มันยังไม่ถึงกับตกผลึกเป็นรูป เป็นร่าง แค่เฉพาะการสิ้นสุด การยุติ ของโรคระบาดคราวนี้ ก็ยังแทบไม่รู้ว่ามันจะ จบ กันซักเมื่อไหร่ หรือยังคงต้อง เจ็บ ไปอีกถึงขั้นไหน การวิเคราะห์ สังเคราะห์ ถึงแนวโน้มใดๆ ก็ตาม มันเลยออกไปทางมึนซ์ซ์ซ์ เบลออ์อ์อ์ๆ อย่างมิอาจปฏิเสธได้เลย...
                                                                ----------------------------------------------
    สรุปรวมความแล้ว...คงไม่มีใครเก่ง ใครฉลาด ใครเหนือกว่าใคร มากมายซักเท่าไหร่ ภายใต้ฉากสถานการณ์ทำนองนี้ การด่าว่า ด่าทอ เหยียดหยาม ดูหมิ่น ดูแคลน ซึ่งกันและกัน มันจึงย่อมไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเอาเลยแม้แต่น้อย มีแต่ต้องหันมาร่วมมือ-ร่วมใจ หันมายอมรับความแตกต่าง หันมาช่วยอุ้มชูประคับประคองกันไปเท่านั้นเอง มันถึงจะพอมองเห็นทางออก ทางรอด และทางไป ได้มั่ง ไม่ว่าจะเป็นในระดับโลก ระดับประเทศ หรือระดับสังคมใดๆ ก็แล้วแต่ คงต้องหันมาให้ความสำคัญต่อการอยู่ร่วมกันโดยสันติ ต่อการแบ่งปันความสุข-ความทุกข์ ที่มันเกี่ยวโยง เกี่ยวพัน กับใครต่อใครแบบถ้วนหน้าไปด้วยกันทั้งหมด เพราะถ้ายังมัวแต่แยกเขา-แยกเรา แยกฝ่าย-แบ่งฝ่าย หรือแยกข้าง-แบ่งข้าง โอกาสที่จะตายโหง ตายห่า ไปด้วยกันทุกฝ่าย ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...
                                                               --------------------------------------
    แม้แต่ประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮาก็เถอะ!!! ไม่ฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายไม่เอารัฐบาล สุดท้าย...ต่างหนีไม่พ้นต้องถูกท่านเชื้อไวรัสโควิดลากไปรับประทาน ไม่ต่างไปจากกันและกันซักกี่มาก-น้อย แทนที่จะหันมาโค่นล้ม ทำลาย ฉวยโอกาสเล่นงานให้ต้องเละกันไปข้าง สู้หันนิรมิต สร้างสรรค์ หันมาสร้างความร่วมมือ-ร่วมใจ ในการเผชิญฉากสถานการณ์ที่มิอาจคาดเดาได้ ก่อนที่อาจต้อง แพ้ไปด้วยกันทุกฝ่าย น่าจะเหมาะกว่า เข้าท่ากว่า เป็นไหนๆ...
                                                                 ------------------------------------
    ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Kalidasa in shakuntalas... “Grief must be shared to be endured. - สำหรับความทุกข์นั้นจำต้องมีการแบ่งปัน ถึงจะสามารถแบกรับเอาไว้ได้...”.
                                                                 ----------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"