นอกสภาฯ ฮึ่มๆ!
    ในสภาฯ ก็จะเอาเหมือนกัน
    มาแน่ศึกซักฟอกรัฐบาล 
    พรรคฝ่ายค้านเอามาขายหลายรอบแล้ว ทำนองกลัวชาวบ้านจะลืม เห็นว่า ๑๔ สิงหาคมนี้ คุยกันรอบสุดท้าย เพื่อกำหนดตัวรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ 
    ตั้งไว้ ๕ บวกลบ ๑ ไม่เกินจากนี้ 
    เห็นว่าการอภิปรายครั้งนี้จะทรงพลังมากที่สุด ก็น่าจะเป็นตามนั้น เพราะสถานการณ์โควิดมันร้อนแรง 
    ได้กัดเต็มคำแน่!
    ครับ...ตัวเลขวานนี้ (๑๒ สิงหาคม) หลายประเทศในโลกต่างก็โดนโควิดสายพันธุ์เดลตาเล่นงานซะงอมพระราม
    อเมริกาอยู่ในช่วงขาขึ้นรุนแรงอีกครั้ง 
    ผู้ป่วยใหม่ เฉียด ๑.๕ แสนคน  
    เสียชีวิตก็พุ่งขึ้นกว่า ๖ ร้อยราย 
    อิสราเอลที่ใช้วัคซีน Pfizer เป็นหลักเหมือนอเมริกา ติดเชื้อเกือบหมื่น 
    ดีตรงที่เสียชีวิตไม่เยอะ แค่หลักสิบ 
    สำหรับประเทศที่ยังไม่ถูกเดลตาโจมตี ก็เตรียมตัวไว้ให้พร้อม เพราะนี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น 
    ที่เกริ่นมาเพราะซักฟอกเที่ยวนี้ ฝ่ายค้านน่าจะโจมตีประเด็นโควิดเป็นหลัก
    คนตายเยอะ
    คนป่วยแยะ
    วัคซีนน้อย 
    จะเอา Pfizer ไม่เอาวัคซีนจีน
    ทั้งหมดนี้จะถูกฝ่ายค้านรวบยอด นำไปตั้งข้อหา "รัฐบาลฆาตกร" 
    ไม่อยากให้ฝ่ายค้านไปปักใจแต่เรื่องจะเอา Pfizer ให้ได้ แต่ให้ดูข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์ และข้อมูลเหล่านี้จะออกมาเรื่อยๆ 
    "ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา" นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์เฟซบุ๊กไว้น่าสนใจ เป็นข้อมูลที่ทุกฝ่ายต้องเก็บเกี่ยว เพราะมีประโยชน์ในวันข้างหน้าแน่นอน 
    "..ข้อมูลความแตกต่างระหว่างประสิทธิภาพของวัคซีนชนิด mRNA ต่อสายพันธุ์เดลตา ทยอยออกมาเรื่อยๆ ระหว่าง Pfizer กับ Moderna คราวนี้เป็นตัวเลขที่เก็บข้อมูลที่กาตาร์ ในประชากรมากกว่า ๑.๒ ล้านคนที่ได้วัคซีนแต่ละชนิด จากรายงานการศึกษานี้ ตัวเลขประสิทธิภาพของวัคซีนต่อการป้องกันเดลตาออกมาที่
    ๕๓.๕% สำหรับ Pfizer
    ๘๔.๘% สำหรับ  Moderna
    ๕๗.๒% สำหรับวัคซีน mRNA ในภาพรวม
    ตัวเลขการป้องกันอาการหนักสำหรับ Pfizer และ Moderna แตกต่างกันอยู่ที่ ๘๙.๗% กับ ๑๐๐% คือต่างกันประมาณ ๑๐% 
    ยอมรับว่าไม่ค่อยเป็นข่าวดีสำหรับ Pfizer เท่าไหร่นะครับ 
    และยิ่งมีข่าวว่าคนไทยจะได้ Pfizer เพิ่มอีก ๑๐ ล้านโดส เลยคิดว่าตัวเลขนี้กำลังเตือนว่าเรากำลังจะวนไปที่ปัญหาเดิมอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้นะครับ..."
    เห็นทิศทางจากประเทศอื่น ไทยก็ต้องปรับตัวตามให้ทัน 
    คงต้องไปทาง Moderna แล้วครับ
    แต่...มันมีความจริงที่ต้องยอมรับเช่นกัน 
    บางคนยังคิดว่ารับมือกับสายพันธุ์อังกฤษได้ ก็ต้องรับมือกับสายพันธุ์อินเดียได้ 
    มันไม่เหมือนกันครับ และรัฐบาลหลายประเทศได้รับรู้แล้วว่า นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้่น
    สำหรับประเทศไทยวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการล็อกดาวน์ ไม่ใช่ป้องกันการระบาด เป็นแค่ชะลอการระบาด เพื่อให้ไม่ให้ระบบสาธารณสุขล่ม 
    การคาดการณ์ของ "หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์" แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ก็อยากให้นักการเมืองทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านคิดตามให้ทัน เพื่อจะได้วางแผนให้ประชาชนเสียแต่เนิ่นๆ ว่าอะไรสำคัญที่ต้องทำก่อนหลัง 
    "๑๐๐ วันข้างหน้าจะเป็น ๑๐๐ วันอันตราย จำนวนคนติดเชื้อและเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ สายพันธุ์เดลตาในประเทศไทยจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง 
    ต่อให้เรามีมาตรการล็อกดาวน์เข้มข้นแค่ไหน อยู่บ้าน ก็ไม่สามารถหยุดเชื้อได้ บ้านกลับเป็นแหล่งระบาดที่สำคัญที่สุด  จึงควรผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์บางอย่างได้บ้าง ก่อนที่เศรษฐกิจจะเสียหายมากไปกว่านี้ 
    ใน ๑๐๐ วันข้างหน้าตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ที่แท้จริงของประเทศไทยอาจเพิ่มขึ้นเป็น ๓๕ ล้านคน หมายถึงคนไทยครึ่งประเทศจะติดเชื้อ และจะมีคนไทยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก ๓ หมื่นคน 
    คนไทยฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-๑๙ เข็มแรกแล้ว ๑๖ ล้านคน ยังขาดอีก ๔๐-๔๕ ล้านคน วิธีเดียวที่จะลดจำนวนผู้ป่วยหนักเข้านอนใน รพ.และลดจำนวนคนเสียชีวิต คือการฉีดวัคซีน และต้องเร่งฉีดให้เร็วที่สุดภายใน ๑๐๐ วันข้างหน้า ไม่ใช่รอถึงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 
    โดยปูพรมฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าให้คนไทยอีก ๔๐-๔๕ ล้านคน  ฉีดวันละ ๕ แสนคน โดยให้เข็มแรกทุกคนไปก่อน เมื่อมีวัคซีนเพิ่ม ค่อยให้เข็ม ๒ ในภายหลัง
    ปัญหาสำคัญเรากำลังประสบขณะนี้ คือการขาดแคลนวัคซีนอย่างหนัก ผมเคยเขียนลงใน FB เมื่อวันที่ ๒ ก.ค.ปีนี้ เสนอให้รัฐบาลไทยเจรจาต่อรองกับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าให้ส่งมอบวัคซีนที่สั่งจองล่วงหน้าให้ประเทศไทยเร็วขึ้น แต่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะประเทศไทยสั่งจองวัคซีนล่วงหน้าน้อยและช้ากว่าประเทศอื่น 
    ผมเห็นด้วยกับ ศ.ดร.นพ.ประเสริฐ เอื้อวรากุล คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีน งดการส่งออกวัคซีนที่ผลิตที่ Siam Bioscience ให้ประเทศอื่นเป็นการชั่วคราว..."
    ครับ...ไม่ใช่เขียนเสือให้วัวกลัว แต่เตือนให้เตรียมตัว 
    สิ่งไหนที่ยังกั๊กๆ ว่าทำหรือไม่ทำดี ถึงคราวต้องทุบโต๊ะลงมือทำ เช่นการระงับการส่งออกวัคซีน
    แต่ก็ห่วงที่ฝ่านค้าน ดูจะมองทุกอย่างเป็นการเมืองมากไป 
    "สุทิน คลังแสง" บอกว่าซักฟอกเที่ยวนี้การลงคะแนนในสภาฯ ไม่สำคัญเท่าการลงคะแนนนอกสภาฯ ที่จะมีการแสวงหามติมหาชนเป็นคำตอบ 
    ฝ่ายค้านไม่ได้คาดหวังเรื่องการลงมติในสภาฯ แต่ให้ความสำคัญกับมตินอกสภาฯ มากกว่า 
    จะหมายถึงอะไร นอกจากปลุกม็อบไปหน้าสภาฯ
    ก็คงจะจริงตามที่ "หมอมนูญ" ว่าไว้ อีก ๑๐๐ วันข้างหน้า คนไทยจะติดเชื้อเพิ่มเป็น ๓๕ ล้านคน
    สายพันธุ์เดลตา ๕-๑๐ วินาทีก็ติดได้
    ๑ คน แพร่เชื้อได้ ๙ คน
    ชุมนุมเป็นพัน ยาวนานค่อนวัน เอาหน้ากากอนามัยไว้ใต้คางก็ครบสูตรครับ 
    ลองเอา ๙ คูณ ๙ สัก ๘ ครั้ง ตัวเลขออกมาเท่าไหร่
    ก็ตามนั้นแหละครับ.