เปิดใจสาว 22 เพิ่งหายป่วยโควิด กลับมาพักฟื้นที่บ้าน สุดน้อยใจถูกไล่เหมือนผีปอบ


เพิ่มเพื่อน    

เปิดใจสาววัย 22 ติดโควิดเพิ่งรักษาหายกลับมาพักฟื้นที่บ้าน แต่เจอญาติและชาวบ้านบุกไล่ สุดน้อยใจถูกไล่เหมือนเป็นผีปอบ ทั้งที่หมอบอกเชื้อตายแล้ว แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการกักตัวเคร่งครัด ขณะชาวบ้านและ อสม.ยันไม่ได้ไล่ แค่ขอให้ไปพักฟื้นที่ศูนย์ตามมติของหมู่บ้านเพื่อความสบายใจและปลอดภัยของส่วนรวม

14 ส.ค.64 - จากกรณีที่ น.ส.พรกมล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ชาวบ้านบ้านขาม ต.ร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด และเพิ่งรักษาหาย ทาง รพ. อนุญาตให้กลับมาพักฟื้นหรือกักตัวต่อที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน ได้ออกมาโพสต์ขอความเป็นธรรม เนื่องจากตอนที่เธอกลับมาพักฟื้นที่บ้าน ได้มีชาวบ้านประมาณ 20 คน ไปรุมต่อว่าและพยายามขับไล่เธอที่หน้าบ้านตามที่ปรากฎในคลิป

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังหมู่บ้านขาม ก็พบ น.ส.พรกมล ซึ่งได้กักตัวอยู่ในบ้านคนเดียว บริเวณรอบบ้านมีการนำเชือกมาขึงเอาไว้ด้านหน้ามีป้าย ที่มีข้อความระบุว่า “ห้ามเข้าใกล้ผู้ป่วย (รักษาตัวมาแล้ว)” ติดเอาไว้ด้วย

จากการสอบถาม น.ส.พรกมล ก็เล่าให้ฟังว่า ตนทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งที่ จ.สมุทรสาคร ตรวจพบเชื้อโควิด เมื่อวันที่ 29 ก.ค. จากนั้นได้ทำเรื่องเดินทางกลับมารักษาที่โรงพยาบาลสตึก ซึ่งเป็นพื้นที่บ้านเกิด ได้เข้ารับการรักษาวันที่ 1 ส.ค. และรักษาหาย เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยหมออนุญาตให้กลับมาพักฟื้นหรือกักตัวที่บ้านอีกเป็นเวลา 14 วัน โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ตนก็ทำตามคำแนะนำทุกอย่าง ตั้งแต่การแยกอยู่ในบ้านคนเดียวไม่ได้ไปปะปนหรือใกล้ชิดกับใคร ห้องน้ำก็แยกส่วนตัว และใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านทำตามที่แพทย์แนะนำทุกอย่าง

แต่เมื่อวันที่ 13 ส.ค. กลับมี อสม. กลุ่มชาวบ้าน และญาติพี่น้อง ประมาณ 20 คน มายืนอออยู่หน้าบ้านของตัวเอง พยายามกดดันและต่อว่าให้ตนเองไปกักตัวอยู่ที่ศาลากลางหมู่บ้าน ซึ่งเป็นสถานที่พักฟื้นสำหรับผู้ป่วยโควิดที่เพิ่งรักษาหาย แต่ตนก็ยืนยันว่าจะกักตัวอยู่ที่บ้านไม่ไปอยู่ที่ศาลากลางหมู่บ้าน  เพราะหมอบอกว่าตนเองสามารถมากักตัวที่บ้านได้ เพราะเชื้อตายแล้วไม่สามารถติดต่อบุคคลอื่นได้ และก่อนจะกลับมาพักฟื้นที่บ้านก็ให้แม่ไปแจ้งผู้นำชุมชน และ อสม.ในหมู่บ้านแล้ว ซึ่งตนก็พร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็เกิดการโต้เถียงกันสักพัก จากเหตุการณ์ดังกล่าวตัวเองยอมรับว่ารู้สึกน้อยใจถูก อสม. ชาวบ้านและญาติพี่น้องมาไล่เหมือนกับว่าตัวเองเป็นผีปอบ ทั้งๆ ที่เจ้าหน้าที่จาก รพ.ก็มาอธิบายให้เข้าใจแล้วว่าตนเองรักษาหายแล้วไม่สามารถแพร่เชื้อได้ แต่ชาวบ้านก็ไม่ฟังแต่ตนก็ขอใช้สิทธิกักตัวที่บ้านตัวเอง 

ด้าน น.ส.สุดารัตน์ บวมขนทด ญาติของ น.ส.พรกมล บอกว่า ทาง รพ.สต.ได้มาอธิบายให้ชาวบ้านรับฟังแล้วว่ากรณีของ น.ส.พรกมล รักษาหายแล้วเชื้อตายแล้วสามารถมาพักฟื้นที่บ้านได้ ซึ่งชาวบ้านก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ก่อนที่ผู้ป่วยจะมาได้มีมติหรือกฎของหมู่บ้านแล้วว่าใครที่ติดโควิดรักษาหายออกจาก รพ.จะต้องมาพักฟื้น หรือกักตัวอีก 14 วันที่ศูนย์พักฟื้นหรือศาลาประชาคมหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านก็เข้าใจและเห็นใจน้องว่าอาจจะเก็บกด แต่น้องก็ต้องเข้าใจส่วนรวมด้วยเช่นกันว่าเขาจะรู้สึกยังไง แต่หากพูดกันเรื่องสิทธิน้องยืนกรานจะทำแบบนี้ก็ไม่ผิด แค่ชาวบ้าน ญาติพี่น้องอยากให้ปฏิบัติตามกฎเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นทางผู้นำชุมชน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมาพูดคุยทำความเข้าใจ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้อีก

ขณะที่นางรุ่ง วาทกิ้นส์ อสม.ประจำหมู่บ้าน บอกว่า กรณีที่ปรากฏในคลิปเป็นเพียง อสม. และชาวบ้านไปพูดคุยขอร้องให้ น.ส.กรกมลไปพักฟื้นหรือกักตัวที่ศาลาประชาคมตามที่มติของหมู่บ้านจัดทำไว้รองรับผู้ป่วยโควิดที่รักษาหายแล้วต้องมากักตัว เพราะชาวบ้าน และญาติพี่น้องของผู้ป่วยเองก็ไม่สบายใจ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเชื้อยังมีหรือไม่มีถ้าเชื้อหายแล้วๆ คุณหมอจะให้มากักตัวดูอาการอีกทำไม เราก็แค่กันไว้ดีกว่าแก้ ยืนยันว่าไม่ได้ไล่แค่ไปบอกให้เขามากักตัวยังสถานที่ที่เตรียมไว้เท่านั้นเอง ซึ่งตอนนั้นเขาก็ยังอยู่ที่บ้านเพราะเขาไม่ยอมมา อสม.ก็ไม่รู้จะทำยังไงเพราะเขาไม่ยอมปฏิบัติตามกฎของหมู่บ้าน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"