หมอธีระ ประเมินสัปดาห์หน้าไทยจะมีผู้ติดเชื้อโควิดสะสม ทะลุ 1 ล้านคน


เพิ่มเพื่อน    

 

15 ส.ค. 2564 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุข้อความว่า 
สถานการณ์ทั่วโลก 15 สิงหาคม 2564...
ทะลุ 207 ล้านไปแล้ว ส่วนไทยเรานั้นจำนวนติดเชื้อใหม่ก็ยังติดอันดับท็อปเทนอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 563,363 คน รวมแล้วตอนนี้ 207,473,595 คน ตายเพิ่มอีก 8,598 คน ยอดตายรวม 4,366,048 คน
5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุด คือ อเมริกา อินเดีย บราซิล อิหร่าน และสหราชอาณาจักร 

อเมริกา ติดเชื้อเพิ่ม 70,722 คน รวม 37,435,422 คน ตายเพิ่ม 257 คน ยอดเสียชีวิตรวม 637,438 คน อัตราตาย 1.7% 

อินเดีย ติดเพิ่ม 36,127 คน รวม 32,191,954 คน ตายเพิ่ม 491 คน ยอดเสียชีวิตรวม 431,253 คน อัตราตาย 1.3% 

บราซิล ติดเพิ่ม 31,142 คน รวม 20,350,142 คน ตายเพิ่ม 919 คน ยอดเสียชีวิตรวม 568,833 คน อัตราตาย 2.8%

รัสเซีย ติดเพิ่ม 22,144 คน รวม 6,579,212 คน ตายเพิ่ม 819 คน ยอดเสียชีวิตรวม 169,683 คน อัตราตาย 2.6% 

ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 24,427 คน ยอดรวม 6,449,863 คน ตายเพิ่ม 51 คน ยอดเสียชีวิตรวม 112,612 คน อัตราตาย 1.8%

อันดับ 6-10 เป็น สหราชอาณาจักร ตุรกี อาร์เจนติน่า โคลอมเบีย และสเปน ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น 
แถบอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย หลายต่อหลายประเทศติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น 

หากรวมทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่ายังมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 86.26 ของจำนวนติดเชื้อใหม่ทั้งหมดต่อวัน 

แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน 
แถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ยกเว้นอิหร่านติดเพิ่มหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง 
อิสราเอลนั้นกำลังเผชิญการระบาดระลอก 4 ติดเพิ่มกว่า 5,000 คนต่อวัน สูงกว่าระลอกแรก 8 เท่า แต่จำนวนการเสียชีวิตพอๆ กับระลอกแรก น่าจะเป็นผลจากวัคซีนที่สามารถลดการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตได้

เวียดนาม เมียนมาร์ เกาหลีใต้ ติดกันหลักพัน กัมพูชา ลาว และออสเตรเลีย ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ไต้หวัน และฮ่องกง ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

...วิเคราะห์สถานการณ์ไทยเรา

คาดว่าอีกราว 4-5 วัน จะมียอดติดเชื้อสะสมแซงอิสราเอลขึ้นเป็นอันดับที่ 34 ของโลก
และจะมียอดติดเชื้อเกิน 1,000,000 คนในสัปดาห์หน้า 

สิงหาคมปีนี้ ต่างจากสิงหาคมปีที่แล้วราวฟ้ากับเหว 

สิงหาคมปี 2020 ไม่มีคนเสียชีวิตเพิ่มเลย ในขณะที่ปี 2021 เพียงครึ่งเดือน เสียชีวิตไปแล้วกว่าสองพันคน
เป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากนโยบายและมาตรการในการจัดการควบคุมป้องกันโรคที่ต่างกัน และจากนโยบายและมาตรการจัดการเรื่องวัคซีน ที่ทำให้ต่างจากผลลัพธ์ที่เห็นในประเทศอื่นๆ ที่ควบคุมการระบาดได้ดีและใช้วัคซีนป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูง

ดังนั้น จึงจำเป็นที่ประชาชนจะต้องเรียกร้องให้มีการแสดงความรับผิดชอบต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะจากวงนโยบายและวงวิชาการที่เกี่ยวข้อง ทั้งในเรื่องความเจ็บป่วย ชีวิตที่สูญเสีย ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นต่อบุคลากรทางการแพทย์และประชาชน ตลอดจนผลกระทบต่อการใช้ชีวิต และต่อเศรษฐกิจและสังคมมากมาย 

ตบท้ายวันสุดสัปดาห์ด้วยการอัพเดตความรู้จากงานวิจัยที่น่าสนใจจากทั่วโลก

หนึ่ง "ผู้ติดเชื้อเอชไอวี หากมีระดับเม็ดเลือดขาวซีดีโฟร์น้อยกว่า 250 ตัวต่อซีซี อาจมีระดับภูมิคุ้มกันในน้ำเลือด (แอนติบอดี้) หลังฉีดวัคซีน mRNA เข็มแรกต่ำกว่าคนปกติได้"

Nault L และคณะได้ทำการศึกษาในกลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวี 106 คน เปรียบเทียบกับบุคลากรทางการแพทย์ 20 คนที่ไม่ได้ติดเชื้อ ที่มอนทรีอัล ประเทศแคนาดา โดยตรวจระดับแอนติบอดี้ตอนเริ่มต้น และหลังฉีดวัคซีนเข็มแรกไป 3-4 สัปดาห์ ทั้งนี้คนที่สูงอายุ จะมีแนวโน้มที่มีระดับแอนติบอดี้ต่ำลงด้วย 

จากการศึกษานี้คงจำเป็นต้องมีการติดตามผลจากการฉีดวัคซีนเข็มที่สอง ว่าจะสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้มากขึ้นได้เพียงใด นานเท่าใด จะต้องมีเข็มกระตุ้นหรือไม่ ดังนั้นจึงต้องไม่ประมาท โดยควรมีการป้องกันตัวหลังฉีดวัคซีนอย่างเคร่งครัด

สอง "ล็อคดาวน์จิ๊บๆ แบบซ้ำๆ จะทำให้คนรู้สึกโดดเดี่ยวและขาดสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ"

Yamamoto T และคณะ ศึกษาในประชากรที่ญี่ปุ่นจำนวน 7,893 คน ติดตามข้อมูลในเดือนพฤษภาคม 2020 และกุมภาพันธ์ 2021 พบว่าการล็อคดาวน์แบบอ่อนๆ แต่ทำซ้ำๆ ส่งผลกระทบทำให้เกิดปัญหาเรื่องความรู้สึกโดดเดี่ยว และขาดสังคมของประชากรมากขึ้น และพบว่าการล็อคดาวน์ส่งผลต่ออาการทางจิตเวช เช่น ซึมเศร้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่เสี่ยง อาทิ กลุ่มคนอายุ 18-49 ปี ประชากรเพศหญิง ประชากรที่ยากจน 

ผลการศึกษาดังกล่าว มีประโยชน์สำหรับแต่ละประเทศรวมถึงไทยเรา ทำให้ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น หากตัดสินใจแบบเหนียมๆ เจ็บแต่ไม่มีทางจบ ยืดเยื้อเรื้อรังยาวนาน จะเกิดผลกระทบต่อประชาชนอย่างมาก ในขณะที่บางประเทศอย่างนิวซีแลนด์ จะตัดสินใจล็อคดาวน์อย่างจริงจังและรวดเร็ว ปูพรมตรวจ แยกกักตัวและนำเข้าสู่ระบบดูแลรักษา แต่จบได้ระยะสั้น จึงเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างจากที่เราเป็นอยู่
สาม "สายพันธุ์เดลต้าระบาดในเมือง Guangdong พบว่าแพร่เชื้อให้แก่กันในช่วงก่อนจะเกิดอาการถึง 73.9%"

Kang M และคณะ จากจีน ศึกษาลักษณะการแพร่เชื้อติดเชื้อในผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 167 คน ระหว่างพฤษภาคมถึงมิถุนายน 2021

พบว่ามีระยะเวลาฟักตัว (ช่วงเวลาที่ติดเชื้อจนถึงเริ่มมีอาการ) ประมาณ 5.8 วัน โดยเฉลี่ยแล้ว 73.9% (67.2-81.3%) ของผู้ติดเชื้อน่าจะเกิดจากการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อก่อนที่จะมีอาการ  

ผลการศึกษานี้ตอกย้ำให้เราเห็นความสำคัญในการป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด สม่ำเสมอ ทั้งเรื่องการใส่หน้ากาก รักษาระยะห่างจากคนอื่นๆ พบคนให้น้อยลงสั้นลง 

สำหรับประชาชนอย่างพวกเราทุกคน ขอให้มีกำลังใจ ป้องกันตนเองและครอบครัวอย่าให้ติดเชื้อ หมั่นสังเกตอาการตนเองและสมาชิกในครอบครัว หากมีอาการคล้ายหวัด ให้นึกถึงเรือ่งโควิด-19 เสมอ รีบแยกตัวออกจากคนในครอบครัว และหาทางตรวจคัดกรองโรค 

ใส่หน้ากากนะครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า สำคัญมาก
ด้วยรักและห่วงใย
สวัสดีวันอาทิตย์ครับ

 


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"