นพ.อุดม คชินทร  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ประชุมหารือเรื่องการจัดตั้งกระทรวงใหม่ร่วมกับพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) และหน่วยงานด้านการวิจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้บ่อสรุปความชัดเจนแล้วว่า กระทรวงใหม่ที่จะเกิดขึ้นจะใช้ชื่อ กระทรวงอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม เพราะหากดูความเป็นมาเราต้องปฏิรูปอุดมศึกษาก่อน เนื่องจากอุดมศึกษาเป็นฐานสำคัญ ซึ่งจะประกอบไปด้วยการทำวิจัย การสร้างองค์ความรู้ และนวัตกรรม เพื่อต่อยอดเป็นผลผลิตของประเทศ อีกทั้งกระทรวงใหม่ที่เกิดขึ้นจะครอบคลุมศาสตร์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ หรือมนุษยศาสตร์  รวมถึงเทคโนโลยี  และที่ประชุมยังได้มีมติตั้งคณะทำงานเตรียมการจัดตั้งกระทรวงอุดมฯ ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และ พล.อ.ประจิน เป็นที่ปรึกษา 

โดยคณะทำงานดังกล่าวจะทำหน้าที่ดูภาพรวมเกี่ยวกับจัดตั้งกระทรวงอุดมฯ และทำความเข้าใจกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในเรื่องนี้ พร้อมกับดู พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งกระทรวงใหม่ทั้งหมด ซึ่งเราก็จะรวมกระทรวงวิทย์ฯ ไปด้วยในการจัดตั้งกระทรวงใหม่ เพราะกระทรวงวิทย์ฯ ก็มีหน่วยงานในสังกัดอยู่ 2 กรม ที่เหลือจะเป็นองค์กรมหาชน  รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานวิจัยอย่างสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนวิจัย (สกว.) อย่างไรก็ตาม คณะทำงานชุดดังกล่าวจะดำเนินการเรื่องทั้งหมดให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ตุลาคมนี้ เพื่อให้ทันเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก่อนวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561
              
“ที่เราต้องเร่งดำเนินการ เพราะมีกรอบระยะเวลาหากไม่เร่งเสนอ สนช.ก่อนวันที่ 30 พฤศจิกายนอาจจะไม่มีการพิจารณาพ.ร.บ. เนื่องจากในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น โดยธรรมเนียมปฏิบัติ สนช. จะไม่มีการพิจาณากฎหมายในช่วง 3 เดือนก่อนการเลือกตั้ง  ทั้งนี้ในหลักการเบื้องต้นทุกคนไม่ข้อขัดข้อง เพราะมองกันแล้วเหมือนเป็นข้อดีที่มาเสริมกัน คือ มหาวิทยาลัยก็ทำวิจัยและนวัตกรรมกว่า ร้อยละ 60 และการมีหน่วยงานมาช่วยวางนโยบายให้ทุนวิจัยในกระทรวงเดียวกันก็เป็นเรื่องดีที่เราจะเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกัน”รมช.ศธ. กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการพูดคุยทำความเข้าใจแล้วมีเสียงคัดค้านและไม่เห็นด้วยจะกระทบต่อการจัดตั้งกระทรวงอุดมญ หรือไม่ นพ.อุดม กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่น่าห่วง เพราะมีการวางแนวทางไว้ 2 แนวทาง คือ ผลักดันให้เกิดกระทรวงอุดมศึกษาอย่างเดียวไปก่อน เพราะ พ.ร.บ.อุดมศึกษา พ.ศ..ที่เราดำเนินการมาก่อนหน้านี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว  หรือ การผลักดัน พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม เพื่อให้ผลักดันให้มีกระทรวงใหม่ก่อน และกำหนดในบทเฉพาะกาลให้ไปดำเนินการส่วนที่เหลือภายใน 90 วัน ซึ่งตนมั่นใจว่ากระทรวงอุดมฯ จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน