'ชาวซาไก' หวั่นนักท่องเที่ยวแพร่โควิด พาครอบครัวออกจากป่าฉีดวัคซีน


เพิ่มเพื่อน    

27 ส.ค.64 - ที่โรงเรียนบ้านใหม่(วันครู 2503) หมู่ที่ 3 บ้าน กม. 36 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเบตง และ เจ้าหน้าที่อบต.อัยเยอร์เวง ออกหน่วยบริการฉีดวัคซีนเคลื่อนที่เชิงรุก  พร้อมประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนในพื้นที่มาฉีดวัคซีน เดินหน้าปูพรมฉีดวัคซีนในพื้นที่ทั้ง 11 หมู่บ้าน โดยมีเป้าหมายในการฉีดวัคซีนให้ได้หมู่บ้านละ 70% ซึ่งได้กำหนดเป้าหมาย ในวันนี้ จำนวน 600 คน ทั้ง 11 หมู่บ้าน โดยทาง อบต.อัยเยอร์เวงได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนทุกรูปแบบเพื่อให้คนในพื้นที่มาฉีดวัคซีนตามเป้าที่วางไว้โดยในวันนี้ใครที่มาฉีดวัคซีนจะได้มุ้งคนละ 1 หลังทันที พร้อมลุ้นรางวัลอีกมากมายจากผู้ใหญ่ใจดีทั้งหลาย เช่น พัดลม เตาแก๊ส เป็นต้น ซึ่งภาพรวมในการฉีดวัคซีนในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา รวมภาพในการฉีดวัคซีนกว่า 76% แล้ว

ทั้งนี้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้เร็วที่สุด หลังจากนั้นจะได้เร่งเปิดเมืองกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ หลังสถานการณ์โควิด-19 อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมาเป็นระยะเวลานานร่วมกว่า 2 ปี ทำให้ อบต.อัยเยอร์เวง ได้มีการประชาสัมพันธ์มาตรการเชิงรุกในทุกหมู่บ้านให้มีการฉีดวัคซีนตามเป้าที่ตั้งไว้ รวมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ให้มาทำการฉีดวัคซีน 

ขณะที่กลุ่มโอรังอัสรี หรือกลุ่มลาซะ ที่อาศัยอยู่ในป่าดงดิบฮาลา-บาลา หมู่ 9 บ้านนากอ ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ที่มีสมาชิกร่วมกันทั้งหมดกว่า 50 คน กลัวคนเมืองจะนำเชื้อโควิด-19 มาแพร่กระจายสู่กลุ่มโอรังอัสรี หรือกลุ่มลาซะจึงได้หอบลูกหลานมาทำการฉีดวัคซีน เพราะที่ผ่านมานักท่องเที่ยวมักจะเดินทางเข้าไปชมทับที่อาศัยอยู่ในป่าพร้อมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกในการเข้ามาเยี่ยมกลุ่มโอรังอัสรี หรือกลุ่มลาซะ

ด้านนายเอก ยังอภัย ณสงขลา นายอำเภอเบตง  กล่าวว่า กลุ่มโอรังอัสรี หรือกลุ่มลาซะ อาศัยอยู่ที่หมู่ 9 บ้านนากอ ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เป็นชุมชนที่มีสมาชิกจำนวน 50 คน 6 ครัวเรือน ประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้างถางป่า ถางสวน ตัดหญ้า กรีดยาง ซึ่งบางคนสามารถพูดภาษามาลายูได้คล่องแคล่ว และสามารถพูดภาษาไทยกลางได้ในระดับที่สื่อสารกันได้

สำหรับแนวทางการช่วยเหลือกลุ่มชาติพันธุ์มานิ (โอรังอัสลี) โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการขับเคลื่อน และบริหารจัดการในรูปแบบของนิคมสร้างตนเอง สนับสนุนด้วยการจัดสรรที่ดิน ชั่วคราว ให้สามารถมีพื้นที่ทำกิน เลี้ยงดูตนเองและประชากรในกลุ่มได้ สนับสนุนให้เข้าถึงการบริการของรัฐด้านต่าง ๆ ด้วยการออกบัตรรับรองสถานะเพื่อยืนยันตัวตนชั่วคราว ซึ่งมีจำเป็นอย่างยิ่ง ที่กลุ่มเหล่านี้ควรจะได้รับการดูแลสิทธิและสวัสดิการขั้นพื้นฐาน เพื่อการดำรงชีวิต เช่น การเข้าถึงการศึกษาที่ให้ตรงตามความเหมาะสมของกลุ่ม การเข้าถึงวัคซีนที่จำเป็นแก่เด็ก รวมถึงการบริการด้านสาธารณสุข เป็นต้น ซี่งในวันนี้กลุ่มชาติพันธุ์มานิ จำนวน 10 คนได้ทยอยออกมารับการฉีดวัคซีนก่อน ส่วนคนที่เหลือก็จะตามมาฉีดจนครบทั้งเผ่า

ขณะที่จุดตรวจ กม.23ได้มีการตรวจเข้มผู้ที่เดินทางเข้าพื้นที่อำเภอเบตง ต้องมีใบรับรองการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม ถึงจะเข้าเมืองเบตงได้ ขณะที่สถานการณ์covid-19 ในอำเภอเบตง พบผู้ป่วยรายใหม่ 3  ราย เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน รวมผู้ป่วยสะสม 585รายเสียชีวิตสะสม รวม 6 ราย


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"