บิณฑบาตบนเกาะแมนฮัตตัน โดย พระศุภชัย ศุภาจาโร


เพิ่มเพื่อน    

       มหานครนิวยอร์ก นครที่เต็มไปด้วยตึกสูงใหญ่ระฟ้า นครที่ไม่เคยหลับใหล ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจการค้า การศึกษา ศิลปะ และเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ต้องสยบยอมให้กับมหันตภัยโควิด-19 มาเป็นเวลา 1 ปีครึ่ง เมืองเงียบเชียบจนดูไม่ต่างจากเมืองร้าง ผู้คนล้มตายลงไปเป็นจำนวนมาก แต่หลังจากเริ่มมีการฉีดวัคซีนขนานใหญ่ตั้งแต่ต้นปี บัดนี้มหานครนิวยอร์กได้กลับสู่สภาวะปกติอีกครั้ง

            ชาวไทยเข้ามาประกอบสัมมาอาชีพอยู่ในนิวยอร์กเป็นจำนวนไม่น้อย และมีบางสิ่งติดมาเป็นเงาตามตัว บางสิ่งที่ว่านี้ดูประหนึ่งเป็นสมบัติและมรดกที่บรรพบุรุษให้มา เรียกได้ว่าเป็นทรัพย์ภายใน ทรัพย์นี้เรียกว่า “ศรัทธา” นั่นก็คือศรัทธาในพระพุทธศาสนาแบบเถรวาท

            แน่นอน เมื่อมีผู้เชื่อย่อมมีผู้สอน มีผู้รับย่อมมีผู้ให้ อนุเคราะห์อุปถัมภ์ซึ่งกันและกัน ร้อยรวมลงในความหมายของพุทธบริษัท 4 ภิกษุสงฆ์ ภิกษุณี อุบาสก และอุบาสิกา คือผู้ธำรงไว้ซึ่งบวรพระพุทธศาสนา จึงเป็นเหตุให้พระสงฆ์ในอดีตได้รับนิมนต์มาอยู่จำวัดต่างบ้านต่างเมือง ด้วยแรงศรัทธาของอุบาสก อุบาสิกา ที่คอยดูแลความเป็นอยู่ของพระสงฆ์องคเจ้า

            หลายท่านอาจไม่ทราบว่าพระในต่างแดนมีความเป็นอยู่อย่างไร มีการบิณฑบาตไหม การบิณฑบาตจะเหมือนหรือแตกต่างจากเมืองไทยอย่างไร

            ก่อนอื่นผู้เขียนขออนุญาตเล่าถึงพระสงฆ์ท่านหนึ่งเสียก่อน ท่านผู้นี้เคยเดินเผยแผ่พุทธศาสนาและรณรงค์สันติภาพให้กับโลก นามว่า “หลวงพี่หมี” หรือ พระสุธรรม ฐิตธฺมโม จากวัดธารน้ำไหล สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ผู้เป็นศิษย์สายหลวงพ่อพุทธทาส โดยนำปณิธานเรื่องสันติภาพของหลวงพ่อพุทธทาสมาเป็นเข็มทิศยุทธศาสตร์ในการเดินจาริกธรรม ด้วยมีความถนัดในการเดินตั้งแต่ก่อนมาบวชแล้ว

            เมื่อ 2 ปีก่อน พระสุธรรมทำความเพียรจาริกธรรม เดินจากแผ่นดินทิศตะวันตกสุดของสหรัฐอเมริกา คือเมืองซานตามอนิกา มลรัฐแคลิฟอร์เนีย มหาสมุทรแปซิฟิก ไปจนถึงแผ่นดินตะวันออก จดมหาสมุทรแอตแลนติกที่มหานครนิวยอร์ก และไปจบที่อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ (Statue of Liberty) รวมระยะทางร่วม 3,012 ไมล์ หรือเกือบ 5 พันกิโลเมตร ใช้เวลา 121 วัน

            ผู้เขียนได้มีโอกาสไปร่วมเดินบันทึกประวัติศาสตร์เพื่อสร้างสันติภาพจากเมืองชิคาโก จนถึงปลายทาง ประทับใจและเห็นถึงความมุ่งมั่นของท่านอย่างแท้จริง มีสื่อมวลชนในเมืองต่างๆ ตลอดเส้นทางนำเสนอข่าวจนรับรู้ไปทั่วสหรัฐอเมริกา ทำให้พระสงฆ์ชาวไทยเป็นที่รู้จักของผู้คนเป็นอันมาก ได้รับการยกย่องจากพี่น้องอเมริกันและชาวต่างชาติ

            พรรษานี้ พระสุธรรมได้รับความเมตตาจาก “พระเดชพระคุณพระกิตติญาณวิเทศ” เจ้าอาวาสวัดวชิรธรรมประทีป โดยการประสานงานจากอุบาสิกา “ไพลิน คำศิริ” นักธุรกิจที่มาอาศัยอยู่ที่นี่กว่า 40 ปี นิมนต์ให้มาจำพรรษา

            ขออนุญาตกล่าวถึงข้อมูลของวัดแห่งนี้พอสังเขป วัดนี้ตั้งอยู่เลขที่ 75 California Rd, Mt Vernon, NY 10552, United States อยู่ตอนกลางๆ ของเกาะแมนฮัตตัน ด้านหลังติด Westchester Muslim Center เป็นศูนย์รวมพี่น้องชาวมุสลิม ซึ่งอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ห่างไปประมาณ 300 เมตร เป็นโรงเรียนประจำท้องถิ่นชื่อ Mt Vernon High School โดยรวมแล้วที่ตั้งของวัดอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะแก่การเผยแผ่ศาสนา และสอนวิปัสสนากรรมฐาน

            วัดนี้เป็นวัดไทยแห่งที่ 2 ของมหานครนิวยอร์ก (วัดแห่งแรกชื่อวัดพุทธศาสน์ อยู่ในเขต Bronx, New York ตั้งขึ้นก่อน 1 ปี) มีพระสงฆ์ชุดแรกเข้ามาอยู่จำพรรษาเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2518 พระครูวชิรธรรมโสภณ จากวัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร กรุงเทพมหานคร เป็นผู้ตั้งชื่อวัดว่า “วชิรธรรมประทีป” ทั้งนี้ได้รับคำแนะนำจากท่านเจ้าคุณ “พระธรรมโกศาจารย์” วัดมหาธาตุ ให้จัดหาที่ตั้งวัดและดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย อ่านรายละเอียดของวัดเพิ่มเติมได้ที่ https://sites.google.com/site/worldthaitemple/wad-wchirthrrm-pthip-nkhr-niwyxrk---vajiradhammapadip-temple

            ขอเท้าความย้อนหลังกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2520 “หลวงพ่อชา” พระโพธิญาณเถร จากวัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ผู้เป็นดังพระสุปฏิปันโนที่มีลูกศิษย์ฝรั่งเป็นจำนวนมาก ท่านพูดภาษาอังกฤษไม่ได้สักคำ แต่มีฝรั่งข้ามน้ำข้ามทะเลมาถวายตัวเป็นศิษย์ เมื่อครั้นได้เดินทางไปโปรดญาติโยมตามคำเชิญของนายจอร์จ ชาร์ป ที่ประเทศอังกฤษ หลวงพ่อชาได้พาลูกศิษย์ ได้แก่ พระสุเมโธ พระเขมธัมโม และสามเณรชิณวโร ออกเดินบิณฑบาต ในย่าน Hampstead ใจกลางกรุงลอนดอน

            มีประโยคหนึ่งที่หลายๆ คนเคยได้ยิน พระเดชพระคุณหลวงพ่อชาได้เอ่ยเป็นปริศนาธรรมให้อยู่คู่กับโลกนี้ เมื่อมีลูกศิษย์เกรงจะทำผิดกฎหมายและไม่มีคนใส่บาตร ท่านบอกว่า “อย่าเอาอาหารสิ ไปบิณฑบาตเอาคน เอาคนเสียก่อน ขนมมันมากับคน”

            ครั้งนั้นเมื่อหลวงพ่อชาพาลูกศิษย์เดินออกบิณฑบาต ทางลูกศิษย์ที่เป็นนักกฎหมายได้ทำหนังสือชี้แจงถึงอธิบดีกรมตำรวจให้เข้าใจ โดยอธิบายความถึงกิจกรรมนี้ว่าเป็นธรรมเนียมของพระพุทธศาสนา ซึ่งที่ประเทศอังกฤษมีพระราชบัญญัติว่าด้วยความจรจัด การเดินขอรับอาหารเช่นนี้เข้าข่ายผิดกฎหมาย กิจกรรมนี้จึงเป็นสิ่งใหม่ในประเทศอังกฤษ มีค่าปรับประมาณ 400 ปอนด์ ในปี พ.ศ.2520 แต่ทุกอย่างก็ลงตัวเมื่อทนายได้ให้ความเห็นแก่ทางตำรวจจนเป็นที่พอใจ ประหนึ่งด้วยอำนาจของพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริงที่ทำให้อธิบดีกรมตำรวจเข้าใจให้ดำเนินกิจกรรมได้

            สมัยที่พระสุธรรมเป็นฆราวาส ท่านก็เป็นศิษย์คนหนึ่งของหลวงพ่อชา ด้วยเหตุปัจจัยนี้เอง พระสุธรรมซึ่งในอดีตเป็นนักกฎหมายย่อมทราบดี จึงนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติในนครนิวยอร์ก ผู้เขียนเองได้ทราบถึงปณิธานอันมุ่งมั่นของท่านมานานก่อนที่จะมาจำพรรษาว่าจะทำกิจบิณฑบาตในมหานครนิวยอร์กให้เกิดขึ้น

            นอกจากนี้พระสุธรรมยังเคยมาจำพรรษาที่ประเทศอังกฤษเมื่อหลายปีก่อน ได้ออกเดินรับบิณฑบาตในสวนสาธารณะใจกลางกรุงลอนดอน ร่วมกับ “พระมหาเทวะประภาส” พระหนุ่มจากจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมคณะสงฆ์วัดมหาธาตุ คิงส์บรอมลี จึงเป็นงานที่ทำตามครูบาอาจารย์และพระวินัยอย่างแท้จริง

            เช้าวันเสาร์ เวลา 08.30 น. หลังจากทำวัตรเช้า พระสุธรรมมีนัดกับ “โยมสุทิน และโยมศรินทร์ทิพย์ ช่วยประดิษฐ์” สองสามีภรรยาผู้เคยเป็นอุปัฏฐากเมื่อครั้งพระสุธรรมจาริกเพื่อสันติภาพเมื่อ 2 ปีก่อน อาสามาทำกิจด้วยความศรัทธาอีกหน เมื่อทุกอย่างพร้อม โยมสุทินขับรถออกจากวัดไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ระยะทาง 20 ไมล์ มุ่งหน้าสู่ Union Square Holiday Market ซึ่งเป็นตลาดนัดวันหยุดสุดสัปดาห์ในสวนสาธารณะ Union Square ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะแมนฮัตตัน ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที

            เวลา 10.00 น. คณะพระสงฆ์ชาวต่างชาติที่ได้นัดหมายกันไว้เพื่อร่วมเดินบิณฑบาต เดินทางมาถึง มี Bhante Sumittra (ภันเต สุมิตรา) ชาวศรีลังกา Bhante Suddhaso (ภันเต สุทธาโส) ชาวอิตาลี และ Ayya Soma (อายา โสมา ภิกษุณี) ชาวอิตาลี ซึ่งบางท่านเป็นพระสายปฏิบัติ สาขาของวัดหนองป่าพง เดินทางมาจากวัดป่าที่ใช้ชื่อว่า Empty Cloud เป็นวัดพุทธในเขต West Orange นิวเจอร์ซีย์ มลรัฐที่อยู่ใกล้กับนิวยอร์ก ห่างกันเพียงแม่น้ำฮัดสันไหลกั้น

            วันหยุดสุดสัปดาห์ของที่นี่ผู้คนจะตื่นสายกว่าปกติ ใกล้เที่ยงจึงเป็นเวลาที่ผู้คนเริ่มออกมาทำกิจกรรม หาซื้อของกิน บ้างก็มาเดินออกกำลังกาย มีการจัดโซนสวนสาธารณะไว้อย่างเป็นสัดเป็นส่วน เมื่อได้เวลา 10.30 น. คณะสงฆ์ออกเดินวนรอบสวนสาธารณะ Union Square จำนวน 2 รอบ ระยะทางหนึ่งรอบประมาณ 1 ไมล์ (1.6 กิโลเมตร) เมื่อเริ่มออกเดินก็จะมีญาติโยมที่ทราบข่าวมายืนรอตามจุดต่างๆ ภายในสวนสาธารณะเพื่อใส่บาตร

            ในบรรดาญาติโยมชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาร่วมกิจกรรม “ตักบาตรเอาบุญ ทำบุญเอาธรรม ได้พระธรรมนำชีวี” มี “โยมไพลิน คำศิริ” และ “ท่านชายอ้น-วัชรเรศร วิวัชรวงศ์” รวมอยู่ด้วย ซึ่งท่านชายอ้นเคยร่วมเดินรณรงค์สันติภาพในช่วงท้ายกับพระสุธรรมเมื่อ 2 ปีก่อน รวมถึงคราวที่พระสุธรรมและคณะสงฆ์เดินจาริกธรรมไปถึงอินเดีย “ท่านชายอ้น” พร้อมคณะจากนิวยอร์กและเมืองไทยก็ได้ไปร่วมเดินเพื่อเข้าไปกราบสถานที่ตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยา ด้วยความศรัทธาเลื่อมใส

            ขณะเดินบิณฑบาต พระสงฆ์ห่มผ้าเป็นปริมณฑล แต่ใส่รองเท้าเดินเพื่อไม่ให้ถูกตีความเสมือนว่าเป็นพวกขอทาน เพราะในสหรัฐก็มีกฎหมายว่าด้วยความจรจัดร่อนเร่

            ตั้งแต่เริ่มพรรษานี้มา แต่ละสัปดาห์จะมีญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาตั้งใจมาใส่บาตรประมาณ 20-30 คน ทั้งมีการสอบถามจากผู้พบเห็นที่เป็นชาวต่างชาติ ว่าการกระทำแบบนี้คืออะไร โยมชาวไทยก็ได้ให้อรรถาธิบายด้วยความยินดี มีชาวอเมริกันท้องถิ่นให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก และต้องถือว่าการบิณฑบาตในมหานครนิวยอร์กในที่สาธารณะเพิ่งเคยเกิดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งแรก

            คณะสงฆ์ใช้เวลาเดินประมาณ 40 นาทีก็แล้วเสร็จ กลับมาในสวนหย่อมที่ถูกจัดให้เป็นสถานที่ฉันและลานธรรม ญาติโยมนำเสื่อมาปูและมีการนำเอาธงชาติไทยมาติดประดับ เมื่อจัดเตรียมทุกอย่างพร้อม พระสงฆ์ก็กล่าวปกิณกะธรรมเพื่อให้ข้อคิดญาติโยม และกล่าวสัมโมทนียกถา ให้พร และฉันภัตตาหารในบาตรเพื่อฉลองศรัทธาสาธุชน ฝ่ายญาติโยมก็ร่วมรับประทานอาหาร จากนั้นจึงได้สนทนาธรรมและโอภาปราศรัยกันด้วยความเป็นกันเอง

            สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและประเพณีอันดีงามในต่างแดน อันเป็นธรรมที่อาศัยซึ่งกันและกันให้เกิดความสว่างไสว ดังพระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ

                นั่นคือ “การให้ธรรม ย่อมชนะการให้ทั้งปวง”.

 

 

 

แกลลอรี่


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"