จับตาศึกซักฟอก รัฐบาลเขย่ากันเอง


เพิ่มเพื่อน    

เสียงระฆังเวทีมวยรัฐสภาดังขึ้น ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล วางกรอบอนุญาตให้ถลกหนังวันนี้เป็นวันแรก และตามแผนจะเปิดให้อภิปรายจนถึงวันศุกร์ที่ 3 ก.ย. และนัดวันเสาร์ที่ 4 ก.ย.ลงมติไว้วางใจหรือไม่
    รายชื่อที่จะถูกอภิปรายประกอบด้วย 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 2.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 3.นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
    4.นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 5.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ 6.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
    ทั้งพรรคแกนนำรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล โดนกันถ้วนหน้า
    สำหรับ รัฐมนตรีที่มาจากพรรคประชาธิปัตย์ รอบนี้หวยออกที่ เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้วยข้อกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลที่ไร้ภูมิปัญญาและไร้ความสามารถในการบริหารงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำให้การบริหารงานด้านการเกษตรล้มเหลวทั้งระบบ มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต เข้าไปมีส่วนได้เสียในการเรียกรับผลประโยชน์จากโครงการของหน่วยงานที่ตนกำกับดูแล สร้างความเสียหายแก่รัฐจำนวนมาก ไม่ปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ปกป้องรักษาสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จงใจเบียดบังเอาทรัพยากรของชาติไปให้พวกพ้องตนเอง ปล่อยปละละเลยให้เกิด การแพร่ระบาดของโรคในสัตว์ ทั้งวัวและสุกร จนส่งผลเสียหายแก่เกษตรกรจำนวนมาก ขณะที่มาตรการชดเชยเยียวยาแก่เกษตรกรไม่ทั่วถึงและเพียงพอ หากปล่อยให้บริหารราชการแผ่นดินต่อไปจะเกิดความเสียหายแก่รัฐและเกษตรกรไม่หยุดยั้ง”
    ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเที่ยวนี้ไม่น่าจะมีปัญหา คนในพรรคยืนยันเป็นเสียงเดียวกัน ไม่เป็นห่วง เพราะมั่นใจตอบคำถามได้แน่นอน และไม่จำเป็นต้องตั้งองครักษ์ อย่างไรก็ตามทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อถึงเวลาจริง “รัฐมนตรีเฉลิมชัย” จะชี้แจงได้ดี เคลียร์ชัดทุกประเด็นหรือไม่
    โดยเฉพาะประเด็นที่ เพื่อไทย แพลมไว้เมื่อครั้งพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ วาระสอง ที่เพิ่งผ่านมาหมาดๆ ซึ่ง “อุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม” ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย อภิปรายไว้ตอนหนึ่งว่า “งบประมาณของกระทรวงเกษตรฯ จำนวนมหาศาลนั้นมุ่งเน้นไปที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ที่ขึ้นชื่อว่าฝนแปดแดดสี่ ได้รับงบมหาศาล ขณะที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลางได้รับงบประมาณเล็กน้อย กระทรวงเกษตรฯ เอาสมองอะไรมาคิด หรือ จ.ประจวบคีรีขันธ์คือประเทศไทย จะนำข้อมูลไปอภิปรายไม่ไว้วางใจ อย่านำเอางบประมาณไปผูกพันกับพรรคพวกตัวเอง ขอให้ไปคิดทบทวน อย่าไร้ประสิทธิภาพ ไร้วุฒิภาวะ ขอให้ทำงานอย่างมีระบบ”
    ข้อสอบฝ่ายค้านอาจจะรั่วถึงฝ่ายรัฐบาลแล้ว และรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายก็อาจจะเตรียมข้อมูลสำหรับการชี้แจงไว้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน ส่วนจะรอดหรือจะร่วงในสายตาประชาชน คือทักษะการสื่อสารของรัฐมนตรีแต่ละคน
    ไฮไลต์สำคัญอีกเรื่องคือ การชิงดี ชิงคะแนนของพรรคแกนนำรัฐบาล ถ้ายังจำกันได้รอบที่แล้วก็มีเรื่องทำนองนี้ รอบที่แล้ว “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้คะแนนรั้งท้าย โดยได้รับคะแนนไว้วางใจ 258 คะแนน น้อยที่สุดในบรรดารัฐมนตรีที่ถูกซักฟอก
    ครั้งนี้ก็คล้ายๆ กัน แก๊งป่วนหน้าเดิมช็อปปิ้งพรรคเล็กเทคะแนนให้รัฐมนตรีบางคน ส่วนรัฐมนตรีคนไหนที่ไม่ต้องการก็ไม่เทคะแนนให้ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้คะแนนไว้วางใจน้อย ส่งสัญญาณกดดันไปยังนายกฯ เพื่อให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี
    เมื่อสแกนรายชื่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ พบว่า บางคนเคยถูกอภิปรายเมื่อครั้งที่ผ่านมาแล้ว ได้แก่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” เคยได้คะแนนไว้วางใจมากที่สุด 275 คะแนน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 272 คะแนน “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” 268 คะแนน และ “สุชาติ ชมกลิ่น” 263 คะแนน
    ฉะนั้น ต้องจับตาการลงมติในรอบนี้ผลจะออกมาเป็นอย่างไร
    แต่กระนั้น การนำผลคะแนนมากดดันนายกฯ เพื่อให้ปรับ ครม.ช่างเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี ปัจจัยหลักที่จะทำให้ขาเก้าอี้เสนาบดีสั่นคลอนคือ ใบเสร็จของฝ่ายค้านที่จะนำมาเปิดโปงรัฐมนตรีแต่ละคนในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ต่างหาก ถ้าหลักฐานมัดแน่น รัฐมนตรีเป็นใบ้ ชี้แจงไม่ได้ ขาดศรัทธาจากประชาชนส่วนใหญ่นี่ล่ะที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล หาใช่เกมกดดันอันเป็นกระพี้แต่อย่างใด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"