ปัญหาปราบเซียนที่กำลังตามมา


เพิ่มเพื่อน    

ไทยโพสต์/ท่านขุนน้อย/ฉบับอังคารที่ 31 ส.ค. 64    คลายล็อกเที่ยวนี้!!!...เห็นทีอาจต้องฉวยโอกาสไปทำ หัตถการ ตั้งแต่ช่วงต่ำกว่าเอวลงไปกันมั่งแล้ว คือเจอกับการแพร่ระบาดของท่านเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อเนื่องกันมาเป็นปีๆ หวิดๆ จะครบ 2 ปีเข้าไปแล้ว ย่อมหนีไม่พ้นที่จะต้องเมื่อยแข้ง เมื่อยขา เมื่อฝ่าตีนกันบ้างเป็นธรรมดา แม้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกระป๋ง กระปู๋ เอาเลยแม้แต่น้อย...
   ---------------------------------------
    การที่ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละวัน...เริ่มลดๆ ลงมาบ้าง วันละพันคน สองพันคน ก็ยังดี เลยทำให้ทางการ รัฐบาล หรือ ศบค. ท่านอาจเริ่มๆ คิดจะ คลายล็อก กันมั่งแล้ว เพื่อไม่ให้ผู้คนอาจถึงขั้นต้อง อดตาย แทน ป่วยตาย หรือเพื่อช่วยให้เกิดการเยียวยา ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่า มาถึงบัดนี้ ถึง ณ ขณะนี้ ค่อนข้างเป็นอะไรที่น่าเกลียด น่ากลัว มิใช่น้อย เผลอๆ...อาจไม่น้อยกว่าการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด เอาเลยก็ว่าได้ คือไม่เพียงแต่ให้ก่อให้เกิดการ เจ๊ง แบบชนิดระเนระนาด แต่ยังก่อให้เกิดภาระหนี้สิน แบบชนิดอ่วมอรทัยกาญจนชูศักดิ์ กันพอสมควรทีเดียว...
  ---------------------------------------
    พูดง่ายๆ...แค่ดูจากตัวเลข หนี้ครัวเรือน เพียงอย่างเดียว ก็อาจถึงขั้น ผงะ ตามสำนวนพาดหัว ไทยโพสต์ เอาง่ายๆ คือมันชักทะลุฟ้า ทะลุแก๊ส ยิ่งกว่าม็อบพวกเด็กแว้น เด็กนรก ไปแล้วไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า หรือปาเข้าไประดับ 80-90 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีเอาเลยถึงขั้นนั้น และถ้าหากยัง ล็อก กันต่อไปเรื่อยๆ โอกาสที่จะ ตาย...กับ...ตาย หรือ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต โดยเด็ดขาด ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ และอันนี้นี่เอง...ที่อาจถือเป็นตัว ท้าทาย ต่อฝีมือ ความสามารถ ในการดูแล-บริหารจัดการของรัฐบาล ได้มากซะยิ่งกว่าฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น หรือฝ่ายม็อบ ด้วยกันทั้งสิ้น...
        ------------------------------------
    คือบรรดาฝ่ายต่างๆ ดังที่กล่าวไปแล้วนั้น...ส่วนใหญ่มักจะหนักไปทางวืดๆวาดๆ ฟืดๆ ฟาดๆ แค่สามารถเด้งเชือก กระชากตัวเองออกมาจากมุม ก็อาจพอกลับมาเต้นย็อกๆ แย็กๆ กลางเวที ไปตามเรื่อง ตามราว หรือตามสไตล์ได้โดยไม่ยาก แต่สำหรับ ข้อเท็จจริง หรือความเป็นไปทางเศรษฐกิจนี่สิ!!! แต่ละดอก...แต่ละดอก ล้วนพุ่งเข้าสู่กระโดงคางไปด้วยกันทั้งนั้นแถมความเดือดร้อน ลำเค็ญ ความทุกข์ยากลำบากกันในคราวนี้ มันออกจะต่างไปจากครั้ง  ต้มยำกุ้ง อย่างเห็นได้ชัดเจน หรือออกจะหนักกว่า แผ่ซ่านกว้างไกลซะยิ่งกว่า ไม่ใช่กระจุกอยู่แต่เฉพาะพวกเศรษฐีนักเล่นหุ้น เหมือนอย่างครั้งก่อนๆ แต่อาจถึงขั้นถือเป็น ทุกข์ของแผ่นดิน เอาเลยก็ว่าได้...
 -------------------------------------
    และเพียงแค่การระดมบรรดา เจ้าสัว ทั้งหลาย มานั่งประชุม สุมหัว รวมตัว โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานอยู่หัวโต๊ะ แล้ว ซิงเกิลคอมมานด์ ข้ามหน้า ข้ามตา ข้ามกระทรวงต่างๆ แบบเดียวกับ ศบค. อะไรทำนองนั้น เผลอๆ...อาจ เอาไม่อยู่  หรือไม่ถึงกับง่าย อย่างที่เคยคิดๆ คาดๆกันมาโดยตลอด แม้สิ่งเหล่านี้จะถูกนำมาพัฒนาจนกลายมาเป็น ยุทธศาสตร์ชาติ ระดับ 10 ปี 20 ปี ที่ยังแทบไม่รู้ว่าจะเวิร์ก-ไม่เวิร์ก หรือไม่? อย่างไร? เพราะงานนี้...มันคงจะหันไปพึ่งพา หันไปใช้บริการแต่เฉพาะ บุคลากรทางธุรกิจ เพียงอย่างเดียวล้วนๆ ไม่น่าจะได้ เนื่องจากความพังพินาศ ความฉิบหาย วายวอด มันออกจะแผ่ซ่าน ซึมลึก ไปถึงระดับล่าง แบบชนิดถ้วนหน้าไปด้วยกันทั้งหมด...
    ----------------------------------
    หรือเผลอๆ...อาจต้อง ปรับวิธีคิด  ปรับพื้นฐานทางยุทธศาสตร์กันแบบใหม่หมด ต้องหันมาระดมบรรดา ปราชญ์ชาวบ้าน กันแทนที่เอาเลยก็ไม่แน่ ไม่ก็อาจต้องใช้อำนาจที่นอกเหนือไปจากความเป็น ซิงเกิลคอมมานด์ หรือแม้แต่อำนาจใน ระบบราชการ ที่แทนที่จะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ให้ลุล่วงลงไปได้ตามความคาดหมาย ดันกลับกลายเป็น อุปสรรค ไปซะยังงั้น!!! ดังนั้น...ดี-ไม่ดี อาจต้องหันมาอาศัยความเชื่อมโยง ผูกพัน แบบชาวบ้านๆ แบบระหว่างระดับสูงกับระดับล่าง ที่เคยมีมาแต่เก่าก่อน อาจพอให้ คำตอบ ที่เหมาะสม สอดคล้องกับข้อเท็จจริง กับสภาพความเป็นไปทางธรรมชาติ ได้ดีกว่า เหมาะกว่า ก็เป็นได้...
         ---------------------------------------
    สรุปรวมความแล้ว...งานนี้ ต้องเรียกว่า งานหิน หรืองานประเภท ปราบเซียน เอาเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อไหร่ที่มันลุกลาม บานปลาย กลายไปเป็นอีกงาน หรือกลายเป็น งานการเมือง จนได้ อันนี้นี่แหละ...ที่จะแก้ยาก แก้เย็น ไม่ว่าจะรายใดต่อรายใด มีสิทธิ์กลายสภาพไปเป็น ลิงแก้แห ได้ด้วยกันทั้งสิ้น เพราะภายใต้แนวทางการแก้ปัญหาตาม สูตรเดิมๆ คงต้องยอมรับว่า สุดท้าย...มันยังคงนำไปสู่ภาวะ รวยกระจุก-จนกระจาย แบบชนิดแทบไม่มีโอกาสเลี่ยงไปเป็นอื่น และภาวะเช่นนี้นี่เอง...ที่ออกจะเป็น อันตราย เอามากๆ!!! สำหรับ ความเปลี่ยนแปลง ที่กำลังจะมาถึง...
           ---------------------------------
    ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Kalidasa in Shakuntala (อีกครั้ง)... “Grief must be shared to be endured. - ความทุกข์ ต้องมีการแบ่งปัน ถึงจะสามารถแบกรับเอาไว้ได้...”.
                                                                 ---------------------------------------------------------------
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"