'เต้น'โยนโควิดต้นเหตุยกระดับชุมนุมไล่บิ๊กตู่ไม่ขึ้น


เพิ่มเพื่อน    

5 ก.ย.64-ที่บริเวณสี่แยกอโศก เวลา 16.00 น. แกนนำเครือข่ายไล่ประยุทธ์(อ.ห.ต.) นำโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายสมบัติ บุญงามอนงค์  นัดหมายผู้ชุมนุมมาร่วมแสดงพลังขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ ปรากฎว่า ก่อนการชุมนุม ด้วยสภาพอากาศที่มีฝนตกโปรยปรายตลอดทั้งวัน ทำให้มีผู้มาร่วมชุมนุมอย่างบางตา ก่อนการชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ทองหล่อ ได้แจ้งประกาศเตือน การชุมนุมกีดขวางการจราจร ขัดต่อพรบ.โรคติดต่อ ขอให้ยุติการชุมนุม โดยนายณัฐวุฒิ ที่เข้าไปเจรจาระบุว่า ขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ การชุมนุมของเราเป็นไปอย่างสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ ได้ประกาศเวลาเริ่มและเวลาเลิกชุมนุมอย่างชัดเจน การชุมนุมครั้งนี้จัดเวที ขยับเข้ามาเพื่อไม่ให้กระทบการจราจร ส่วนความกังวลเรื่องโรคติดต่อ ได้ให้ผู้ชุมนุมพกแอลกอฮอล์ และอยู่ในพื้นที่เปิดโล่ง ไม่แออัด ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความปลอดภัยให้ประชาชนด้วย  

จากนั้นนายณัฐวุฒิ ให้สัมภาษณ์ว่า ชวนประชาชนมาประกาศจุดยืน ไม่ยอมรับสิ่งเกิดขึ้นในสภาฯ ตลอดเวลาพล.อ.ประยุทธ์ มีอำนาจ และช่วงอภิปราย ปรากฎชัด กลไกลสภา ถูกเหยียบย่ำไม่เหลือแล้ว จนมีกระแสข่าวนายกฯใช้กล้วย เพื่อจะเอาชีวิตรอดทางการเมือง แม้พล.อ.ประยุทธ์ จะกล่าวอ้าง ผ่านความเห็นสภาฯให้ทำหน้าที่ต่อไป แต่สำหรับประชาชนยืนยัน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่นายกฯอีกต่อไป เราจะชุมนุมเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เมื่อชวนประชาชนมาแสดงพลังกลางท้องถนน ยอมรับว่ามีความกังวลเรื่องโรคระบาด ที่เป็นข้อจำกัดในการชุมนุม การปักหลักค้างแรม หรือพี่น้องต่างจังหวัดจะเข้ามาในกทม.ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม คงยังทำไม่ได้ ดังนั้นการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์บริเวณสี่แยกอโศกหลังจากวันนี้ จะมีการปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากขึ้น นายสมบัติ บุญงามอนงค์ จะปักหลักตรงนี้ ทุกวันในตอนเย็น ส่วนตน จะเคลื่อนขบวนคาร์ม็อบ ที่มีจุดนัดหมายแยกอโศก แต่ไม่ว่าจะเริ่มจากตรงไหน จะเริ่มในเวลาสี่โมงเย็น เสร็จสิ้นเวลาสองทุ่ม โดยรถที่ผ่านเส้นทางนี้ ให้กดแตรยาว เพื่อแสดงออกทางสัญลักษณ์ขับไล่พล.อ.ประยุทธ์  

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า สำหรับการนัดหมายชุมนุมใหญ่ขอเวลาทำการบ้านให้ชัดเจนอีกครั้ง ตอนนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างสองฝ่าย นายกฯดิ้นสุดชีวิต ถึงขนาดใช้กล้วย ส่วนการโค่นล้มพล.อ.ประยุทธ์ พวกผม จะพยายามอย่างสุดความสามารถเช่นกัน เราไม่รู้ว่ารัฐจะตอบโต้อย่างไร ต้องสู้กันไป แก้เกมกันไป การชุมนุมของประชาชน อาจจะล้มรัฐบาลไม่ได้ แต่เชื่อว่า ครั้งนี้สถานการณ์ไม่เหมือนครั้งอื่น เมื่อมีการไม่ยอมรับอำนาจพล.อ.ประยุทธ์ ขยายตัวเป็นกระแสสูงอยู่ตลอดเวลา หากเรามุ่งมั่น ยืนหยัด มุมานะอดทน พลังเหล่านี้ จะก้าวพ้นโรคระบาด โดยเราจะทำอย่างต่อเนื่อง แต่จะไม่ประกาศว่า เมื่อไหร่จะเผด็จศึก หรือเป็นสงครามครั้งสุดท้าย

“พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้รับการยอมรับแม้แต่แกนนำ ส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐ เหตุที่เกิดขึ้น คงเป็นเพราะภาวะการนำพล.อ.ประยุทธ์ ถดถอย หลังจากนี้ไป คงไม่อาจเดินหน้าไปอย่างราบรื่น คนเมื่อผิดใจกันแล้ว เหยียบตาปลากันแล้ว ขบวนการไหนจะโค่นล้มประยุทธ์ ต้องข้อหาพยายามฆ่าทางการเมืองไปแล้ว แม้จะประคับประคองกันอย่างไร คงไม่สนิทใจอยู่ดี อาจมีความเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลในระยะใกล้ หากเปลี่ยนแปลง คงจะทำให้สถานการณ์คุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ ส่วนความสัมพันธ์ 3ป. เมื่อดูความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น รอดตา พล.อ.ประวิตร ได้จริงหรือ เพิ่งมาทราบว่ามีความเคลื่อนไหวไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จริงหรือ อย่าว่าแต่ตนตั้งข้อสังเกตุ เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ ก็คงตั้งคำถามเช่นกันแม้ไม่ใช่เรื่องง่ายล้มรัฐบาล แต่สนิมเกิดเนื้อในตน แรงพลังประชาชนข้างนอก จะเป็นตัวหนุนส่ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนจุดเดือดต่ำ เมื่อโดนอย่าง2-3วันมานี้ คงจะติดอยู่ในใจ เช่นเดียวกับคนอยู่ในพรรค คงจะเสียวสันหลัง เมื่อเกิดความไม่ไว้วางใจ คงจะเกิดการหักล้างกัน เราคงได้เห็นอะไรแปลกๆ นับจากนี้เป็นต้นไป”  

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"