หน้าที่และความรับผิดชอบ


เพิ่มเพื่อน    

ก็น่าจะได้เวลา เดินหน้า กันต่อ...ส่วนจะเดินอย่างไร? แบบไหน? แบบก้าวไปข้างหน้าก้าว-สองก้าว แล้วถอยหลังกลับมาตั้งต้นใหม่ อีกซักสี่ก้าว-ห้าก้าว หรือเดินแล้วขาซ้ายดันไปสะดุดขาขวา หัวคะมำคว่ำหน้าชนิดไม้จิ้มฟันแทงเหงือกดันเสือกตาย อันนั้น...คงต้องไป จินตนาการ กันเอาเองก็แล้วกัน...
              ---------------------
    แต่เอาเป็นว่า...แม้ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจเที่ยวนี้ไปได้ แต่โดยบุคลิก บารมี ของผู้นำรัฐบาลอย่างท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ก็คงไม่ถึงกับ สง้างาม (สง่างาม) กันซักเท่าไหร่นัก รังสี รัศมี ที่เคยเปล่งประกาย แม้อาจไม่ถึงขั้น หมองคล้ำ แต่ก็น่าที่จะซีดเซียว เจือจาง ลงไปมิใช่น้อย ลมที่เคยเล็ดลอดผ่านช่องระบายลมผ่าน อันเป็นอะไรที่เคยสามารถสูดกลิ่นมาดามหอมชื่นใจได้เสมอๆ โดยเฉพาะสำหรับบรรดาพวก  ติ่งๆ ทั้งหลาย มาบัดนี้...น่าจะออกไปทาง ฉุนไปนิด หรืออาจ แสบจมูก จนเกินไป ถ้าหากยังมัวสูดแล้ว-สูดเล่า ดมแล้ว-ดมเล่า โดยไม่ได้พินิจพิจารณาให้เหมาะสม สอดคล้อง ไปกับฉากสถานการณ์ใหม่ๆ ที่ออกจะยากเย็น แสนเข็ญ ยิ่งเข้าไปทุกที...
             ------------------------
    คือการเดินในแบบไม่ได้คิดจะเหลียวหน้า-เหลียวหลัง มองไปข้างๆ มองไปรอบๆ ให้ถ้วนๆ ถี่ๆ ก็เรียกว่า...เล่นเอาหวิดเสร็จคุณพี่ โทนี่-โทนาฟ หวิดต้องเอา แป้งมัน มาทาหน้า ทาตา กลายเป็นตัวตลก เป็นตัวละครคนหน้าขาว เอาเลยก็ไม่แน่ โดยเฉพาะเมื่อ คะแนนไว้วางใจ หล่นไปอยู่อันดับ รองบ๊วย ขณะที่ คะแนนไม่ไว้วางใจ สูงเป็นอันดับหนึ่งกว่าใครเพื่อน อันนี้...ต้องถือเป็นการ ส่งสัญญาณ บางอย่าง ที่คงต้องเก็บไปนั่งคิด นอนคิด ตีลังกาคิด กันประมาณ 2 รอบ 3 รอบ เป็นอย่างน้อย เพราะถ้าหากจะเปลี่ยนมาเหลียวหน้า-เหลียวหลัง เหลียวมองไปรอบๆ ก็คงหนีไม่พ้นที่จะเห็นแต่ ผลประโยชน์ ของบรรดาพวก นักการเมือง ที่พร้อมจะแลกเปลี่ยนและต่อรอง ไม่ว่าในพรรค-นอกพรรค ไปด้วยกันทั้งสิ้น...
                        ----------------------
    แต่ถ้าไม่คิดจะเหลียวมองแบบเดิมๆ ตั้งหน้า-ตั้งตามองฟ้า มองขึ้นสู่เบื้องบนลูกเดียวเท่านั้น โอกาสที่จะสะดุดหัวแม่ตีนตัวเอง หรือโอกาสขาซ้ายจะไปขัดกับขวา ย่อมมีความเป็นไปได้เสมอๆ โดยเฉพาะถ้าหากเป็นการมองในแบบไม่ได้ เข้าถึง และ เข้าใจ ต่อความสัมพันธ์ของ ฟ้า-ดิน อันเป็นกฎเกณฑ์ทางธรรมชาติ ที่ดำรง คงอยู่ นับจากโลกนี้ได้อุบัติขึ้นมา อีกทั้งยังเป็นตัวควบคุมและบังคับทุกๆสรรพสิ่ง ให้ต้องเป็นอยู่และเป็นไปในแบบ... ด้วยเหตุเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเป็นไป หรือเป็นไปตามกฏอิทัปปัจจยตา-ปฏิจจสมุปบาท มาโดยตลอดนั่นเอง...
-------------------------------------------------
    สรุปเอาเป็นว่า...เมื่อถึง ณ ขั้นนี้ อะไรต่อมิอะไรมันคงไม่ถึงกับคล่องแคล่ว คล่องคอ ต่อไปอีกแล้ว จะอาศัยสูตรเดิมๆ หรือสไตล์เดิมๆ ในการเผชิญหน้ากับปัญหาและคู่ต่อสู้ในแต่ละช่วง แต่ละโอกาส แบบกรรมวิธีประเภทเด้งเชือก ฉากหลบ กระชากตัวเองออกมาจากมุม แล้วเต้นย็อกๆ แย็กๆ เอาขาเขี่ยไป-เขี่ยมา ฯลฯ มันคงไม่น่าจะ เวิร์ก ชนิดสามารถอยู่ต่อ หรืออยู่ยาวว์ว์ว์ ได้เป็นปีๆ สองปี-สามปี หรือยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีก็แล้วแต่ มีแต่ต้องเดินหน้าแทงเข่า ปล่อยหมัดฮุกซ้าย ฮุกขวา สวิงซ้าย สวิงขวา เตะซ้าย-ต่อยซ้าย เตะขวา-ต่อยขวา แบบไม่คิดจะรามือ ราตีนใดๆ อีกต่อไป อันนั้นนั่นแหละ...ที่อาจพอช่วยให้การรวบรวมคะแนนตอนครบยก ไม่ถึงกับเป็นอะไรที่ ลำบากใจกรรมการ มากมายจนเกินไป...
                                                              --------------------------------------
    ไม่งั้น...ยุบสภาเมื่อไหร่ เลือกตั้งเมื่อไหร่ โอกาสที่จะเสร็จคุณพี่ โทนี่-โทนาฟ ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ ถึงจะมีวุฒิสมาชิกอยู่ในกุงเกงใน หรือกระเป๋ากุงเกง ถึง 250 พระหน่อก็เถอะ เพราะโดย สภาพของปัญหา นับจากนี้เป็นต้นไป มันมีแต่จะกลุ้มรุม จะบดขยี้ ผู้ที่เอาแต่เต้นมา-เต้นไปอยู่กลางเวที ชนิดมีแต่ ตาย...กับ...ตาย หรือ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต เอาเลยก็ไม่แน่!!! พูดง่ายๆ ว่า...โดยสภาพความเป็นไปของปัญหาที่ออกจะหนักหนา สาหัส เอามากๆ ภายในอนาคตเบื้องหน้า ย่อมต้องก่อให้เกิด ปวงชน หรือ มวลชน ในแบบที่ท่านอดีตปรมาจารย์ นักคิดและนักทฤษฎีชาวอิตาลี นิโคโล แมคเคียวเวลลี ท่านเคยให้คำจำกัดความเอาไว้ทำนองว่า... “คนทั่วไปนั้นเป็นเพียงคนธรรมดาๆ ซึ่งมักถูกครอบงำโดยความต้องการในปัจจุบัน เสียจนกระทั่ง...ผู้หลอกลวง...สามารถพบคนที่...พร้อมจะให้หลอกลวง...ได้เสมอๆ” นั่นเอง...
                                                                  ------------------------------
    การ เดินหน้า ด้วยกรรมวิธี เต้นย็อกๆแย็กๆ เอาขาเขี่ยไป-เขี่ยมา ตามสไตล์เดิมๆ ของผู้นำรัฐบาลอย่างท่านนายกฯ บิ๊กตู่ นับแต่นี้เป็นต้นไป จึงไม่เพียงแต่อาจก่อให้เกิด อันตราย ต่อตัวตนของตน ดังที่หวิดๆ จะ เสร็จมัน ในคราวอภิปรายไม่ไว้วางใจเที่ยวนี้เท่านั้น แต่ยังมีสิทธิ์ลุกลาม บานปลาย ไปถึงสิ่งที่ถือเป็น เครือข่ายป้องกันทางสังคม ในรูปแบบต่างๆ จนอาจนำมาซึ่งความล่มสลาย การแพ้ไปด้วยกันทุกฝ่ายเอาเลยก็ไม่แน่ ด้วยเหตุนี้...จะเดินหน้ากันด้วยวิธีใด? แบบไหน? อย่างไร? มันถึงจะเหมาะ จะสอดคล้องกับความเป็นไปของฉากสถานการณ์ ในแต่ละช่วง แต่ละระยะ จึงถือเป็นสิ่งสำคัญเอามากๆ ไม่ใช่แต่เฉพาะการอยู่-การไปของ บิ๊กตู่ รายเดียวเท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลต่อชาติบ้านเมืองโดยรวมได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์โดยเฉพาะถ้ายังมัวแต่เต้นย็อกๆ แย็กๆ เอาขาเขี่ยไป-เขี่ยมา แบบเดิมๆ อีกต่อไป....
                                                                 ------------------------------------
    ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Stephen W. Comiskey (อีกครั้ง)... “You can delegate authority, but not responsibility. – คุณสามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นทำแทนได้ แต่มอบความรับผิดชอบไม่ได้...”
                                                                  ------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"