'หมอธีระ'ห่วงตัวเลขโควิดพุ่งปลายเดือน! ผลพวงคลายล็อก


เพิ่มเพื่อน    

6 ก.ย. 64 - รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สถานการณ์ทั่วโลก 6 กันยายน 2564... เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 423,578 คน รวมแล้วตอนนี้ 221,515,593 คน ตายเพิ่มอีก 6,588 คน ยอดตายรวม 4,581,259 คน

5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุดคือ อินเดีย สหราชอาณาจักร อเมริกา อิหร่าน และมาเลเซีย  

อเมริกา ติดเชื้อเพิ่ม 34,665 คน รวม 40,803,589 คน ตายเพิ่ม 362 คน ยอดเสียชีวิตรวม 666,219 คน อัตราตาย 1.6% 

อินเดีย ติดเพิ่ม 39,521 คน รวม 33,027,136 คน ตายเพิ่ม 218 คน ยอดเสียชีวิตรวม 440,785 คน อัตราตาย 1.3% 

บราซิล ติดเพิ่ม 12,915 คน รวม 20,890,779 คน ตายเพิ่ม 266 คน ยอดเสียชีวิตรวม 583,628 คน อัตราตาย 2.8%

รัสเซีย ติดเพิ่ม 18,645 คน รวม 7,012,599 คน ตายเพิ่ม 793 คน ยอดเสียชีวิตรวม 187,200 คน อัตราตาย 2.7% 

สหราชอาณาจักร ติดเพิ่ม 37,011 คน ยอดรวม 6,978,126 คน ตายเพิ่ม 68 คน ยอดเสียชีวิตรวม 133,229 คน อัตราตาย 1.9% ด้วยอัตราการติดเชื้อใหม่แต่ละวันเช่นนี้ สหราชอาณาจักรจะแซงรัสเซียขึ้นเป็นอันดับ 4 ของโลกได้ในอีก 3-4 วัน

อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส ตุรกี อาร์เจนติน่า อิหร่าน และโคลอมเบีย ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น 

แถบอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย หลายต่อหลายประเทศติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น 

หากรวมทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่ามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 91.53 ของจำนวนติดเชื้อใหม่ทั้งหมดต่อวัน

แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน 

แถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ยกเว้นอิหร่านติดเพิ่มหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง 

ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม และญี่ปุ่น ติดเพิ่มกันหลักหมื่น

ส่วนเมียนมา อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ติดกันหลักพัน กัมพูชา ลาว และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกง และไต้หวัน ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

...สำหรับสถานการณ์ของไทยเรา จำนวนเสียชีวิตใหม่เมื่อวานนี้ 224 คน สูงเป็นอันดับ 10 ของโลก

แม้จำนวนติดเชื้อใหม่ที่รายงาน 15,452 คนนั้นจะเป็นอันดับ 11 แต่ต้องตระหนักว่าไม่ได้รวมจำนวนคนที่ตรวจ ATK เป็นผลบวกอีกเกือบ 5 พันคน ซึ่งหากรวมก็จะพบว่าจะพุ่งไปเป็นอันดับที่ 7 ของโลกเลยทีเดียว นอกจากนี้จำนวนการตรวจคัดกรองโรค ณ ปัจจุบันก็ลดลงกว่าเดือนก่อนประมาณ 21.6% ดังที่เคยวิเคราะห์มาก่อนหน้านี้ 

ดังนั้นจึงสะท้อนว่าสถานการณ์การระบาดของเรายังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และกระจายไปทั่ว

การปลดล็อกตั้งแต่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ในขณะที่จำนวนติดเชื้อแต่ละวันยังระดับหลักหมื่นเช่นนี้ ย่อมมีโอกาสสูงที่จะเกิดผลกระทบตามมาอย่างแน่นอน โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนนี้เป็นต้นไป ดังนั้นจึงต้องระมัดระวัง ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด ใช้ชีวิตอย่างมีสติ

...กล่องทรายนั้น กำลังเห็นผลระยะสั้น ที่มาในรูปแบบจำนวนติดเชื้อใหม่ และผลกระทบต่อระบบการดูแลรักษาในพื้นที่ สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ผลกระทบในระยะยาว เนื่องจากความจำเพาะด้านภูมิประเทศ และลักษณะการดำเนินชีวิตและรูปแบบธุรกิจค้าขายและบริการต่างๆ 

ทางเลือกที่จะปกป้องถิ่นฐานนั้น ขึ้นอยู่กับว่าจะตัดการระบาดให้ได้หรือไม่ โดยมีเวลาจัดการในช่วงเดือนนี้

แต่หากตัดวงจรการระบาดไม่ได้ หรือไม่เลือกดำเนินการ ทางเลือกที่พอทำได้คือ การลงทุนขยายศักยภาพระบบบริการตรวจคัดกรองโรคอย่างทั่วถึงและถาวร รวมถึงการระดมสมองเพื่อปรับระบบการใช้ชีวิตและการดำเนินธุรกิจค้าขายและบริการในรูปแบบที่เน้นความปลอดภัย ลดความเสี่ยงในแง่จำนวนคน จำนวนครั้งในการติดต่อพบปะหรือสัมผัส ระยะห่างระหว่างกัน และระยะเวลาการทำธุรกรรมให้สั้นลง

คงต้องเอาใจช่วยให้ดีขึ้นโดยเร็ว สำหรับประชาชนอย่างพวกเราทุกคน ขอให้มีกำลังใจ ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด ใส่หน้ากากนะครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า สำคัญมาก เลี่ยงการกินดื่มในร้านอาหาร ศูนย์อาหาร โรงอาหาร ซื้อกลับจะปลอดภัยกว่า.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"