'น.อ.ทองย้อย' ชี้พระอ้างปรับตัวเพื่ออยู่รอด ถ้าไม่มีหลักจะเป็นตัวเร่งให้พระศาสนาอันตรธานเร็วขึ้น


เพิ่มเพื่อน    

8 ก.ย.64 - นาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย ปราชญ์ชาวพุทธ อดีตผู้อำนวยการกองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ดีกรีเปรียญธรรม 9 ประโยค โพสต์เฟซบุ๊กเผยแพร่บทความเรื่อง "พระศาสนาอันตรธาน (๑)" มีเนื้อหาดังนี้ ผมเขียนเรื่อง “กลองอานกะ” เพื่อชวนให้คิดถึงความอันตรธานของพระศาสนาในอนาคต

https://www.facebook.com/tsangsinchai/posts/2922906527803065

https://www.facebook.com/tsangsinchai/posts/2925007740926277

ชวนให้คิดถึงความอันตรธานของพระศาสนา เพราะได้เห็นแนวคิดแนวปฏิบัติของชาวพุทธ-โดยเฉพาะชาวพุทธที่เป็นผู้นำ ชาวพุทธที่เป็นผู้นำในสังคมไทยก็คือพระสงฆ์ ชาวบ้านประพฤติผิดศีลธรรม เช่น เสพสุรา ฆ่าสัตว์ ก็ทำให้ศาสนาเสื่อม แต่ไม่มีใครรุมประณาม เนื่องจากเห็นกันว่าเป็นวิถีชาวบ้าน แต่ถ้าพระประพฤติผิดพระธรรมวินัย จะถูกรุมประณามว่า-ทำให้ศาสนาเสื่อม นี่คือข้อยืนยันว่า-ชาวพุทธที่เป็นผู้นำ-ซึ่งหมายถึงผู้นำทางศาสนา-ในสังคมไทยก็คือพระสงฆ์

ผมเห็นว่าเวลานี้พระสงฆ์กำลังพยายามจะปรับตัว ด้วยข้ออ้างที่ฟังดูสำคัญมาก คือ-เพื่อให้พระศาสนาอยู่รอด คำว่า “เพื่อให้พระศาสนาอยู่รอด” นั้น ตัวชี้วัดก็อยู่ที่พระสงฆ์ คือถ้าพระสงฆ์อยู่รอดก็หมายถึงพระศาสนาอยู่รอด หลายๆ เรื่องที่ปรับตัวก็คือ การใดที่ห้ามทำ พระสงฆ์สมัยก่อนท่านไม่ทำ แต่พระสงฆ์สมัยนี้ทำ และการใดที่ต้องทำหรือควรทำ พระสงฆ์สมัยก่อนท่านตั้งใจทำ ไม่ละเลย แต่พระสงฆ์สมัยนี้ท่านละเลยไปเสียบ้างก็มี

ทั้งการทำและการไม่ทำนี้ ล้วนมีข้ออ้างสำคัญ คือสังคมเปลี่ยนไป พระต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด เรื่องปรับตัวนั้นสำคัญมาก ถ้าไม่มีหลักหรือถ้าไม่ยึดหลักไว้ให้มั่นคง จะกลายเป็นตัวเร่งให้พระศาสนาดำเนินไปสู่ความอันตรธานเร็วขึ้น หรืออย่างน้อยที่สุดก็จะเป็นตัวจักรหรือฟันเฟืองตัวหนึ่งในกระบวนการที่ทำให้พระศาสนาเริ่มอันตรธาน ถัดจากนั้นมา ผมก็เขียนอีกเรื่องหนึ่ง คือ “การปรับตัวเพื่อความอยู่รอด”

https://www.facebook.com/tsangsinchai/posts/2927565930670458

หลังจากเรื่อง “การปรับตัวเพื่อความอยู่รอด” ซึ่งจบลงด้วยการเชิญชวนให้ช่วยกันศึกษาเรื่อง “อันตรธาน” ผมก็เอาเรื่องขนาดยาวมาคั่นไว้ นั่นคือเรื่องในชุด “ทำนายปัตถเวน - คำทำนายที่โคตรแม่น” ทำนายปัตถเวน – คำทำนายที่โคตรแม่น (๑)

https://www.facebook.com/tsangsinchai/posts/2940726672687717

“ทำนายปัตถเวน - คำทำนายที่โคตรแม่น” เป็นเรื่องที่ว่าด้วย “อันตรธาน” ในลักษณะหนึ่ง นั่นคือความดีอันตรานไป ความชั่วร้ายเกิดขึ้นมาแทน แบบเดียวกับ-พระพุทธศาสนาที่ถูกต้องอันตรธานไป สิ่งที่ไม่ใช่พระพุทธศาสนา-แต่เราพากันเรียกว่า “พระพุทธศาสนา” เกิดขึ้นมาแทน ถ้าใครเคยไปวัดบางวัดที่มีผู้คนหลั่งไหลเข้าไปกันวันละเป็นพันเป็นหมื่น จนแทบจะไม่มีที่ยืนที่นั่ง แล้วสังเกตดู ก็จะพบว่าผู้คนเหล่านั้นตั้งใจไปทำพิธีกรรมเพื่อสนองความเชื่อของตน และพิธีกรรมต่างๆ นั้นห่างไกลจากหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาออกไปทุกที

วัดในพระพุทธศาสนากำลังกลายเป็นแหล่งทำพิธีกรรม มิใช่แหล่งปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และเผยแพร่คำสอนที่ถูกต้องของพระพุทธศาสนา-เข้าไปทุกที พร้อมกับมีคำอธิบายออกมาในเชิงสนับสนุนว่า-ก็ยังดีกว่าปล่อยให้ประชาชนไปมั่วสุมอบายมุข วัดทำได้แค่นี้ก็ดีแล้ว จะเอาอะไรกันนักกันหนา

คำอธิบายทำนองนี้มีคนเห็นด้วยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะวลีสำเร็จรูปที่นิยมพูดกัน...จะเอาอะไรกันนักกันหนา เท่ากับบอกว่า ไม่ต้องทำอะไร ปล่อยมันไปอย่างนี้แหละดีแล้ว

เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการพิจารณาเรื่องนี้ ผมขอเชิญชวนให้ชาวเราช่วยกันศึกษาพระสูตรหนึ่ง นั่นคือ สัทธัมมปฏิรูปกสูตร ดังจะขออัญเชิญมาเสนอไว้ในบทความนี้ ผมทราบดีและเข้าใจดี ว่าการอ่านพระไตรปิฎกเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่ายสำหรับคนทั่วไป โดยเฉพาะคนหนุ่มคนสาวรุ่นใหม่ ซ้ำยังมีความคิดเห็นที่คอยกระทบต่อความอุตสาหะอยู่เสมอ นั่นคือความเห็นที่ว่า ภาษาบาลีเป็นภาษาที่ไม่มีใครเขาอ่านกันแล้ว แม้ที่แปลเป็นไทยก็อ่านเข้าใจยากเป็นที่สุด ทำไมจึงไม่แปลให้เป็นภาษาที่อ่านเข้าใจง่ายๆ กันบ้างเล่า

เมื่อมีผู้ส่งเสริมเช่นนี้ ผู้ที่จะศึกษาพระไตรปิฎกก็ดูเหมือนจะไม่ต้องทำอะไร นอกจากนั่งรอให้มีผู้แปลภาษาบาลีให้เป็นภาษาที่อ่านเข้าใจง่ายๆ มายื่นใส่มือ อุปมาเป็นภาพ-เสมือนคนนั่งรอกินอาหาร นั่งอ้าปากรอให้มีคนตักอาหารใส่ปาก และต้องเป็นอาหารชนิดที่ไม่ต้องเคี้ยว คนกินมีหน้าที่กลืนอย่างเดียวเท่านั้น

ดังนั้น จึงต้องขอร้องให้อดทนอ่าน ถ้าคิดหาเหตุผลอื่นใดไม่ออก ก็ขอให้นึกว่า-อ่านเป็นพุทธบูชา หรืออ่านเพื่อสืบอายุพระพุทธศาสนาก็ได้ หรือคิดอีกนัยหนึ่ง เวลานี้พวกเราจำนวนมากนิยมกางหนังสือสวดมนต์อ่าน แล้วเราก็บอกกันว่า-ฉันสวดมนต์ เวลาอ่านพระสูตรที่มีคำบาลี ก็ขอให้ทำใจว่าฉันกำลังสวดมนต์ กางหนังสือสวดมนต์อ่านยังทำได้ กางพระสูตรอ่านก็ควรทำได้เช่นกัน

คำบาลีเหมือนกัน หนังสือสวดมนต์ก็คำบาลี พระสูตรก็คำบาลี ถ้ากางหนังสือสวดมนต์อ่านได้บุญ กางพระสูตรก็อ่านได้บุญเช่นกัน คิดอย่างนี้ก็จะมีอุตสาหะในการศึกษาพระศาสนา ท่านที่นิยมสวดมนต์ ถ้าจะอัญเชิญสัทธัมมปฏิรูปกสูตรไปสวดเป็นประจำอีกสักบทหนึ่งก็จะช่วยยืดอายุพระศาสนาได้อีกทางหนึ่ง เป็นมหากุศลอย่างยิ่ง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"