ครูยาเสพติด


เพิ่มเพื่อน    

         ยาเสพติดมีวิวัฒนาการมาจากพืชตามธรรมชาติ เช่น ต้นฝิ่น ต้นกัญชา ต้นกระท่อม ซึ่งเมื่อเสพแล้วเกิดฤทธิ์ทางจิตประสาท เสพแล้วทำให้รู้สึกผ่อนคลาย คลายความวิตกกังวล หากมีอาการเจ็บป่วยทางร่างกายก็ช่วยบรรเทาทุเลาลงได้ ใช้เป็นส่วนผสมของยารักษาโรคได้ เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านซึ่งแพทย์แผนโบราณใช้ในการรักษาโรค แต่พืชเหล่านี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากเสพมากไปก็ติดต้องหามาเสพเพิ่มขึ้น เป็นโทษต่อร่างกายและทำให้จิตหลอน ขาดสติสัมปชัญญะ นำไปสู่การกระทำผิดทั้งร้ายแรงและไม่ร้ายแรง ในปัจจุบันนักโทษที่ถูกควบคุมอยู่ในเรือนจำด้วยความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมีจำนวนมากที่สุด
         ทุกรัฐบาลให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง โดยยกระดับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ออกกฎหมายเพิ่มเติมให้มีโทษหนักขึ้น มีมาตรการยึดทรัพย์ผู้ต้องหาหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง มีมาตรการบำบัดผู้ต้องหา ตั้งหน่วยงานที่ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดเพิ่มเติม ได้แก่ ปปส. ยกฐานะหน่วยงาน กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งศูนย์ปราบปรามยาเสพติดในทุกระดับ เพิ่มกำลังพล เพิ่มงบประมาณจำนวนมาก และประสานความร่วมมือกับต่างชาติในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
        แต่ผลที่เกิดขึ้นดูจะสวนทางกับสิ่งที่รัฐบาลได้พยายามทำ เพราะยาเสพติดได้พัฒนาขึ้นจากฝิ่นเป็นเฮโรอีน เป็นยาไอซ์ ยาบ้า แพร่ระบาดจำนวนมากขึ้น มีสถิติจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดเพิ่มขึ้นทุกปี การจับกุมการลักลอบค้ายาเสพติดลอตใหญ่มูลค่านับพันล้านยังปรากฏให้เห็นในข่าวอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญมีข่าวนักการเมืองหรือผู้มีอิทธิพลเข้าไปเกี่ยวข้อง และเชื่อมโยงเครือข่ายไปถึงต่างประเทศด้วย
        องค์กรตำรวจฝึกอบรมให้ผู้ที่จะเป็นนายตำรวจสัญญาบัตรทุกหลักสูตร ทั้งนักเรียนนายร้อยตำรวจหลักสูตรเรียนประจำ 4 ปีที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ หรือนักเรียนหลักสูตรอบรมเพื่อเป็นนายตำรวจสัญญาบัตร ซึ่งรับจากผู้จบปริญญาตรีนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ได้อบรมเรียนรู้การสืบสวนสอบสวนคดียาเสพติดจากอาจารย์ที่เป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียง มีประสบการณ์ในการสืบสวนสอบสวนคดีอาญาทั่วไปและคดียาเสพติด เช่น พ.ต.อ. แสวง  ธีระสวัสดิ์ (ต่อมาเป็น พล.ต.อ. ตำแหน่ง อ.ตร.) พ.ต.อ. ประยูร  โกมารกุล เป็นต้น
        ผมเริ่มรับราชการเป็นตำรวจ เมื่อ พ.ศ. 2520 เริ่มเรียนรู้และฝึกงานสอบสวนคดียาเสพติดกับนายตำรวจรุ่นพี่ ร.ต.อ. จงรัก  จุฑานนท์ รอง สวส. สน.พญาไท พี่จงรักเป็นนายตำรวจที่มีความรู้ความสามารถในการสอบสวนคดีอันดับต้นๆ ของนครบาล พี่จงรักจบนิติศาสตร์ระดับเกียรตินิยม สอบได้เนติบัณฑิตไทย และจบปริญญาโททางกฎหมายเป็นคนแรกของกรมตำรวจ สามารถไปสอบเป็นอัยการหรือผู้พิพากษาได้ แต่พี่จงรักเลือกเป็นตำรวจ รับราชการจนได้ยศ พล.ต.อ. ในตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ได้ฝึกฝนทำสำนวนสอบสวนคดียาเสพติดหลายคดีจนชำนาญ พอออกไปเริ่มปฏิบัติหน้าที่เข้าเวรเอง ก็รับคดียาเสพติดสอบสวนเองได้เลย
        นายตำรวจใหม่สมัยนั้น ซึ่งรวมตัวผมเองด้วย จะเริ่มชีวิตราชการด้วยการปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร เข้าเวรสอบสวน และเริ่มสอบสวนคดียาเสพติดซึ่งมีจำนวนมากในข้อหาผู้ต้องหาเสพหรือมีไว้ในครอบครอง ยาเสพติดก็จะมีทั้งกัญชาและเฮโรอีน (ยังไม่มียาบ้า/ยาไอซ์) นานๆ จะจับผู้ต้องหาที่เป็นผู้จำหน่ายได้เพราะจับยาก ต้องมีการล่อซื้อ (ใช้เงินส่วนตัว) ผู้ต้องหาที่ขนยาเสพติดรายใหญ่ ยาเสพติดจำนวนมากๆ ต้องให้ตำรวจหน่วยปราบยาเสพติดโดยเฉพาะในส่วนกลางเป็นผู้จับกุม เพราะต้องใช้เวลาสืบสวนและติดตามขบวนการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
        พอฝึกฝนการเป็นร้อยเวร ทำหน้าที่พนักงานสอบสวนคดียาเสพติดได้สักพัก ก็พัฒนาตัวเองออกไปทำหน้าที่สืบสวนจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดด้วยตนเอง โดยเริ่มจากการจับผู้เสพ ผู้ครอบครองยาเสพติด และสืบสวนจับกุมผู้จำหน่ายยาเสพติดเป็นลำดับไป ผมเป็นร้อยเวรเข้าเวรสอบสวนคดียาเสพติดสลับเป็นหัวหน้าสายสืบคุมลูกน้องตำรวจชั้นประทวนจับกุมคดียาเสพติดอยู่ประมาณ 10 ปี ก็เลื่อนตำแหน่งเป็นสารวัตร ไม่ได้เข้าเวรสอบสวนหรือไปไล่จับคดียาเสพติด ประสบการณ์ที่ได้ขณะนั้นคือ ถ้าจับกุมผู้ต้องหาเสพหรือครอบครองยาเสพติดจำนวนมาก คดีเกี่ยวการประทุษร้ายต่อทรัพย์ ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ จะลดน้อยลง เพราะคนร้ายถูกจับกุมในคดียาเสพติดไปหมดแล้ว
        เมื่อผมเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 ก็กลับมาทำงานสืบสวนสอบสวนคดียาเสพติดอีกครั้ง โดยมีหน้าที่กำกับดูแลให้นโยบายในการป้องกันและปราบปรามคดียาเสพติด เน้นย้ำการสืบสวนสอบสวนโดยให้ความสำคัญกับการจับกุมผู้จำหน่ายรายย่อยและผู้จำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ให้ได้มากที่สุด เมื่อขึ้นไปเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. และรอง ผบ.ตร รับผิดชอบงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ซึ่งรวมถึงการปราบปรามยาเสพติดด้วย ก็ให้ความสำคัญ เน้นย้ำกำชับแนวทางการดำเนินการสืบสวนสอบสวน ป้องกันและปราบปรามคดียาเสพติดอย่างเข้มงวด
        รัฐบาลได้ยกระดับความสำคัญ นอกจากกำหนดให้การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติแล้ว ยังออกกฎหมายเพิ่มความรุนแรงในการปราบปรามมากยิ่งขึ้น เช่น กฎหมายการยึดทรัพย์สินของผู้ต้องหาคดียาเสพติด จากเดิมหากผู้ต้องหาถูกจับติดคุก เมื่อครบกำหนดพ้นโทษ ก็ออกไปเอาเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดที่ซ่อนไว้ไปใช้ได้ แต่หากถูกยึดไปหมดแล้ว ก็จะเกรงกลัวไม่กล้ากระทำผิด ทำให้สามารถตัดวงจรการนำเงินไปต่อยอดซื้อขายยาเสพติดได้จำนวนมาก
        สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีแต่นายตำรวจที่มีความสามารถในการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดเป็นส่วนใหญ่ ที่จะให้นั่งสอบสวนขยายผลตลอดจนทำสำนวนยึดทรัพย์ผู้ต้องหาได้จำนวนมากๆ ทำงานแบบปิดทองหลังพระ ไม่ได้โชว์หน้าออกสื่อเวลาจับกุมคดียาเสพติดรายใหญ่มีอยู่ไม่กี่คน
        พล.ต.ท.วุฒิ  วิทิตานนท์ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 26 รับราชการเป็นตำรวจอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือเป็นส่วนใหญ่ เติบโตและเกษียณในตำแหน่ง ผบช. ภาค 4 ตลอดชีวิตการทำงาน ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ ซื่อสัตย์ สุจริต สืบสวนสอบสวนปราบปรามจับกุมคดียาเสพติดด้วยตนเองจำนวนมาก และเป็นนายตำรวจคนแรกที่มีความรู้ความสามารถสืบสวนสอบสวนทำคดียึดทรัพย์ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนสำเร็จ ไม่เคยแสวงหาผลประโยชน์ในสิ่งที่สังคมรังเกียจโดยเฉพาะการแสวงหาผลประโยชน์จากคดียาเสพติดเลย ระหว่างรับราชการ นำเอาประสบการณ์ถ่ายทอดให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปดำเนินการอย่างจริงจัง หลังจากเกษียณอายุแล้ว ได้รับเชิญจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปบรรยายในหลักสูตรสารวัตร จนถึงระดับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดทั่วประเทศ เป็นวิทยากรพิเศษสอนน้องๆ ตำรวจภาค 5 สม่ำเสมอมาตลอด ตั้งแต่เรื่องการสืบสวนสอบสวนคดียาเสพติดทั่วไป การยึดทรัพย์คดียาเสพติด เทคนิคในการตรวจค้นจับกุม การยึดทรัพย์สิน ณ ด่านตรวจหรือจุดตรวจ ฯลฯ และยังเป็นคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ป.ป.ส. ภาค 5 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และรองประธานสหกรณ์ตำรวจออมทรัพย์ ภาค 5
        ปัจจุบันนี้ ในวัย 70 ปีเศษ พี่วุฒิใช้ชีวิตหลังเกษียณที่เชียงใหม่อย่างมีความสุขกับภรรยาคู่ชีวิต และลูก พร้อมกับหลานสาวตัวน้อยที่น่ารัก ตื่นเช้าไปออกกำลังกายกับเพื่อนที่ชมรมเดินวิ่ง ฯลฯ เล่นโยคะ เยี่ยมเยียนทักทายกัลยาณมิตรทั่วเมืองเชียงใหม่ บรรยายพิเศษ สอนหนังสือ ประชุมกรรมการสภามหาวิทยาลัย คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินฯ คณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ ฯลฯ พี่วุฒิเป็นที่เคารพรักของข้าราชการตำรวจทุกระดับ เพื่อนข้าราชการทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (คุณชาติชาย  สุทธิกลม อดีตเลขา ป.ป.ส. เคยกล่าวว่า พี่วุฒิเป็นข้าราชการตำรวจที่น่านับถือ ดีใจที่ได้รู้จักและร่วมงานด้วย) ตลอดจนพ่อค้า ประชาชนทั่วไป
        ผมรักและเคารพศรัทธาพี่วุฒิ ในการทำงานและเป็นแบบอย่างที่ดีให้น้องๆ ข้าราชการตำรวจ ได้ติดต่อสื่อสารกับพี่วุฒิไปว่า พี่วุฒิคงต้องอดทน เสียสละเวลา อุทิศแรงกายแรงใจถ่ายทอดวิชาความรู้ด้านการสืบสวนสอบสวนคดียาเสพติดต่อไปมากขึ้นเพื่อองค์กรตำรวจ และประชาชนจะได้ปลอดภัยจากยาเสพติด ซึ่งพี่วุฒิก็ยินดีและปวารณาตนเอง มุ่งมั่นที่จะหน้าที่ต่างๆ ที่ทำมาตลอดไป ถึงแม้ว่าจะมีคนเลวๆ สวมเครื่องแบบตำรวจไปกระทำความผิด สืบสวนสอบสวนความผิดคดียาเสพติดแบบพิสดาร หาประโยชน์ใส่ตนเอง โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายขององค์กร จนเป็นข่าวฉาวโฉ่ไปทั้งประเทศ
                                                                                                                               พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"