พี่ป้อมน้อยใจน้องตู่ ซุ่มปลดฟ้าผ่า‘ธรรมนัส’ พปชร.จ่อปรับโครงสร้าง


เพิ่มเพื่อน    

"บิ๊กตู่" อุบไต๋เคลียร์ใจ "บิ๊กป้อม" บอกไปดู รธน.มาตรา  171 ชี้ชัดนายกฯ ถวายคำแนะนำปลด 2 รมต. "สุชาติ" มั่นใจไม่มีก๊วนใดตาม "ธรรมนัส" ออกไป ลั่นทุกคนมาอยู่ พปชร.เพราะ "ลุงตู่-ลุงป้อม"  ด้าน "เอกราช” ส.ส.ก๊วนธรรมนัสยืนยันยังอยู่กับ พปชร. เตรียมรื้อโครงสร้าง พปชร.อีกรอบ "2 ป." ส่ง รมต.สายตรงมาคุม กลุ่มใต้เคลื่อนไหวสกัดคนนอกเสียบโควตา รมต. สะพัด! "พี่ป้อม" เครียดนอนไม่หลับน้อยใจ "น้องตู่" ขณะที่เพื่อไทยยังฝันอยากให้ "ประยุทธ์" ลาออกมากกว่า เชื่อหลังจากนี้รัฐบาล-สภาอ่อนแอ เกิดอาฟเตอร์ช็อกอีกหลายระลอก 
    เมื่อวันศุกร์ มีความเคลื่อนไหวภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงานออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี  โดย พล.อ.ประยุทธ์ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงการพูดคุยหรือเคลียร์กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า "เคลียร์เรื่องอะไร ไปดูมาตรา 171"
    เมื่อถามว่า นายกฯ สบายใจขึ้นแล้วใช่หรือไม่เรื่องการเมือง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "สบายใจมาตลอด แต่เป็นเรื่องที่นายกฯ ต้องปรับเปลี่ยนอะไรบ้างเพื่อให้เกิดผลดีต่อการบริหารราชการแผ่นดิน รัฐธรรมนูญเขียนไว้แล้วในมาตรา 171"
    เมื่อถามย้ำว่า การปรับเปลี่ยนครั้งนี้รัฐบาลทำงานได้ดีขึ้นใช่หรือไม่  พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว เพียงแต่ทำท่าผายมือออกก่อนจะเดินทางกลับทันที
    ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ มาตรา 171 ระบุว่า "พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีตามที่นายกรัฐมนตรีถวายคำแนะนำ"
    ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ มีวาระเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 3/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ที่ห้องบัญชาการ 301 ตึกบัญชาการ 1 แต่ทั้งนี้ก่อนเวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง ปรากฏว่าทีมงานของ พล.อ.ประวิตรได้แจ้งเปลี่ยนสถานที่ประชุมกะทันหัน โดยแจ้งว่า พล.อ.ประวิตรไม่ได้เข้ามาที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว แต่จะไปนั่งประชุมที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ถนนวิภาวดีรังสิตแทน โดยมีรายงานว่า พล.อ.ประวิตรคิดไว้ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาแล้วว่า จะไม่เดินทางมาประชุมที่ทำเนียบฯ เพราะไม่อยากตอบคำถามสื่อ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าการเปลี่ยนสถานที่ประชุมดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ซึ่งคาดการณ์กันว่าน่าจะเป็นเพราะ พล.อ.ประวิตรต้องการหลีกเลี่ยงที่จะพบกับสื่อ เพราะไม่ต้องการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังจากมีการปลด ร.อ.ธรรมนัสและนางนฤมลออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี 
    นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และกรรมการบริหารพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาภายในพรรค จนมีกระแสข่าวว่าจะปรับโครงสร้างพรรคว่า ต้องให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ในพรรคตัดสินใจ ตนเป็นเพียงแค่สมาชิก ทั้งนี้เราในฐานะนักการเมือง จุดยืนอยู่ตรงไหนก็ทำงานตรงนั้นให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วน ร.อ.ธรรมนัสจะลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค พปชร.รวมทั้งตำแหน่งอื่นๆ ด้วยหรือไม่ เราคิดแทนคนอื่นไม่ได้ ในทางการเมือง ส.ส.ทุกคนมีพื้นที่มาจากเสียงของประชาชน  ทุกคนรู้ว่าเข้ามาเพื่อทำงาน และทุกคนที่มากับพรรค พปชร.ก็ถือว่าเป็นพรรค พปชร. มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และมีหัวหน้าพรรคคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของทุกคนอยู่แล้ว คิดว่าทุกคนไม่ได้มีประเด็นปัญหาอะไร  ทุกอย่างขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรค ทุกคนก็รักกันดีอยู่แล้ว พรรคมีความสามัคคี และเชื่อว่าจะไม่มีเอฟเฟกต์ตามมา ไม่ว่าจะเป็น 2 ช. 3 ช. ถ้าเราอยู่ในพรรคแล้วไม่เคารพหัวหน้าพรรคหรือมติพรรคก็คงอยู่ด้วยกันไม่ได้ และคิดว่านายกฯ ไม่มีระยะห่างระหว่าง ส.ส. วันนี้นายกฯ ทำงานหนักมาก ขณะที่ พล.อ.ประวิตรก็ดูแลลูกพรรคเป็นอย่างดี พล.อ.ประยุทธ์มีอะไรก็คุยผ่านหัวหน้าพรรคอยู่แล้ว ซึ่งก็เป็นไปในแนวทางเดียวกันทั้งหมด 
มั่นใจไม่มีใครออกตาม 'ธรรมนัส'
    "นักการเมืองไม่มีอย่างนั้นแน่นอน วันนี้ท่านก็ยังอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ และคิดว่าผู้แทนทุกคนที่มาอยู่กับพรรค มาอยู่เพราะเลือกนายกฯ และหัวหน้าพรรคลุงป้อม ไม่ได้มาเพราะ ร.อ.ธรรมนัสเป็นหัวหน้าพรรค จึงอย่าไปกังวล เพราะเรื่องนี้ยืนยันว่าไม่มีความกังวล และคิดว่าไม่มีประเด็นในเรื่องนี้ เพียงแต่เดี๋ยวรอเวลาหน่อย" นายสุชาติกล่าวเมื่อถามย้ำว่า การที่ ร.อ.ธรรมนัสลาออกไปจะมีกลุ่มก๊วนใดตามออกไปบ้างหรือไม่ 
    นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะกรรมการบริหารพรรค พปชร.กล่าวถึงสถานการณ์ภายในพรรคหลัง ร.อ.ธรรมนัสถูกปรับพ้น รมต.ว่า ยังคงเป็นไปตามปกติ ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งใดๆ ภายในพรรค โดยเฉพาะตำแหน่งเลขาธิการพรรค มั่นใจว่าปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นไม่สั่นคลอนความมั่นคงของรัฐบาล เพราะถือเป็นคนจำนวนไม่มากเท่าใด เพราะหากจะมีผล รัฐบาลก็จะไม่ผ่านความไว้วางใจในการลงมติเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และจนถึงขณะนี้รัฐบาลก็ยังคงมีเสียง ส.ส.ภายในสภาผู้แทนราษฎรเพียงพอ และเชื่อว่าจะอยู่ครบ 4 ปี ส่วนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นยังอีกนาน ในช่วงเดือนมีนาคม 2566 และเป็นสิทธิ์ของ ร.อ.ธรรมนัสที่จะตั้งพรรคการเมืองเอง จึงเร็วไปที่จะคาดการณ์ ส่วนกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัสถูกปรับออกมองว่าหากไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ ก็ย่อมต้องมีการปรับเปลี่ยนเป็นธรรมดาไม่ใช่เรื่องการแก้แค้น 
    นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น พรรค พปชร. ซึ่งเป็น ส.ส.ในกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงกรณีนายกฯ ปลด ร.อ.ธรรมนัสพ้นตำแหน่ง รมต.ว่า ตนยังไม่ได้เจอหรือส่งข้อความใดไปถึง ร.อ.ธรรมนัส และไม่คิดว่าจะมีการขอลาออกเร็วขนาดนี้ เพราะเท่าที่ทราบจากข่าวเห็นว่ามีการขอโทษนายกฯ ไปแล้ว แต่ข้อเท็จจริงก็ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร  
    ทั้งนี้ยังไม่ได้คุยกัน หากจะย้ายไปอยู่ที่อื่นคงต้องพูดคุยกันก่อน แต่เวลานี้ยังอยู่กับพรรค พปชร.เหมือนเดิม ส่วนเรื่องของการปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรคหาก ร.อ.ธรรมนัสลาออกจากเลขาฯ พรรค ถ้าปรับเพื่อให้เกิดความเหมาะสมก็ปรับได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่จะพิจารณา โดยต้องฟังความเห็นรอบด้านของทุกคนด้วย 
    ด้านความเคลื่อนไหวของ ร.อ.ธรรมนัส ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ธรรมนัส พรหมเผ่า ว่า "ผมกราบขอบพระคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ผมครับ ผมให้สัญญาว่าผมจะทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจที่มีเพื่อพี่น้องประชาชนตลอดไปตามที่ผมตั้งใจมั่นไว้เสมอมาครับ"
    มีรายงานข่าวจากพรรค พปชร.แจ้งว่า สำหรับความเคลื่อนไหวภายในพรรคหลังปลด ร.อ.ธรรมนัสและนางนฤมล แต่ทั้งสองคนยังมีบทบาทเป็นเลขาฯ พรรคและเหรัญญิกพรรค โดยมีรายงานว่าขั้นตอนก่อนนำไปสู่การปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรค อาจใช้รูปแบบหัวหน้าพรรคลาออกเพื่อเปิดทางให้มีการเรียกประชุมพรรคเพื่อปรับโครงสร้างใหม่ โดยคาดว่าจะดำเนินการภายใน​ 2​ สัปดาห์จากนี้  เนื่องจากจะรอดูความเคลื่อนไหวของ ร.อ.ธรรมนัสและ ส.ส.ที่ใกล้ชิดประมาณ 12 คนว่าจะมีท่าทีอย่างไร โดยบุคคลที่จะเข้ามามีบทบาทในพรรคต้องได้รับความไว้วางใจจาก พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และสามารถเชื่อมโยงระหว่างนายกฯ กับ ส.ส.ในพรรคได้ เพื่อไม่ให้มีช่องว่างเรื่องความสัมพันธ์ จนเกิดปัญหาขาลอยเหมือนที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ โดยช่วงก่อนปรับโครงสร้างพรรค พล.อ.ประยุทธ์ได้สั่งการผ่านรัฐมนตรีของพรรค ทั้งนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ดูแล ส.ส.ในสัดส่วนเบื้องต้น 1 ต่อ 10 หรือมากกว่านั้น ส่วนกลุ่มสามมิตรทั้งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ให้รับผิดชอบดูแลเกือบ 30 คน หาก ส.ส.ในความรับผิดชอบมีปัญหาต้องการหารือก็สามารถเข้าพบนายกฯ ได้โดยไม่มีการปิดกั้น
    มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 10 ก.ย. ส.ส.ภาคใต้ส่วนหนึ่งของพรรคได้จับกลุ่มหารือกัน โดยวิเคราะห์ไปถึงการปรับคณะรัฐมนตรี  เนื่องจากที่ผ่านมากลุ่มต่างๆ ในพรรคได้รับการพิจารณาไปแล้ว ในขณะที่ภาคใต้ไม่ได้รับการพิจารณาเลย และไม่เคยกดดันสร้างปัญหาทั้งที่มี  ส.ส.มากถึง 14 คน ดังนั้นครั้งนี้คาดว่าน่าจะได้รับการพิจารณา เพียงแต่กังวลว่าโควตาที่ภาคใต้ได้จะเป็นการนำคนนอกที่ไม่ใช่ ส.ส.เข้ามานั่ง เพราะขณะนี้เริ่มมีการเคลื่อนไหวของบุคคลที่ไม่ใช่ ส.ส. โดยอ้างว่าตัวเองอาสาขอเป็นตัวแทนภาคใต้เพื่อรับตำแหน่งรัฐมนตรี หากได้เป็นก็พร้อมจะดูแล ส.ส.ภาคใต้ แต่ ส.ส.ไม่เห็นด้วยเพราะต้องการให้ ส.ส.เป็นรัฐมนตรีเท่านั้น
'พี่ป้อม' เครียดน้อยใจ 'น้องตู่'
    ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าในที่ประชุม ส.ส.พรรคเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่าน  มา ได้มีการแจ้งในที่ประชุมพรรคให้รับทราบว่า หลังปิดสมัยประชุมสภาและสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายได้กำหนดจัดสัมมนา ส.ส.พรรคที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี อย่างไรก็ตาม​ผู้ที่เข้าพบ พล.อ.ประวิตรรายหนึ่งเปิดเผยว่า ผลจากการปลดรัฐมนตรีทั้งสองคน ทำให้ พล.อ.ประวิตรเคร่งเครียดจนนอนไม่หลับ เพราะน้อยใจต่อการตัดสินใจของนายกฯ
    นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ปฏิเสธที่จะกล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัสพ้นจากตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ จะต้องมีการแบ่งงานกันใหม่ในส่วนของ รมช.เกษตรและสหกรณ์หรือไม่ว่า อย่าเพิ่งไปพูดเลย ยังไม่มีอะไรทั้งสิ้น ส่วนด้าน รมว.เกษตรและสหกรณ์ไม่มีการพูดคุยอะไรเพิ่มเติม ในส่วนงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เหลือรัฐมนตรี 3 คนยังทำงานได้หรือไม่ พูดไม่ได้ แล้วแต่ท่านนายกฯ และไม่มีสัญญาณปรับ ครม.
    นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ตอบข้อถามถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัสระบุอนาคตข้างหน้าอาจต้องหาบ้านหลังใหม่ บ้านใหม่ที่ว่าจะเป็นบ้านเก่าอย่างพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่า ตอนนี้ ร.อ.ธรรมนัสยังเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐอยู่ ส่วนอนาคตข้างหน้าเขาจะตัดสินใจอย่างไรก็เป็นเรื่องของ ร.อ.ธรรมนัส ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัสไม่เคยมีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย 
    ส่วนนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า  ตนอยากให้ พล.ประยุทธ์ลาออกมากกว่า แต่ทำไมไปให้คนอื่นออกแทน  เพราะฝ่ายค้านไม่ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งสองคนนั้น ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้อยู่ต่อทุกวิธีการ และครั้งนี้ก็ใช้วิธีการเลือกรัฐมนตรีที่ไม่เกี่ยวข้องออก เมื่อออกแล้วก็เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่ว่าสิ่งที่เป็นห่วงคือความผันผวนปั่นป่วนในพรรคแกนนำรัฐบาล การปรับสองคนนั้นออกไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรกับประชาชน แต่จะเกิดโทษคือเกิดความปั่นป่วนในพรรคแกนนำรัฐบาลและการบริหารประเทศ 
    "เมื่อสองวันที่ผ่านมาหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทางสภาแทบจะประชุมกันไม่ได้เพราะ ส.ส.รัฐบาลไม่มาประชุม ทำให้ประธานสภารอลงมติจนรอไม่ไหวและลุกหนีจากบังลังก์ แสดงว่าความปั่นป่วนเกิดขึ้นแล้ว  เชื่อว่าจะไม่จบแค่นี้ และจะเกิดความปั่นป่วนขึ้นอีกหลายระลอก ก็เลยต้องขอวิงวอนและขอเรียกร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จะทำอะไรกับ ครม.ของท่านก็เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่พยายามอย่าให้กระทบงานที่จะทำให้กับ ประชาชน แน่นอนว่าจะทำให้รัฐบาลไม่เข้มแข็งขึ้น และนับวันจะอ่อนแอลง รวมถึงสภาก็อ่อนแอด้วย เป็นเรื่องที่น่าห่วง" นายสุทินกล่าว
    แหล่งข่าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า สำหรับกรณีกล่าวหา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า  ขณะดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่มีผู้ยื่นให้ ป.ป.ช.พิจารณา ระหว่างปี 62-63 นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างสำนักงานไต่สวนการทุจริตภาคการเมืองและองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ของ ป.ป.ช.กำลังดำเนินการในชั้นตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งยังไม่ถึงขั้นการตั้งอนุกรรมการไต่สวน เรื่องแรกคือกรณีกล่าวหา ร.อ.ธรรมนัสเคยต้องคำพิพากษาของศาลออสเตรเลีย หมายเลข 60449/94 และ 60434/94 ในข้อหานำเข้า-ค้ายาเสพติด โดยคดีถึงที่สุดให้จำคุกเป็นเวลา 6 ปี ซึ่งเป็นการขาดคุณสมบัติและละเมิดมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามกฎหมาย เรื่องที่สองคือ กรณีขอให้ตรวจสอบ ร.อ.ธรรมนัสกับพวก ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาทรัพย์สินหรือหนี้สิน  เรื่องที่สาม กรณีขอให้ตรวจสอบ ร.อ.ธรรมนัสเกี่ยวกับการกักตุนและส่งออกหน้ากากอนามัย กรณีนายพิตตินันท์ รักเอียด คณะทำงานของ ร.อ.ธรรมนัส มีส่วนพัวพันกับบุคคลคนหนึ่งซึ่งเป็นนักธุรกิจส่งออกหน้ากากอนามัย อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"