ดร.อนันต์ เผยงานวิจัย Harvard ผู้หายป่วยแล้วไปรับวัคซีน ภูมิคุ้มกันพุ่งสูงยับยั้งเดลต้าได้สบาย


เพิ่มเพื่อน    

11 ก.ย.64 - ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ(ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า งานวิจัยชิ้นหนึ่งเพิ่งเผยแพร่ออกมาจากทีม Harvard เปรียบเทียบระดับแอนติบอดีต่อเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ในร่างกายในสภาวะต่างๆ คือ 1. จากผู้เคยติดเชื่้อจากธรรมชาติ (กลุ่มสีเขียว) 2. จากผู้ได้รับวัคซีน mRNA จากทั้ง Pfizer หรือ Moderna (กลุ่มสีดำ) และ 3. จากผู้หายป่วยโควิด และ รับวัคซีน mRNA 2 เข็ม (กลุ่มสีม่วง) โดยเก็บข้อมูลที่เวลาต่างๆหลังได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม

กลุ่มเคยติดเชื้อแต่ไม่ได้รับวัคซีนแอนติบอดีจะอยู่ในระดับไม่สูงมาก ตั้งแต่เริ่มหายป่วย แต่ระดับแอนติบอดีเกือบเป็นเส้นตรง คือ แทบจะไม่ลดลงเลยในช่วงเวลา เกือบ 300 วันที่เก็บข้อมูล ตรงกันข้าม กลุ่มที่ได้รับวัคซีนมา 2 เข็ม ออกตัวแรงมากมีภูมิสูงกว่าการติดเชื้อในธรรมชาติประมาณ 10 เท่า แต่ระดับแอนติบอดีตกไวกว่าอย่างชัดเจน ค่าแอนติบอดีที่สามารถยับยั้งไวรัสเดลต้าได้ ตกลงมาที่ 78 วันหลังสองเข็ม เมื่อเทียบกับ 28 วัน เกือบ 10 เท่า และที่โดดเด่นที่สุด คือ กลุ่มที่หายป่วยแล้วไปรับวัคซีนเพิ่มเข้ามา ภูมิโดดสูงกว่าการติดเชื้อจากธรรมชาติแบบไม่ได้วัคซีนเกือบ 100 เท่า และ ดูเหมือนจะลดลงช้ากว่ากรณีของคนที่ไม่เคยป่วยมาก่อน และ ระดับที่ลดลงเหมือนจะไม่เป็นปัญหา เพราะ ยังสามารถยับยั้งเดลต้าได้อย่างสบายๆ แม้จะผ่านไปเกือบ 200 วันหลังเข็มสองแล้ว

ข้อมูลนี้เป็นการยืนยันว่า Hybrid Immunity คือ ภูมิที่กระตุ้นจากการติดเชื้อด้วยวัคซีน น่าจะเป็นคำตอบของการควบคุมโควิดได้ในที่สุด ใครที่เคยป่วยแล้วและได้รับวัคซีนแล้ว อาจไม่ต้อง boost ไปอีกนานเลยครับ
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"