ปตท. ลุย ‘อินโนบิก’ พัฒนายา-สุขภาพ ผุดโปรดักซ์ตีตลาดขึ้นแท่นผู้นำภูมิภาค


เพิ่มเพื่อน    

ปตท. เดินเครื่อง “อินโนบิก (เอเซีย)” เต็มกำลัง ลุยธุรกิจยา สุขภาพและเครื่องมือแพทย์ พร้อมจ่อดึงผู้เชี่ยวชาญไทยและต่างประเทศ ใช้วิทยาศาสตร์-เทคโนโลยีพัฒนานวัตกรรม ผุดผลิตภัณฑ์สร้างตัวตนเจาะตลาดตอบโจทย์ผู้บริโภค หวังขึ้นแท่นผู้นำภูมิภาค

 

 

ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด เปิดเผยภายในการบรรยายในหัวข้อ "บทบาทของนักลงทุนในการกระตุ้นอุตสาหกรรมด้านการแพทย์และสุขภาพหลังโควิด" ในงาน Bio Asia Pacific 2021 บนแพลตฟอร์มออนไลน์ Virtual Exhibition & Conference ว่า ปตท. ได้ดำเนินการจัดตั้งอินโนบิก (เอเซีย) ขึ้นเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2563 ด้วยทุนจดทะเบียน 2,000 ล้านบาท เพื่อหาโอกาสการลงทุนในประเทศและความร่วมมือกับต่างประเทศเพื่อดำเนินธุรกิจเพื่อสุขภาพ หรือ “Life Science

 

ดร.บุรณิน กล่าวว่า บริษัท อินโนบิก มีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำทางด้าน Life Science ของภูมิภาค โดยใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการสร้างนวัตกรรม สร้างความมั่นคงทางด้านสาธารณสุขเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทย ทั้งนี้ยังมีโจทย์หลักในการดำเนินงานที่สำคัญคือจะต้องเข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว โดยอาศัย 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ คน กระบวนการ และผลิตภัณฑ์ โดยจะต้องร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ เพื่อวิจัยและพัฒนา (อาร์แอนด์ดี) คิดค้นยารักษา การป้องกัน และอุปกรณ์ที่ใช้ทั้งป้องกันและรักษา รวมถึงการตรวจวินิจฉัยโรค

 

“เราจะต้องมีการร่วมมือกับผู้ที่อยู่ในตลาดอยู่แล้วให้เกิดการลงทุนที่รวดเร็ว ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายขององค์กร โดยเปิดให้หน่วยงานที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาร่วมอาร์แอนด์ดีกับเรา ทั้งสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และกลุ่มเอกชนอื่นๆ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์หรือบริการที่จะสร้างชื่อให้อินโนบิกเป็นที่รู้จักในตลาด ซึ่งบริษัทยืนยันว่ามีการเปิดกว้างรับนวัตกรรมใหม่ๆ และมีกระบวนการวิเคราะห์พิจารณาการลงทุนอย่างดี และจะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรที่เข้ามาร่วมมือ”ดร.บุรณิน กล่าว

 

โดยล่าสุดบริษัทประสบความสำเร็จในการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน บริษัท Lotus Pharmaceutical จำกัด (Lotus Pharmaceutical Co., Ltd.) บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายยาสามัญชั้นนำ ในตลาดเกาหลี สหรัฐอเมริกา และไต้หวัน โดยการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้มีผลหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท Lotus Pharmaceutical เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564 ได้มีมติอนุมัติขายหุ้นเพิ่มทุนให้ อินโนบิก (เอเซีย) 17,517,348 หุ้น ในราคา 80.7 เหรียญไต้หวันใหม่ต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือสัดส่วนการถือครองหุ้น 6.66%

 

รวมถึงยังมีมติเห็นชอบจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด และ บริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด (บริษัทย่อยที่ บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 100%) ในสัดส่วนการถือหุ้นที่เท่ากันบริษัทละ 50% เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืชแบบครบวงจร ตั้งเป้าจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่แล้วเสร็จในไตรมาส 3 ปี 2564 ด้วยทุนจดทะเบียนประมาณ 300 ล้านบาท พร้อมจัดตั้งโรงงานผลิตที่ใช้เทคโนโลยีนำเข้าชั้นสูงในไทย ด้วยกำลังการผลิต 3,000 ตันต่อปี รวมไปถึงการพัฒนาร้านค้าต้นแบบ คาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4 ปี 2565

 

นอกจากนี้ ปตท. โดยอินโนบิก (เอเซีย) ยังได้ร่วมมือกับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ตั้งโรงงานผลิตยารักษามะเร็งแห่งแรกของไทยที่นิคมอุตสาหกรรมวนารมย์ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ซึ่งจะโฟกัสกลุ่มยารักษาโรคไม่ติดต่อ (NCD) เช่น โรคมะเร็ง ที่มีโอกาสเกิดขึ้นกับทุกส่วนในร่างกาย และสอดคล้องกับสังคมสูงอายุของไทย

 

“ภาวะการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ในประเทศไทยในอนาคตถ้าไม่ได้ลงทุนเรื่องสุขภาพ หรือวิทยาศาสตร์สุขภาพ ก็จะเกิดปัญหาว่ามีประชากรสูงวัยมากขึ้นและต้องรับภาระเรื่องค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้นตามมา กลับกันที่ปัจจุบันคนในสังคมก็เริ่มมีการตระหนักเรื่องการดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงโรคภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็เป็นสิ่งจูงใจที่ทำให้เกิดการพัฒนาไปในสู่ทิศทางที่ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ทั้งในด้านการรักษา ด้านตรวจวินิจฉัยโรค และการป้องกัน ผ่านการพัฒนายา อุปกรณ์การแพทย์ และอาหารเพื่อสุขภาพ จึงเป็นโอกาสที่ทำให้การลงทุนในด้านดังกล่าวมีความน่าสนใจ” ดร.บุรณิน กล่าว

 

นอกจากนี้ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด ได้ร่วมกับบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งบริษัทร่วมทุน บริษัท อินโนโพลีเมด จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 260 ล้านบาท โดยไออาร์พีซี ถือหุ้นสัดส่วนร้อยละ 60 และอินโนบิก (เอเซีย) ถือหุ้นร้อยละ 40  เพื่อผลิตผ้าไม่ถักไม่ทอ ด้วยวิธี Meltblown เพื่อเป็นวัตถุหลักสำหรับทำหน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 ชุดกาวน์ และแผ่นกรองอากาศ เป็นต้น สำหรับโรงงานผลิตผ้าไม่ถักไม่ทอ (Non-woven Fabric) ที่ขึ้นรูปด้วยวิธี Melt Blown จะตั้งอยู่ที่ เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี จังหวัดระยอง คาดว่าจะเริ่มผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ในช่วยไตรมาส 4 ปี 2564


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"