บิ๊กตู่ตรวจนํ้าท่วม จ่อคิวลุยทุกพื้นที่


เพิ่มเพื่อน    

“บิ๊กตู่” ตรวจสถานการณ์น้ำชัยนาท พอใจแผนรับมือ ลั่นจะลงให้ครบทุกพื้นที่ พร้อมรับฟังความคิดเห็น ส.ส. ยันไม่แบ่งแยกใครทั้งสิ้น อ้อนห่วงใย ปชช.ทุกคน ต้องห่างกันเพราะโควิด 
    เมื่อวันที่ 15 กันยายน เวลา 13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา  รมว.มหาดไทย นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  และคณะ ออกเดินทางจากสนามบินเฮลิคอปเตอร์ พล.ม.2 รอ. เขตพญาไท กรุงเทพฯ ไปยังจุดจอด ฮ. สนามกีฬาเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ก่อนเดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้า เวลไฟร์  หมายเลขทะเบียน 1 ขณ 5122 กรุงเทพมหานคร
    ต่อมาเวลา 14.45 น. ที่สำนักงานชลประทานที่ 12 จังหวัดชัยนาท  นายกรัฐมนตรีประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา และการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา  โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในที่ประชุมว่า การลงพื้นที่วันนี้วัตถุประสงค์หลักเพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในการดำเนินนโยบายของรัฐบาล และการเตรียมการแก้ปัญหาอุทกภัย ซึ่งมีความห่วงใยจากรัฐบาลและจากนายกฯ เป็นที่สุดในทุกจังหวัด วันนี้มีหลายจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ จึงจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือเยียวยากันต่อไป การแก้ปัญหามีประสบการณ์จากช่วงหลายปีที่ผ่านมาเป็นบทเรียนให้เราอยู่แล้ว  ซึ่งเรามีสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ควบคุมทั้งระบบในการบูรณาการเรื่องน้ำ ทั้งภัยแล้งและน้ำท่วมด้วย
    นายกฯ ยังกำชับให้ส่วนราชการและ ส.ส.ในพื้นที่นำประสบการณ์ ข้อมูลเดิมมาบริหารจัดการ เตรียมแผนให้พร้อม โดยเฉพาะต้องเตรียมแผนเผชิญเหตุไว้ล่วงหน้า พร้อมสร้างการรับรู้ให้ประชาชนเข้าใจ ขณะเดียวกันเน้นย้ำเรื่องการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเปิดทางน้ำให้มีการระบายอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ต้องไม่เกิดผลกระทบในวงกว้างต่อพื้นที่เศรษฐกิจ รวมทั้งต้องมีการวางแผนกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรในฤดูแล้งในพื้นที่นอกเขตชลประทาน เพื่อให้มีน้ำเพียงพอต่อการทำเกษตร 
    "ยืนยันว่ารัฐบาลมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด และพร้อมให้การสนับสนุนแผนงานโครงการต่างๆ ที่สอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาในภาพรวม เกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง  และผมมีความตั้งใจจะลงให้ครบทุกพื้นที่ด้วย" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
    จากนั้นนายกฯ ได้ออกตรวจสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อเตรียมรับน้ำเหนือหลากและวางแผนป้องกันพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่างที่เขื่อนเจ้าพระยา 
    พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ว่า วันนี้มาเยี่ยมชาวชัยนาท รัฐบาล นายกฯ และ ครม.ห่วงใยประชาชนชาวชัยนาทและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีผลกระทบร่วมกัน มารับฟังการชี้แจงจาก สทนช.ที่บริหารภาพรวมของทั้งประเทศ ตลอดจนรับฟังความคิดเห็นต่างๆ  จากบรรดา ส.ส.ในพื้นที่ ให้รับทราบว่ารัฐบาลมีความห่วงใยอย่างไร  เพราะทุกคนก็เป็นตัวแทนของประชาชนทั้งสิ้น ตนไม่มีการแบ่งแยกกับใครทั้งสิ้น เพราะเราเป็นรัฐบาลต้องบริหารทั้งประเทศ ต้องดูแลคนทั้งประเทศอยู่แล้ว จะต้องพิจารณาลำดับความเร่งด่วนการทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นผู้ดูแลในเรื่องเหล่านี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย ตามระเบียบทุกประการ จะต้องไม่มีการทุจริต ต้องโปร่งใส เป็นธรรม ให้ตรงความต้องการของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง นี่เป็นนโยบายหลักที่เราแจ้งไปแล้ว 
    โดยเท่าที่รับทราบมีความพอใจในภาพการบริหารน้ำที่เขาชี้แจงทั้งหมด ต้องมีการตัดยอดน้ำออกไปข้างๆ ตะวันตก ตะวันออกตามลำดับ  จนเหลือมวลน้ำมาที่นี่ และทราบว่าการระบายน้ำที่นี่ลดลงพอสมควร  และได้สั่งเรื่องการกำจัดวัชพืชที่ขวางทางน้ำ เป็นอย่างนี้ทุกปี เพราะแหล่งกำเนิดอยู่บนฝั่ง จากแหล่งน้ำขนาดเล็กไหลรวมสู่แม่น้ำ ต้องขจัดไปเป็นระยะ
    นายกฯ กล่าวว่า ฝากความห่วงใยไปยังประชาชนทุกคน ไม่มีโอกาสได้พบกันใกล้ชิด เพราะเป็นเรื่องสถานการณ์โควิด-19 ต้องระมัดระวัง สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือโควิด และต้องสวมหน้ากาก ล้างมือ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อพูดมาถึงช่วงนี้นายกฯ มีอาการจาม แต่ได้สวมหน้ากากอนามัยอยู่ ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า "ไม่ได้เป็นอะไร ตรวจโรคมาแล้ว แพ้อากาศ อากาศมันชื้น นายกฯ แพ้อากาศบ่อย" ก่อนกล่าวอีกว่า "โอเค มีอะไรจะถามหรือไม่"
    เมื่อถามว่า ได้มีการเตรียมพร้อมแผนเผชิญเหตุในการบริหารจัดการน้ำในช่วงหน้าฝนนี้ไว้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้เตรียมการในช่วงหน้าฝนและเตรียมการเผื่อช่วงหน้าแล้งไปด้วย เขาเรียกว่าแผนเผชิญเหตุ ไม่ใช่ว่าไม่ท่วม ระบายน้ำได้ขนาดนี้แล้วนิ่งเฉย ทุกคนมีบทเรียนมาแล้วในการระบายน้ำปี 54 ส่วนในปี 63 อีกเรื่องหนึ่งปริมาณฝนพายุเข้ามามากเป็นเรื่องธรรมดา การท่วมภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็เช่นกัน ตกวันละ 500 มิลลิเมตรไหวที่ไหน วันนี้ดูตรงพื้นที่นี้เป็นพื้นที่มีความเสี่ยงตามพื้นที่ลุ่มต่ำ เราต้องเตรียมพื้นที่สำรองกักเก็บน้ำตามธรรมชาติ ตามที่สร้างไว้ ได้กำชับให้ไปตรวจตราทำนบดินกั้น แอ่งเก็บน้ำต่างๆ ที่ปริมาณน้ำสูงขึ้นในขณะนี้ ต้องรับน้ำให้ได้ และต้องเตรียมแผนในกรณีที่มีการชำรุดในพื้นที่จำเป็นและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน จึงให้ประสานกระทรวงกลาโหมเรื่องการใช้เฮลิคอปเตอร์ในการทิ้งตะกร้าลงมาเพื่อกั้นน้ำได้ชั่วคราวก่อนซ่อมแซม 
    "ส่วนเรื่องการเกษตร ได้พูดไปว่าจะปรับอย่างไรให้สอดคล้องความต้องการของตลาดในวันนี้ ไม่น้อยและมากเกินไป ก็เป็นห่วง ดังนั้นทุกคนต้องปรับตัวเองด้วย รัฐบาลพยายามคิดใหม่ทำใหม่ แต่ทุกคนต้องกล้าคิดกล้าทำ กล้าจะเปลี่ยนแปลง เราถึงจะพลิกโฉมประเทศไทยได้ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคน สู้ๆ นะ" 
    จากนั้นนายกฯ เดินทางกลับกรุงเทพฯ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"