‘ตู่-ป้อม’วัดกำลัง พปชร.วุ่น!ล็อบบี้ต้อนรับ‘2ป.’ลงพื้นที่-สส.หวั่นถูกกาหัวเลือกข้าง


เพิ่มเพื่อน    

จับตาอนาคตการเมือง “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” พร้อมใจลงพื้นที่ถี่ยิบ สะพัด! พปชร.วัดกำลังอีกรอบ ล็อบบี้ต้อนรับ "นาย" วุ่น "สุชาติ" ระดมส.ส.รับ "บิ๊กตู่" ที่เพชรบุรี ขณะที่ "ธรรมนัส" สั่งลูกพรรคร่วมคณะ "บิ๊กป้อม" ลงอยุธยา หลายคนลังเล ผวาถูกกาหัวเลือกฝั่ง รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาเผยนักการเมืองทุกคนมีความพร้อมต่อการลงสนามเลือกตั้งทุกเวลา งัดสถิติรัฐบาลส่วนใหญ่จะอยู่ไม่ครบเทอม 4 ปี  
    เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.เพชรบุรี ในช่วงบ่ายวันที่ 22 ก.ย.นี้ เพื่อติดตามการแก้ปัญหาสถานการณ์น้ำและตรวจเยี่ยมโรงงานตามโครงการ Factory Sandbox 
    อย่างไรก็ตาม เดิมมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการจะลงพื้นที่ตรวจราชการ เยี่ยมเยียนประชาชน และติดตามปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของ จ.สุโขทัย ในวันที่ 22 ก.ย. แต่เบื้องต้นอาจมีการเลื่อนให้เร็วหรือช้าจากเดิม โดยคณะทำงานกำลังสำรวจพื้นที่และพิจารณากำหนดการอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
    สำหรับ จ.เพชรบุรีนั้น ถือเป็นพื้นที่ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยมีส.ส.ของพรรค ได้แก่ นายกฤษณ์ แก้วอยู่ ส.ส.เพชรบุรี เขต 1, นายสาธิต อุ๋ยตระกูล ส.ส.เพชรบุรี เขต 2 และนายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี เขต 3
    ส่วนความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พปชร. หลังเกิดเหตุการณ์ พล.อ.ประวิตรเสียหลักลื่นล้ม ในระหว่างเดินทางไปร่วมสวดพระอภิธรรมบิดา ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพปชร.ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ได้รับบาดเจ็บ และยังมีปฏิบัติหน้าที่ประชุมคณะต่างๆ ต่อเนื่องนั้น 
    ล่าสุด พบว่าในวันที่ 22 ก.ย. ช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตรและคณะมีกำหนดการลงพื้นที่ติดตามความพร้อมของการบริหารจัดการน้ำหลากในพื้นที่ลุ่มต่ำของลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อรับฟังสถานการณ์น้ำในพื้นที่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งภาพรวมการบริหารจัดการน้ำ รับน้ำหลากตามมาตรการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) และแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมทั้งระบบในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และแนวทางการจัดการและเตรียมพื้นที่รับน้ำหลากในพื้นที่ลุ่มต่ำ ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือประชาชน จากนั้นเดินทางติดตามการบริหารจัดการที่ประตูระบายน้ำปากคลองบางบาลและพบปะพูดคุยกับผู้นำชุมชน ก่อนเดินทางกลับ กทม. 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรค พปชร.ได้แจ้งให้ ส.ส.ของพรรครับทราบการลงพื้นที่ดังกล่าว หาก ส.ส.คนใดไม่มีภารกิจให้ร่วมลงพื้นที่เพื่อติดตามรับฟังปัญหาและร่วมติดตามแก้ไขให้กับพื้นที่ด้วย  
    รายงานข่าวจากพรรค พปชร.แจ้งว่า สำหรับการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์  ในวันที่ 22 ก.ย. เพื่อไปติดตามความพร้อมรับมือฤดูฝนที่เขื่อนเพชรบุรี อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ในวันที่ 22 ก.ย.นี้นั้น นอกจากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องที่จะติดตามคณะนายกฯ ลงไปในพื้นที่แล้ว ในส่วนของ จ.เพชรบุรี มี ส.ส.จำนวน 3 คน โดยการเลือกตั้งเมื่อปี 62 ที่ผ่านมา พรรค พปชร.สามารถกวาด ส.ส.ได้ยกจังหวัด ได้แก่ นายกฤษณ์ แก้วอยู่ ส.ส.เพชรบุรี เขต 1, นายสาธิต อุ๋ยตระกูล ส.ส.เพชรบุรี เขต 2 และนายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี เขต 3 โดยในวันดังกล่าว ส.ส.เพชรบุรีจะเดินทางไปรอต้อนรับทั้งหมด ขณะเดียวกัน อาจมี ส.ส.จากจังหวัดใกล้เคียงไปรอต้อนรับนายกฯ ด้วย อาทิ จ.ราชบุรี ที่มี ส.ส.ของพรรค พปชร.  3 คนคือ นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี, น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี และ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่านายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และกรรมการบริหารพรรค พปชร. พยายามระดม ส.ส.ให้ไปร่วมต้อนรับนายกฯ ในการลงพื้นที่ครั้งนี้เช่นเดียวกัน โดยได้มีการชักชวน ส.ส.กาญจนบุรี ซึ่งมี ส.ส.ของพรรค พปชร.จำนวน 4 คนด้วย แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าจะเดินทางไปร่วมหรือไม่ 
     ด้านนายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี  พปชร. กล่าวถึงกรณีนายกฯ เตรียมลงพื้นที่ จ.เพชรบุรี ว่าเมื่อทราบข่าวก็ดีใจ ตนและ ส.ส.ของเพชรบุรีทั้งหมดรวม 3 คนของพรรค พปชร. จะไปต้อนรับนายกฯ ในวันดังกล่าว ซึ่งยินดีต้อนรับที่นายกฯ จะลงพื้นที่ จ.เพชรบุรี เพื่อจะได้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้กับประชาชนในพื้นที่ 
     รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ในการลงพื้นที่ติดตามความพร้อมการบริหารจัดการน้ำหลากในพื้นที่ลุ่มต่ำของลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาล   จ.พระนครศรีอยุธยาของ พล.อ.ประวิตร  ในวันที่ 22 ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่นายกฯ ลงพื้นที่ จ.เพชรบุรีนั้น มีรายงานว่า ในคณะของ พล.อ.ประวิตร จะมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรค, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค, นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานวิปรัฐบาล ร่วมเดินทางไปด้วย นอกจากนี้มีรายงานว่า ร.อ.ธรรมนัสได้กำชับ ส.ส.ในพรรค พปชร.ให้ร่วมคณะไปด้วยจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่วันเดียวกันของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ทำให้ ส.ส.บางคนเกิดความลังเลว่าจะไปร่วมกับคณะของใคร เพราะกลัวจะถูกมองว่าเลือกฝั่ง
    นายยุทธพล อังกินันทน์ รองหัวหน้าพรรค และโฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่พรรคการเมืองฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร ว่าคือการส่งสัญญาณการยุบสภาเพื่อเตรียมเลือกตั้งเร็วๆ นี้ว่า การลงพื้นที่ของนักการเมืองและฝ่ายบริหารในช่วงปิดสมัยประชุมสภาถือเป็นปกติ​ ส่วนที่ถูกตั้งข้อสังเกตต่อการยุบสภาหรือเลือกตั้ง ตนไม่แน่ใจว่าจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ แต่เชื่อว่าคนนักการเมืองทุกคนมีความพร้อมต่อการลงสนามเลือกตั้งทุกเวลา เพราะตามสถิติรัฐบาลส่วนใหญ่จะอยู่ไม่ครบเทอม 4 ปี การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ผ่านมา มีทั้งเป็นข่าวและไม่เป็นข่าว ถือเป็นเรื่องประจำและปกติ ส่วน พล.อ.ประยุทธ์จะเตรียมตัวเพื่อลงสนามเลือกตั้งหรือไม่ ต้องสอบถามกับพล.อ.ประยุทธ์
    เมื่อถามถึงการแก้ไขกติกาเลือกตั้ง โดยใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะทำให้พรรคทำงานง่ายหรือไม่ นายยุทธพล​กล่าวว่า จะทำให้ประชาชนตัดสินใจง่ายขึ้น สามารถเลือกคนที่รักและพรรคที่ชอบได้  ส่วนการทำงานของพรรคที่ผ่านมาฐานะพรรคร่วมรัฐบาล และได้รับมอบหมายให้ดูแลงาน 2 กระทรวงสำคัญ ได้ทำงานเต็มที่เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบาย แม้พรรคชาติไทยพัฒนาจะเป็นพรรคเล็ก แต่คุณภาพคับแก้ว
    ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ในฐานะประธานคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเตรียมพร้อมยกร่างแก้ไขร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) จำนวน 2 ฉบับ คือร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ให้สอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข มาตรา 83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือกตั้งว่า จะปรับการชำระค่าบำรุงพรรคของสมาชิกพรรคให้เป็นครั้งเดียวตลอดชีพ และจะปรับแก้ไขในการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อหาผู้สมัคร ส.ส. (ไพรมารีโหวต)
    เมื่อถามถึงการปรับเนื้อหาของการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่มีข้อเสนอให้เขียนแบบ ส.ส.พึงมี หรือ MMP นายไพบูลย์กล่าวว่า ในแนวทางจะใช้เหมือนกับการเลือกตั้งปี 2554 ที่กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 1% โดยคะแนนเฉลี่ยของบัตรบัญชีรายชื่อของทุกพรรครวมกันทั้งประเทศ มาคำนวณหาจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่แต่ละพรรคได้รับ เช่น การเลือกตั้งปี 2554 คะแนนพรรค ได้รวม 3.5 ล้านคะแนน หากคิดฐาน 1% จะเท่ากับ 3.5 แสนคะแนน ถือเป็นคะแนนที่นำมาคำนวณเป็น ส.ส.พึงมีของแต่ละพรรค หากพรรคใดได้คะแนนต่ำกว่า 3.5 แสนคะแนน จะไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
     ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี เผยว่าจะเฉลยการลักไก่ของนายไพบูลย์ รัฐสภาผ่านวาระแรก หลักการที่รัฐสภาผ่านคือ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91 นายไพบูลย์อ้างข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ 124 ว่าสามารถแก้มาตรา 86 ร่วมได้ เพราะเกี่ยวเนื่องกับหลักการ จึงขอนำข้อ 124 มาให้อ่าน ข้อ 124 วรรค 4 กล่าวว่า การแปรญัตติมาตราเพิ่มเติมขึ้นใหม่ หรือตัดทอน หรือแก้ไขมาตราเดิม ต้องไม่ขัดกับหลักการแห่งร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม เว้นแต่การแก้ไขเพิ่มเติมมาตราที่เกี่ยวเนื่องกับหลักการนั้น" 
    นพ.วรงค์ชี้ว่า การแก้ไขเพิ่มเติมมาตราที่เกี่ยวเนื่องกับหลักการนั้น ในเมื่อหลักการนั้นคือมาตรา 83 และ 91 การที่จะแก้ไขเพิ่มเติมมาตราที่เกี่ยวเนื่อง ก็ต้องยังอยู่ใน 83 และ 91 แต่นายไพบูลย์ไปลักไก่ บอกว่าหลักการคือแก้ไขบัตรใบเดียวเป็นบัตรสองใบ แล้วจึงเอามาตรา 86 มา ทั้งๆ ที่รัฐสภาส่งมาให้แปรญัตติ มีแค่ 83 กับ 91 เท่านั้น 
    นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านสภาวาระ 3 แล้ว ว่า ตามกำหนดระยะเวลา 15 วัน หากไม่มีใครยื่นศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากนี้จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ส่วนที่ นพ.วรงค์ ระบุว่าหากนายกรัฐมนตรีเห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญมีปัญหา สามารถยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญก่อนขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายได้ เรื่องนี้ก็แล้วแต่นายกฯ แต่ทางสภาก็ต้องทำตามกรอบกฎหมาย โดยจะส่งไปให้นายกรัฐมนตรีเพื่อนำเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ส่วนกรณีที่ ส.ส.จะรวบรวมรายชื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความนั้น ขณะนี้ยังไม่เห็นมีใครส่งมา.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"