เท2.7หมื่นล.ช่วยครองชีพคนจน


เพิ่มเพื่อน    

บัตรคนจนเฮ! ครม.เคาะงบกลาง 2.7 หมื่นล้าน ช่วยค่าครองชีพตั้งแต่ ต.ค.64-ก.ย.65 ลดค่าน้ำค่าไฟ อุดหนุนค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค-ค่าเดินทาง คงเบี้ยผู้พิการ 1 พันบาท เตรียมเปิดลงทะเบียน “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” พร้อมปรับหลักเกณฑ์ “ทัวร์เที่ยวไทย” ไฟเขียวลดเงินสมทบประกันสังคมอีก 3 เดือน 
    ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 21 กันยายน นายธนกร วังบุญคงชนะ  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี  (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการและขยายมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา อนุมัติงบกลาง ปี 64 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 27,005.66  ล้านบาท เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังนี้ 1.วงเงิน 2,018 ล้านบาท  เพื่อขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำ/ค่าไฟ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 - กันยายน 2565 (12 เดือน) - กรณีใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน ติดต่อกัน 3 เดือน ให้ใช้สิทธิ์ค่าไฟฟ้าฟรีตามมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบัน กรณีใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน ให้ใช้สิทธิ์ตามมาตรการนี้ในวงเงิน 315 บาท/ครัวเรือน/เดือน กรณีใช้เกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด  ครอบคลุม 1.9 ล้านครัวเรือนโดยประมาณ, สนับสนุนค่าน้ำประปา วงเงิน 100 บาท/ครัวเรือน/เดือน ในกรณีใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท  แต่ไม่เกิน 315 บาท ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท  โดยส่วนเกินต้องชำระด้วยตนเอง และกรณีการใช้น้ำประปาเกิน 315  บาท ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรับภาระในการชำระค่าน้ำประปาเองทั้งหมด ครอบคลุมประมาณ 186,625 ครัวเรือน 
    2.วงเงิน 18,815 ล้านบาท สนับสนุนค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และการเพิ่มเบี้ยความพิการ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน สำหรับค่าซื้อสินค้าอุปโภค/บริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อการเกษตรจากร้านธงฟ้าประชารัฐและร้านอื่นๆ  โดยผู้มีสิทธิ์ที่มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน  100,000 บาท/ปี ได้รับ 200 บาท/คน/เดือน ในส่วนผู้มีสิทธิ์ที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี ได้รับ 300 บาท/คน/เดือน และได้รับส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 55 บาท/คน/3 เดือน, ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อาทิ ค่าโดยสาร ขสมก.ระบบ e-Ticket/รถไฟฟ้า, บขส., รถไฟ อย่างละ 500 บาท/คน/เดือน, เบี้ยความพิการ จำนวน  1,000 บาท/คน/เดือน อีกด้วย 
    3.วงเงิน 1,642 ล้านบาท ดำเนินโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (รอบใหม่) เพื่อรองรับกระบวนการลงทะเบียนรอบใหม่ โดยจะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการรับลงทะเบียนของหน่วยรับลงทะเบียน และค่าใช้จ่ายในการผลิตและบริหารจัดการบัตรฯ 4.วงเงิน  4,530.66 ล้านบาท สำหรับจัดสรรสวัสดิการแบบไม่มีกำหนดระยะเวลาสำหรับผู้มีรายได้น้อย ภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (รอบใหม่) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีบัตรฯ และเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาจทำให้ผู้สมัครรอบใหม่มีจำนวนเพิ่มขึ้น 
    “การช่วยเหลือลดอัตราค่าน้ำ/ค่าไฟ ตลอดจนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  เป็นส่วนหนึ่งของกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานราก โดยมุ่งให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่รัฐบาลห่วงใยเพื่อให้สามารถเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและกระจายรายได้ รวมทั้งการยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ประชาชนให้เป็นไปอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี" โฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ
    นายธนกรกล่าวว่า ครม.ยังมีมติเห็นชอบให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปรับปรุงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 และโครงการทัวร์เที่ยวไทย โดยเปลี่ยนแปลงระยะเวลาสิ้นสุดการดำเนินโครงการทั้ง 2 โครงการ เป็นวันที่ 28 ก.พ.65 และกำหนดให้ประชาชนใช้สิทธิ์ได้ไม่เกินวันที่ 31  ม.ค.65 พร้อมให้ ททท.เร่งรัดการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน  รายละเอียดดังนี้ 1.โครงการทัวร์เที่ยวไทย ปรับ 2 หลักเกณฑ์ ได้แก่  (1) เปลี่ยนแปลงการเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัด สามารถเดินทางได้ทุกวัน จากเดิมเดินทางได้เฉพาะวันอาทิตย์-พฤหัสบดี (2) เพิ่มรายการนำเที่ยวเป็น 30 รายการต่อบริษัท จากเดิม 15 รายการต่อบริษัท 
    2.โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 ขณะนี้ได้เตรียมเปิดลงทะเบียนสำหรับผู้ประกอบการที่จะสมัครเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 24  ก.ย.-1 ต.ค.64 ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะสามารถเริ่มดำเนินโครงการและให้ประชาชนใช้สิทธิ์ท่องเที่ยวในเดือน ต.ค.นี้ โดยรัฐสนับสนุนค่าโรงแรม  40% (ไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน) คูปองอาหาร 600 บาทต่อคืน และค่าตั๋วเครื่องบิน 40% (ไม่เกิน 2,000 บาท หรือ 3,000  บาท โดยดูตามเงื่อนไขของแต่ละจังหวัด) ส่วนโครงการทัวร์เที่ยวไทยนั้น รัฐสมทบเงินให้ 40% ของราคาแพ็กเกจท่องเที่ยว หรือไม่เกิน  5,000 บาทต่อคน 
    ทั้งนี้ ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการที่พัก/โรงแรม/ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรการต่าง ๆ ของ ศบค.และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการควบคุม ป้องกันโรคควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีความรุนแรงในช่วงระหว่างดำเนินโครงการ ททท.สามารถขอยุติดำเนินการได้ทั้ง 2  โครงการ 
    โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวด้วยว่า ครม.อนุมัติขยายเวลาปรับลดอัตราจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคมเพิ่มอีก 3 เดือน ตั้งแต่ 1  ก.ย.-30 พ.ย.64 ลดอัตราเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา  33 จากเดิมฝ่ายละร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 2.5 ของค่าจ้างผู้ประกันตน ในส่วนผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ให้ปรับลดอัตราจ่ายเงินสมทบจากเดิมในอัตราเดือนละ 432 บาท ลดลงเหลือ 235 บาท/เดือน   โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.64 เป็นต้นไป 
    ด้านนางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเปิดให้ประชาชนใช้สิทธิ์ซื้ออาหารและเครื่องดื่มจากร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery  Platform) ตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.64 โดยรัฐจะสนับสนุนเงินในส่วนค่าอาหารและ/หรือเครื่องดื่มเท่านั้น ไม่รวมถึงค่าจัดส่งหรือค่าใช้จ่ายอื่นใด
    โดยขณะนี้มีผู้ให้บริการ Food Delivery Platform ที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการแล้ว 2 ราย และอยู่ระหว่างเชื่อมโยงระบบกับโครงการ ได้แก่ 1.Grab โดยจะเก็บค่าธรรมเนียมหรือส่วนแบ่งการขายจากร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการไม่เกิน 20% และลดค่าจัดส่งอาหารและเครื่องดื่มให้แก่ประชาชน 25 บาท เมื่อสั่งซื้อขั้นต่ำ  150 บาท สำหรับการสั่งซื้ออื่นๆ ที่ไม่ใช่จากโครงการ และ 2. LINEMAN โดยจะเก็บค่าธรรมเนียมฯ จากร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการไม่เกิน 20% และสนับสนุนค่าจัดส่งอาหารและเครื่องดื่มในโครงการให้แก่ประชาชน 35-50 บาทต่อครั้ง หรือไม่เกิน  2,000 บาทตลอดระยะเวลาโครงการ สำหรับผู้ประกอบการที่ประสงค์จะขายอาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการ Food Delivery  Platform สามารถสมัครผ่านแอปพลิเคชันถุงเงินได้ตั้งแต่วันที่ 24  ก.ย.64 เป็นต้นไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"