23 ก.ย. 2564 นายภาณุศักดิ์ ซื่อสัตย์บุญ ผู้จัดการทั่วไป เดอะพิซซ่า คอมปะนี ภายใต้การดำเนินการของบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาภาพรวมตลาดพิซซ่าหลังจากที่ภาครัฐบาลได้ออกมาตรการคลายล็อกดาวน์ และออกแผนการจัดสรรวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชนทั่วประเทศ พบว่าทิศทางตลาดในไตรมาสสุดท้ายก็มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น กำลังซื้อทั้งกลุ่มลูกค้าในร้านและเดลิเวอรีมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง  

ขณะเดียวกันเพื่อให้เกิดประโยชน์กับกลุ่มผู้บริโภคและกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดใหญ่ที่มีต้นทุนสูงที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดตลอดไตรมาส 2-3 ที่ผ่านมาบริษัทฯ ขอเสนอให้ภาครัฐหาแนวทางในการช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ในเดือนตุลาคมนี้ ควรขยายประเภทร้านอาหารที่เข้าร่วมให้ครอบคุลมมากยิ่งขึ้น  

“ในช่วงที่มีโครงการคนละครึ่งยอมรับว่ากระทบต่อยอดขาย มองว่าควรสร้างความเท่าเทียมให้ร้านอาหารขนาดใหญ่ได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว เพื่อเป็นการพยุงยอดขาย โดยในปีนี้ยอดขายตกหนักติดลบมากถึง 15% มองว่าถ้าเปิดประเทศได้ก็จะช่วยกระตุ้นยอขายได้ทางหนึ่ง หรืออาจจะทำให้สิ้นปีทรงตัวมีรายได้ 7,000 ล้านบาท” ทั้งนี้ หากไม่มีการเปิดประเทศในช่วงปลายปีก็มองว่าจะทำให้การฟื้นตัวช้ากว่าเดิม โดยปัจจุบันมูลค่าตลาดพิซซ่าอยู่ที่ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ติดลบ 15% แม้ว่าหลังจากผ่อนคลายมารตรการแล้วจะมียอดขายดีขึ้น แต่ยอดผู้เข้ามาใช้บริการในร้านยังไม่ปกติ หรือกลับมาแค่ 30% จากก่อนหน้าลดลงไปประมาณ 60-70%   

สำหรับแนวทางในการทำตลาดหลังจากผ่อนคลายล็อกดาวน์ก็ต้องออกแคมเปญเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการลดราคา ออกสินค้าใหม่เพื่อดึงดูดลูกค้ากลับเข้ามาใช้บริการ อาทิ ได้จัดแคมเปญส่งเสริมการตลาด ซื้อ 1 แถม 1 “รอบพิเศษ ทุกหน้า ทุกขอบ ทุกช่องทาง ทุกวัน” โดยเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเลือกซื้อได้ไม่จำกัดประเภทหน้าพิซซ่า ไม่จำกัดขอบไม่จำกัดประเภท รวมถึงนิวยอร์กพิซซ่า XXXL 18 นิ้ว ก็ร่วมแคมเปญดังกล่าวอีด้วย