'เดอะ พิซซ่า'อ่วมเจอพิษโควิดฉุดเร่งเกมจัดโปร1แถม1ดึงลูกค้าปลายปี


เพิ่มเพื่อน    

7 ต.ค. 63 - นายภาณุศักดิ์ ซื่อสัตย์บุญ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ภายใต้การดำเนินการของ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  ภาพรวมตลาดหลังสถานการณ์โควิด-19 ค่อนข้างเงียบ เนื่องจากผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย แม้ว่าจะคลายล็อกดาวน์ไปแล้วแต่พบว่าผู้เข้าใช้บริการกลับมาเพียงแค่ 50% เท่านั้น นับเป็นโจทย์ที่ท้าทายอย่างมากท่ามกลางวิกฤตของโรคระบาดและเศรษฐศาสตร์ที่มีผลต่อกำลังซื้อในปีนี้ 

สำหรับแนวทางในการดำเนินงานธุรกิจนับจากนี้ จะให้ความสำคัญกับการดึงคนกลับเข้ามาใช้บริการสาขามากขึ้น ซึ่งยอมรับว่าไตรมาสสุดท้ายต้องคิดหนักและทำงานมากกว่าเดิม เพื่อหาสิ่งใหม่ในการดึงลูกค้าเข้ามาที่ร้าน เบื้องต้นอยู่ระหว่างการวางแผนคิดอยู่ว่าจะทำร้านอาหารพิซซ่าที่ดีกว่าเดิมได้อย่างไร โดอาจจะเป็นการพัฒนาเมนูอาหารกลุ่มใหม่ การตกแต่งร้าน และบริการด้านอื่นๆ ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคนี้ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด  

ขณะเดียวกันในช่วงที่ผ่านมาหนึ่งในกลยุทธ์ ที่สามารถผลักดันลูกค้าให้กลับเข้ามาใช้บริการมากขึ้น คงเป็นการเปิดตัวพิซซ่ายักษ์ 18 นิ้วสไตล์นิวยอร์ก จะเห็นได้ว่ามีผลตอบรับค่อนข้างดีเป็นอย่างมาก สามารถทำให้ผู้เข้าใช้บริการกลับมาที่ 80% ของแต่ละสาขาที่เปิดให้บริการ รวมถึงยังได้เปิดตัวโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 จากปกติจะทำในเดือนมีนาคมของทุกปี แต่ในช่วงเดือนตุลาคมที่นับว่าเป็นโลว์ซีซั่น จึงอยากขยายโปรโมชั่นดังกล่าว นับเป็นครั้งแรกที่เลือกจัดซื้อ 1 แถม 1 ปลายปีเช่นนี้ 

ทั้งนี้จากพฤติกรรมผู้บริโภคพบว่าการสั่งซื้อพิซซ่าไม่ใช่เป็นเพียงแค่การรับประทานเองเท่านั้น แต่ยังมีออเดอร์สินค้าไปเพื่อจัดงานเลี้ยง งานวันเกิด หรือแม้กระทั่งส่งเป็นกำลังใจให้เพื่อนและคนที่รัก มองว่าการทำโปรโมชั่นแบบซื้อ 1 แถม 1 อาจจะไม่เพียงพอแล้ว จึงเป็นที่มาของแคมเปญ "พิซซ่าซึ้งๆ มาให้เธอ" ครั้งแรกในตลาดพิซซ่าที่รับทำข้อความบนกล่องพิซซ่าเพื่อส่งไปที่บ้าน มีทั้งหมด 21 ข้อความ จาก 7 หมวดความรู้สึก เริ่ม 8 ตุลาคม - 22 พฤศจิกายน 2563 ควบคู่ไปกับการทำมิวสิคมาร์เก็ตติ้งครั้งแรก โดยร่วมมือกับทางแกรมมี่ในการนำวงดนตรี Tilly Birds มาถ่ายทอดเพลงเก่าของ วสันต์ โชติกุล กับเพลง "ให้เธอ" เพื่อเป็นการขยายกลุ่มเป้าหมาไปยังวัยรุ่นหรือคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น 

 นายภาณุศักดิ์ กล่าวว่า ในแง่ของเม็ดเงินการลงทุนอาจจะชะลอในเรื่องของการขยายสาขาไปบ้าง ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยังคงทุ่มเม็ดเงินเพื่อทำการตลาดอย่างหนัก เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เนื่องจากในบางทำเลที่อยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวยังคงได้รับผลกระทบ และอาจจะสูญเสียรายได้จากตลาดนักท่องเที่ยว บริษัทฯ ต้องมีแนวทางเพื่อรับมือกับปัจจัยลบดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการออกพิซซ่าหน้าใหม่ๆ และแคมเปญต่างๆ อย่างต่อเนื่อง  

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทยังปิดให้บริการในบางสาขาหรือประมาณ 7 สาขา จาก 426 สาขาที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดชั่คราวเป็นระยะเวลา 6 เดือน หรือในบางแห่งอาจจะต้องพิจารณาปิดถาวรไป เนื่องจากไม่คุ้มทุนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งตอนนี้จะต้องบริหารต้นทุนและสภาพคล่องให้มีประสิทธิภาพสูงสุด แต่เชื่อว่าในปีหน้าบริษัทฯ จะพร้อมลงทุนทันที หากสถานการณ์เศรษฐกิจฟื้นตัวและนักท่องเที่ยวเดินทางกลับมา โดยอาจจะลดขนาดของสาขาลงกว่าเดิมจากปกติ 300 ตารางเมตร เหลือประมาณ 180-200 ตารางเมตร


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"